แนะนำ 7 ซีรีส์ Anthology เนื้อหาจบในตอน หรือในซีซั่น แนวระทึกขวัญ/สยองขวัญ ที่แฟนซีรีส์ไม่ควรพลาด

ซีรีส์ Anthology

ช่วงหลัง ๆ มานี้มักเต็มไปด้วยซีรีส์แนว Anthology หรือซีรีส์ที่เนื้อหาจบในตอน หรือในซีซั่น และหนึ่งใน Genre ที่นิยมมาก ๆ ของซีรีส์แนวนี้คือ ระทึกขวัญ หรือสยองขวัญ ที่ได้ทีมผู้สร้างมากฝีมือไปร่วมงานในแต่ละเรื่อง โพสต์นี้เราเลยรวบรวมซีรีส์ Anthology แนว ระทึกขวัญมาให้ได้ชมกัน เรียกได้ว่าแต่ละเรื่องไม่ธรรมดา แน่นอน

7. Folklore

ผลงานซีรีส์จากเอเชีย ที่เป็นการหยิบนำตำนานเมืองของแต่ละประเทศมานำเสนอเป็นหนังสั้นผ่านวิสัยทัศน์ของผู้กำกับแต่ละประเทศนั้น ๆ โดยจะประกอบไปด้วย อินโดนีเซีย, สิงคโปร์,  ฟิลิปปินส์, ใต้หวัน, มาเลเซีย, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และไทย

ความน่าสนใจคือนี่เป็นซีรีส์ที่สามารถสะท้อนภาพความเชื่อ วัฒนธรรมเรื่องวิญญาณของแต่ละประเทศ ซึ่งนอกจากความน่ากลัวที่เราจะได้รับจากหนังสั้นแต่ละเรื่อง ผู้ชมยังจะได้เห็นพิธีกรรม หรือตำนานผีที่อาจไม่เคยได้ยินมาก่อน สำหรับความน่ากลัว ในซีรีส์เรื่องนี้อาจไม่ได้ถึงขั้นสยดสยอง บางตอนอาจหนักไปทางดราม่า และมีเรื่องผี เรื่องวิญญาณเป็นส่วนเสริมให้แก่นของหนัง

ในด้านของไทยเองก็ได้สองผู้กำกับไปร่วมโปรเจกต์นี้ ในซีซั่น 1 คือ เป็นเอก รัตนเรือง (เรื่องตลก69) ที่มากำกับในตอน ปอบ และในซีซั่น 2 คือ โดม-สิทธิศิริ (แสงกระสือ) ที่มากำกับในตอน Broker of Death ซึ่งทั้งสองเรื่องก็สะท้อนความเชื่อเรื่องผี เรื่องวิญญาณ ของไทยในรสชาติที่ต่างกันไป และยังเป็นงานที่โดดเด่นมาก ๆ ของ Folklore ทั้ง 2 ซีซั่น และนอกจาก 2 ผู้กำกับไทยแล้วก็ยังมีผู้กำกับเอเชียมากฝีมือคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น อีริค คู (Be WithMe) และโยโก อันวาร์ (Impetigore) ก็มาร่วมสร้างสรรค์งานให้โปรเจกต์นี้เช่นกัน

สามารถรับชมซีรีส์  Folklore ได้แล้ววันนี้ที่ HBO GO

6. The Terror

งานซีรีส์สยองขวัญที่ได้ ริดลีย์ สก้อต (The Last Battle) มารับหน้าที่อำนวยการสร้าง โดยมีคอนเซปต์คือการหยิบเรื่องเล่าที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ มานำเสนอในรูปแบบมินิซีรีส์ 10 Ep. ต่อซีซั่น ซึ่งในซีซั่นแรกซีรีส์จะว่าด้วยตำนานของเรือเทอร์เรอร์ เรือสำรวจมหาสมุทรจากทหารอังกฤษ ที่ทำภารกิจค้นหาเส้นทางคาบสมุทรอินเดีย แต่ทว่าเรือต้องติดอยู่ท่ามกลางน้ำแข็งที่ไม่สามารถไปไหนได้ พร้อมทั้งยังต้องเผชิญกับตำนานอาถรรพ์ของ แอนตาร์กติก ส่วนซีรีส์ 2 จะพูดถึงวิญญาอาฆาตของญี่ปุ่น ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จนนำมาสู่เรื่องลี้ลับมากมายที่เกิดขึ้นกับครอบครัวชาวญี่ปุ่น ที่ว่าด้วยความแค้นของวิญญาณหญิงสาวที่หวังล้างแค้นคนที่ทำให้เธอต้องตาย

โดยความน่าสนใจของซีรีส์เรื่องนี้คือการนำเสนอบริบทประวัติศาสตร์สองยุคสองสมัยได้เป็นอย่างดี งานโปรดักชั้นเรียกได้ว่าจัดเต็มมาก ยิ่งในซีซั่นแรกที่เป็นเรือ Terror เราจะได้เห็นหนังระทึกขวัญสัตว์ประหลาด ที่ทั้งน่ากลัว และตื่นเต้นมาก ๆ ส่วนด้านความสยอง ซีรีส์ทั้งสองซีซั่นสามารถถ่ายทอดความน่ากลัว ทั้งการตายที่สยดสยอง และการสะท้อนจิตใจที่โหดร้ายของมนุษย์ ใครที่ชอบซีรีส์โทนดาร์ก แนะนำว่าไม่ควรพลาด

สามารถรับชมซีรีส์ The Terror ได้แล้ววันนี้ที่ Amazon Prime

5. Black Mirror

ผลงานซีรีส์ไซไฟ Anthology สุดโด่งดังจาก Netflix ซึ่งตัวคอนเซปต์อาจไม่ได้ต่างจาก Love Death & Robots มากนัก เพียงแต่ใน Black Mirror จะเป็นซีรีส์คนแสดง ที่จะมีรูปแบบการเล่าเรื่องแบบภาพยนตร์ ซึ่งแต่ละตอนก็จะได้ผู้กำกับหนังชื่อดังที่เราพอคุ้นชื่อมาร่วมงานแต่ละตอน ไม่ว่าจะเป็น โจ ไรท์ (Darkest Hour), โจดี้ ฟอสเตอร์ (Money Monster), เจมส์ วัตส์กิน (The Woman in Black) และ โทบี้ เฮย์นส์ (ซีรีส์ Sherlock)

ซึ่งความน่าสนใจของซีรีส์ Black Mirror คือการที่พลอตของแต่ละเรื่องในซีรีส์มีความโดดเด่นมาก หนังสามารถนำเสนอทั้งความเป็นดิสโทเบียในโลกอนาคต หรือการใช้เทคโนโลยีมาสะท้อนจิตใจของมนุษย์ นอกจากนี้ Black Mirror ก็ยังเคยมีตอนพิเศษที่มีชื่อว่า Bandersnatch ซึ่งเป็นหนังแนว Interactive ที่ให้ผู้ชมเป็นคนเลือกเส้นทางให้ตัวละคร จนนำมาสู่ตอนจบแบบต่าง ๆ ของเรื่อง เรียกได้ว่าเป็นงานที่เจ๋งทั้งพลอต และรูปแบบการนำเสนอโดยแท้จริง

สามารถรับชมซีรีส์ Black Mirror ได้แล้ววันนี้ที่ Netflix

4. American Crime Story

อีกหนึ่งผลงานซีรีส์จาก ไรอัน เมอร์ฟี่ แต่ครั้งนี่คือการหยิบเรื่องราวคดีสุดโด่งดังของอเมริกา มานำเสนอ ซึ่งตอนนี้มีทั้งหมด 3 ซีซั่น โดย ซีซั่น 1 คือการหยิบคดีของ โอเจ ซิมป์สัน นักอเมริกันฟุตบอลที่ต้องสงสัยว่าฆาตกรรมอดีตภรรยามาเล่าผ่านเรื่องราวในศาล ซีซั่นที่ 2 คือการพูดถึงคดรฆาตกรรมนักออกแบบเสื้อผ้าชื่อดัง เวอร์ซาเช่ ที่ถูกเกย์หนุ่มอย่าง แอนดรูว์ คูนาแนน ลงมือสังหารอย่างโหดเหี้ยม และซีซั่นที่ 3 คือการหยิบคดีอื้อฉาวของ บิล คลินตัน ที่ถูกกล่าวหาว่าทำการล่วงละเมิดทางเพศพนักงานหญิงที่ทำงานร่วมกับเขา

แม้จะมาจากทีมผู้สร้างชุดเดียวกัน แต่ American Crime Story กลับต่างจาก American Horror Story โดยสิ้นเชิง ด้วยสไตล์การเล่าเรื่องที่จริงจัง โทนเรื่องที่หม่นกว่า และมีการใช้พลังนักแสดงได้อย่างคุ้มค่า โดยเฉพาะ ซาราห์ พอลสัน และ ดาร์เรน คริส สองนักแสดงนำจากซีซั่น 1 และ 2 ที่ต่างคว้ารางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยมจากเวที Emmy Awards มาได้

โดยตอนนี้สามารถรับชมซีรีส์ American Crime Story ซีซั่น 1 และ 2 ได้แล้ววันนี้ที่ Netflix

3. American Horror Story

ผลงานซีรีส์ Anthology สุดโด่งดังที่คอหนังสยองขวัญไม่มีใครไม่รู้จัก โดยเป็นผลงานของเจ้าพ่อซีรีส์สุดแมสอย่าง ไรอัน เมอร์ฟี่ (ซีรีส์ Glee) คอนเซปต์ของ American Horror Story คือการหยิบตำนานความสยองในรูปแบบต่าง ๆ มาเลาเป็นเรื่องราวสุดคลั่ง ในแต่ละซีซั่น ไม่ว่าจะเป็น ตำนานชาวโรอาโน้ก, บ้านผีสิง, เอเลี่ยน เป็นต้น

สำหรับตอนนี้ซีรีส์ American Horror Story มีมาแล้วทั้งหมด 10 ซีซั่น ซึ่งส่วนใหญ่จะได้นักแสดงทีมเดิมมาแสดงนำ ไม่ว่าจะเป็น ซาราห์ พอลสัน (Run) ที่ได้กลายเป็นเจ้าแม่ของซีรีส์ชุดนี้เป็นที่เรียบร้อย, อีแวน ปีเตอร์ (ซีรีส์ WandaVision), เจสสิก้า แลงก์ (Big Fish) และ เทสซา ฟาร์มิก้า (The Nun) โดยหนึ่งในจุดเด่นของซีรีส์ชุดนี้คือความสยองขวัญแบบเฉพาะตัวของ ไรอัน เมอร์ฟี่ ที่เต็มไปด้วยความคลั่ง ตัวละครที่ต่างมีปม มีความไม่สมบูรณ์แบบ เมื่อพวกเขาต้องมาเจอกันมันเลยกลายเป็นความสนุกแบบที่ไม่เหมือนใคร

สามารถรับชมซีรีส์ American Horror Story ได้แล้ววันนี้ที่ Disney+ Hotstar

2. Love Death & Robots

ผลงานซีรีส์แนวอนิเมชั่น ปรัชญา ไซไฟ ที่ได้ เดวิด ฟินเชอร์ (Gone Girl) และ ทิม มิลเลอร์ มารับหน้าที่อำนวยการสร้าง รวมถึงกำกับในบางตอน ซึ่งคอนเซปต์ของซีรีส์ชุดนี้คือการนำเสนอเรื่องราวของ ความรัก ความตาย และหุ่นยนต์ หรือเทคโนโลยี ซึ่งแต่ละตอนจะได้อนิเมเตอร์มากฝีมือจากสตูดิโอต่าง ๆ มาร่วมสร้างสรรค์ โดยจะมีตั้งแต่อนิเมชั่น 2D, 3D ไปจนถึง Motion Capture

โดยตอนนี้ Love Death & Robots ได้มีมาแล้วทั้งหมด 3 ซีซั่น ซึ่งหนึ่งในตอนที่โด่งดังมาก ๆ ของซีซั่นนี้คือตอน Jibaro ที่ได้อนิเมเตอร์เจ้าของรางวัลออสการ์อย่าง อัลเบอร์ โต มิเอลโก มารับหน้าที่กำกับ ซึ่งในเรื่องนี้ก็มีการสร้างสรรค์ฉากอนิเมชั่นที่ออกมาสมจริง และยังคงความโหด ดิบ ที่เป็นลายเซ็นของซีรีส์ชุดนี้

ใครที่ชื่นชอบอนิเมชั่นเนื้อหา 18+ และเปี่ยมด้วยความเป็นไซไฟสุดล้ำ ภาพอลังการ สามารถรับชมซีรีส์ Love Death & Robots ได้แล้ววันนี้ที่ Netflix

1.Twilight Zone

ซีรีส์ Anthology แนวไซไฟ ระทึกขวัญในตำนาน ที่เริ่มฉายครั้งแรกตั้งแต่ปี 1959 โดยคอนเซปต์ของซีรีส์คือการพูดถึงเรื่องลี้ลับเช่น โลกคู่ขนาน เอเลี่ยน การเดินทางข้ามเวลา เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์ที่แฟนหนัง แฟนนิยายวิทยาศาสตร์น่าจะชื่นชอบไม่น้อย

โดย Twilight Zone เวอร์ชั่นล่าสุดนั้นก็ได้มือสร้างหนังสยองขวัญอย่าง จอร์แดน พีล (Get Out) มารับหน้าที่เป็นผู้เล่าเรื่อง และได้ ไซมอน คินเบิร์ก (X-Men: Dark Phoenix) มารับหน้าที่สร้างสรรค์ และอำนวยการสร้าง ซึ่งตัวซีรีส์อาจไม่ได้ดีเท่าเวอร์ชั่นเก่า ๆ แต่ก็นับว่าเป็นหยิบคอนเซปต์เก่า ๆ มาเล่าให้ร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น

ใครสนใจสามารถรับชมซีรีส์ Twilight Zone ทั้ง 2 ซีซั่นได้แล้ววันนี้ที่ HBO GO

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง