Categories
series

รีวิวซีรีส์​ Succession season1: ซีรีส์ดราม่าสุดเข้มข้น ที่ถ่ายทอดสงครามการแย่งชิงธุรกิจ

Succession เป็นอีกหนึ่งผลงานซีรีส์ดราม่าจาก HBO ที่สร้างสรรค์โดย เจสซี่ อาร์มสตรอง (ซีรีส์​ Veep) โดยซีซั่นแรกออนแอร์เมื่อปี 2018 และได้กลายเป็นอีกหนึ่งปรากฎการณ์ซีรีส์น้ำดี ที่ได้คะแนนจาก Rotten Tomatoes ไปถึง 89% พร้อมถูกยกย่องให้เป็น Game of Thrones ยุคใหม่

เนื้อหาของซีรีส์จะว่าด้วยตระกูลรอย ครอบครัวมหาเศรษฐีแห่งอเมริกา ที่ทำธุรกิจด้านสื่อฯ ที่มีผู้ก่อตั้งคือ โลแกน รอย (ไบรอัน ค้อก) แต่ด้วยวัยของ โลแกน ที่กลายเป็นคนชรา มีอาการหลงๆ ลืมๆ และโรคประจำตัว ทำให้ แคนดัล (เจเรมี่ สตรอง) ลูกชายคนรองของตระกูลหวังจะทำหน้าที่ดูแลธุรกิจของครอบครัวแทนพ่อของเขา ทว่าด้วยสายตายของ โลแกนที่มองว่า แคนดัล ยังไม่คู่ควรกับธุรกิจนี้ ทำให้โลแกนยังคงเป็นเจ้าของบริษัท ในขณะที่แคนดัล ก็ได้ร่วมมือกับพี่น้องของเขาในการโค่นพ่อของตัวเองออกจากอำนาจ

แม้ว่าเนื้อหาของ Succession จะดูเป็นซีรีส์ธุรกิจ แต่เนื้อในของตัวซีรีส์นั้นมาพร้อมพลอตที่มีความเป็นสูตรสำเร็จที่คนไทยคุ้นเคยอย่างเรื่องสงครามชิงสมบัติภายในตระกูล โดยซีรีส์มีบริบทของธุรกิจเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนให้เรื่องราวดูเข้มข้น น่าติดตาม

จุดขายของซีรีส์คือการเล่นกับความสัมพันธ์ของตัวละคร ที่ตลอดทั้งเรื่องผู้ชมจะได้เห็นสงครามจิตวิทยา ความขัดแย้งของแต่ละตัวละครหลักในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งของพี่น้อง พ่อลูก สามีและภรรยา รวมถึงเจ้านาย และลูกน้อง ที่ต่างเป็นกลไกขับเคลื่อนให้ซีรีส์ชุดนี้เดินหน้าอย่างลงตัว ทุกเส้นเรื่องถูกหยิบมาเชื่อมโยงกันด้วยบทที่ชาญฉลาด

หากเทียบกันให้เห็นภาพ Succession ไม่ต่างจากซีรีส์ Game of Thrones ที่เปลี่ยนมาอยู่ในบริบทของยุคปัจจุบัน ผู้ชมจะได้เห็นบทที่เชือดเฉือนไปมา ตัวละครที่มีความเป็นสีเทาๆ ไม่มีใครดี หรือร้ายอย่างสุดๆ และสงครามการชิงอำนาจ ที่เข้มข้น เต็มไปด้วยความพีคในตอนท้ายๆ

ด้านการแสดงต้องขอชื่นชม ไบรอัน ค้อก และ เจเรมี่ สตรอง ที่ต่างถ่ายทอดบทพ่อลูกได้เชือดเฉือนอารมณ์มาก ทั้งสองสามารถถ่ายทอดความอึดอัด กระอักกระอ่วนในความสัมพันธ์นี้ได้อย่างทรงพลัง ทำให้ทุกครั้งที่สองคนนี้เข้าฉากด้วยกันมักเต็มไปด้วยซีนอารมณ์ที่ดุเดือด ชวนลุ้น

โดยรวม Succession season 1 นับว่าเป็นอีกซีรีส์น้ำดีของ HBO ที่เปิดตัวมาได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งบทที่เข้มข้น การเล่าเรื่องที่สนุก น่าติดตาม ซึ่งเป็นความลงตัวที่ชวนให้นึกถึงความสำเร็จของซีรีส์ Game of Thrones ซีซั่นแรกๆ ใครที่ชอบซีรีส์หักเหลี่ยม เฉือนคม นี่คืออีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรพลาด

สามารถรับชมซีรีส์ Succession ได้แล้ววันนี้ที่ HBO Go

Cr.ภาพ: IMDB

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง 

Categories
series

From Now Showtime ซีรีส์เกาหลีว่าด้วยมายากลกับความลี้ลับสุดฮา

                ซีรีส์เกาหลีแกะกล่องที่น่าสนใจยังคงเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง เนื้อเรื่องค่อนข้างขำมากพอสมควร ไม่มีใครคิดว่ามายากล ผี จะช่วยป้องกันอาชญากรรมได้ โดยซีรีส์เรื่องนี้มีชื่อว่า “From Now, Showtime!” โดยเปิดตัวในปี 2022 มีนักแสดงของเรื่องคือ ปาร์คแฮจิน จินกีจู มาเจอกันในฐานะพระนางของซีรีส์ โดยเริ่มออกอากาศตอนแรก 23 เมษายน ผ่านช่อง MBC ของเกาหลีใต้ หลายๆ คนที่อยากได้แบบเบาสมองพร้อมสืบสวนในตัว ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว

ตัวละครที่น่าสนใจในเรื่อง คือ “ชาชาวุง” เป็นตัวละครที่ได้รับความนิยม ในเรื่องเป็นพระเอก โดยชอบเล่นอะไรที่ท้าทายชีวิต และเป็นนักมายากลทีวีที่มีรสนิยมงดงาม กลอุบาย มายากลที่แสดงของเขาทำให้ผู้ชมตื่นตาตื่นใจ แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้ เขามีกลุ่มผู้ช่วยลับ! อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ผู้ช่วยของนักมายากลธรรมดา จริงๆ แล้วพวกเขาเป็นผีผู้ช่วย แต่ชาชาวุงไม่กลัวสิ่งมีชีวิตจากโลกของวิญญาณ อันที่จริงเขาปฏิบัติต่อพวกเขาเหมือนเป็นพนักงานของเขา…และพวกเขากลับเชื่อว่าเขาเป็น “เจ้านาย” ของพวกเขา และพวกเขาสมัครใจเป็นผู้ช่วยของพวกเขา

อยู่มาวันหนึ่ง เส้นทางของเขาตัดกับเส้นทางของ “โกซึลแฮ” เจ้าหน้าที่ตำรวจสาวที่หลงใหลและสามารถเห็นผีได้ แต่กลัวความสามารถของเธอ เขาพยายามที่จะปัดเป่าเธอออกไปเมื่อเธอสืบสวนเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการแสดงมายากลของเขา แต่ในไม่ช้าเธอก็ตระหนักว่าความสามารถที่ไม่ธรรมดาของนักมายากลอาจเป็นเครื่องมือในการต่อสู้กับอาชญากรรมที่สมบูรณ์แบบ เธอพยายามเกลี้ยกล่อมให้เขาเข้าร่วมกองกำลังตำรวจในความพยายามที่จะจับอาชญากรที่โหดร้าย และใช้บริวารที่น่ากลัวของเขาเพื่อช่วยสกัดกั้นผู้บงการที่ชั่วร้าย! แต่ในระหว่างการเป็นหุ้นส่วนนอกรีต ความโรแมนติกสามารถปรากฏตัวในที่เกิดเหตุได้หรือไม่? แล้วจะลงเอยยังไงดีสำหรับพระนางคู่นี้

                ด้วยความที่นางเอกค่อนข้างหัวร้อน บวกกับพระเอกที่ลึกลับไปเสียทุกอย่าง การจับกุมเป็นอะไรที่ยาก และเพื่อช่วยชีวิตผู้บริสุทธิ์อีกมากมาย บางทีแค่ใช้วิชาของมนุษย์ปกติเป็นอะไรที่ยากอยู่แล้ว แล้วยิ่งคดีนี้ยากขึ้นไปอีกจนต้องให้ทีมงานของพระเอกช่วยเหลือเพื่อคลี่คลายคดี อย่างไรก็ตาม ทีมงานพระเอกก็ไม่ค่อยเหมือนปุถุชนสักเท่าไหร่ แต่ที่แน่ๆ ความสนุกน่าจะเต็มพิกัด หากใครสนใจอย่าลืมดูตอนแรกผ่านช่อง MBC ของเกาหลีใต้ได้ทันที หรือใครที่อยากดูผ่านสตรีมสามารถดูได้ที่ Viu เพราะสามารถดูได้และพร้อมออกอากาศอย่างแน่นอน

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
manga

รีวิว มังงะ Kobato โคบาโตะ สาวน้อยนักผจญภัยหัวใจบริสุทธิ์

สำหรับใครที่ชอบความตื่นเต้นในการ์ตูน มังงะ แฟนตาซีแล้วล่ะก็ วันนี้เรามี มังงะ แนวที่ว่านี้มาฝากกันด้วย โดยมีชื่อเรื่องว่า Kobato โคบาโตะ ซึ่งเป็น มังงะ ที่อ่านแล้วทำให้เราได้ผจญภัยไปกับความแฟนตาซี  ให้เราได้โลดแล่นในจินตนาการแห่งโลกการ์ตูน มังงะ ซึ่งขอบอกเลยว่าเรื่องนี้นั้นทำออกมาได้ดีมากๆ เลยล่ะ ส่วนรายละเอียดและเนื้อหาจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น รีบตามมาดูกันเลย

การ์ตูน มังงะ เรื่อง Kobato โคบาโตะเป็นแนวเกี่ยวกับอะไร?

• เป็น มังงะ แนวการท่องโลกผจญภัยในต่างแดน บอกเลยว่าน่าตื่นเต้นสุดๆ

• มีความแฟนตาซีที่ทำให้เนื้อหาน่าติดตามมากยิ่งขึ้น

• มีความรัก โรแมนติก โม้เมนต์หวานๆ ของตัวละครให้เราได้ฟินกันด้วยล่ะ

• มีความคอมเมดี้ผสมทำให้เรื่องนี้สนุกครบรส ลงตัวสุดๆ

เรื่องย่อการ์ตูน มังงะ

เรื่องราวของการ์ตูน มังงะ โรแมนติกแฟนตาซี เรื่องนี้ มีตัวละครหลักด้วยกันดังนี้

• Kobato เด็กสาวแสนซื่อ หัวใจบริสุทธิ์

• Ioryogi เพื่อนของ โคบาโตะ ซึ่งมีนิสัยต่างกันสุดขั้ว

ณ เมืองแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น หัวใจที่ไร้เดียงสาของคนๆ หนึ่งกำลังส่องแสงระยิบระยับ เจ้าของหัวใจดวงนี้มีชื่อว่า โคบาโตะ ฮานาโตะ เธอมีผมสีน้ำตาลที่ดูแปลกและมีความไร้เดียงสา แม้จะเหมือนว่าเธอไม่เอาไหนเอาแต่เที่ยวเตร็ดเตร่ แต่หญิงสาวก็มีความปรารถนาที่จะเติมเต็มสิ่งอันล้ำค่าอย่างหนึ่งนั่นคือ การไปยังที่แห่งหนึ่ง แต่การที่จะไปยังที่แห่งนั้นได้ เธอจะต้องผ่านการทดสอบเพื่อจะให้ได้ขวดมา และเก็บหัวใจที่มีความเจ็บปวดให้เต็มขวดใบนั้นให้ได้ซะก่อน

โลกอาจดูใจร้ายกับเธอแต่ไม่ใช่ทั้งหมด แม้จะสร้างความสับสนให้กับเด็กสาวไร้เดียงสาอยู่บ้างแต่เธอก็ยังมี Ioryogi เพื่อนของเธอที่มีนิสัยค่อนข้างหยาบคายแตกต่างจากเธอโดยสิ้นเชิง แล้วไหนจะมีเจ้าตุ๊กตาสุนัขสีน้ำเงินพูดได้อีก แม้เธอจะสับสนไปบ้างแต่เธอก็ไม่ได้โดดเดี่ยวในการผจญภัยในโลกแฟนตาซีแห่งนั้นแน่นอน สามารถติดตาม มังงะ โรแมนติกแฟนตาซีนี้ได้ใน Kobato โคบาโตะ เรื่องนี้ได้เลย

สรุปความน่าสนใจของการ์ตูน มังงะ เรื่องนี้

การ์ตูน มังงะโรแมนติกแฟนตาซีเรื่องนี้ เป็นผลงานการแต่งและวาดภาพประกอบของอาจารย์ CLAMP โดยเรื่องนี้มีทั้งหมด 6 เล่มจบ และได้เริ่มเขียนเมื่อปี 2004 สำหรับความน่าสนใจของการ์ตูน มังงะ Kobato โคบาโตะ เรื่องนี้คือ ความแฟนตาซีสุดตื่นตาตื่นใจ อ่านแล้วให้อารมณ์เหมือนกำลังผจญภัยในดินแดนแฟนตาซีที่มีสุนัขพูดได้ด้วย ว้าวสุดๆ ซึ่งเรื่องนี้มีหลายเล่มให้เราได้ติดตามกันแบบจุใจไปเลย เพราะฉะนั้น ห้ามพลาดเด็ดขาด

รูปภาพประกอบ : myanimelist.net

รูปภาพประกอบ : pinterest.com

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง 

Categories
series

รักยิ้มของเธอ ซีรี่ย์รักสดใสในโลกกีฬาออนไลน์จาก WeTV

“ลู่ซือเฉิน พี่เผด็จการจริงๆ” คำที่สาวน้อยถงเหยาพูดด้วยความอัดอั้นตันใจแทบตลอดเรื่อง ในขณะที่อีกฝ่ายมักจะเรียกเธอว่า ยายเตี้ย และมักจะถามถงเหยาว่า “สมองมีรอยหยักหรือเปล่า” เรียกรอยยิ้มจากผู้ชมได้ทุกตอนเพราะว่าภายใต้ท่าทางเย็นชาของลู่ซือเฉินทุกคนสามารถรับรู้ได้ถึงความห่วงใยที่ปกปิดเอาไว้

ซีรี่ส์ รักยิ้มของเธอ (Falling into your smile) เปิดตัวด้วยเรื่องราวของสาวน้อยถงเหยา เกมเมอร์สตรีมมิ่งมีแฟนคลับพอสมควร เธอเริ่มเล่นเกมเพราะแฟนเก่าชื่อ เจี่ยนหยาง ที่ได้กลายเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตระดับประเทศ จนสุดท้ายก็เลิกราเพราะเจี่ยนหยางขาดการติตต่อหายไปจากชีวิต

วันหนึ่งถงเหยาถูกทดสอบในระหว่างการเล่นเกมออนไลน์โดยไม่รู้ตัว หลังจากนั้น ZGDX หนึ่งในทีมอีสปอร์ตชั้นนำส่งเทียบเชิญให้ถงเหยาไปเป็นหนึ่งในทีมแข่ง ถงเหยาลังเลและตัดสินใจเดินทางไปดูการแข่งของ ZGDX กับ CK ที่มีเจี่ยนหยางนำทีม ถงเหยาตัดสินใจได้ว่าจะร่วมทีมกับ ZGDX หลังจบการแข่ง

เจี่ยนหยางพยายามจะรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับเธอ แต่ในตอนนั้นถงเหยาได้จดจ่อที่จะเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตหญิงคนแรกของประเทศ แถม ZGDX ยังมี ลู่ซือเฉิน หัวหน้าทีมตัวสูงสุดหล่อขวัญใจสาวๆทั้งประเทศขวางทางอยู่

ลู่ซือเฉินเป็นคนเข้มงวดเย็นชาโดยเฉพาะกับถงเหยา  การติดต่อกับโลกภายนอกนั้นดูจะต้องผ่านการอนุมัติของเขาทุกอย่าง แถมยังเข้ามายุ่งแทบทุกเรื่อง กว่าจะมีใครทันรู้ตัวรวมทั้งถงเหยาด้วย ลู่ซือเฉิน เทพบุตรอีสปอร์ตแผนสูงก็ซึมลึกเข้ามาในหัวใจของถงเหยาเสียแล้ว

พล็อตเรื่องหนุ่มเย็นชาปากร้ายที่เพียบพร้อมทั้งสติปัญญา หน้าตาและฐานะ มาหลงรักผู้หญิงน่ารักแต่เตี้ย-หุ่นไม่ดี-กินเก่ง-ใสซื่อ-ท่าทางเปิ่นๆ พูดจาตรงไปตรงมา เป็นพล็อตฟินเนอเร่สูตรสำเร็จที่ใช้ได้ผลดีแทบทุกครั้ง และครั้งนี้ก็เช่นกัน

แม้ว่าเฉิงเซียวที่รับบท ถงเหยา นอกจากจะสวย ไม่เตี้ย ไม่อ้วน แต่ด้วยวิธีการแสดงของเธอดูแล้วน่าเชื่อมากกับการเป็นผู้หญิงไม่โดดเด่นแต่ดูไปดูมาก็น่ารักจนทำให้คนหล่อๆมากมายมาขายขนมจีบ ในขณะที่การมีสวีข่ายผู้รับบทเป็นลู่ซือเฉินเป็นคนตัวสูงมากและยังหน้าตาดีแบบไม่ต้องตั้งคำถาม ทำให้เฉิงเซียวเหมาะกับการเป็นยายเตี้ยของลู่ซือเฉินจริงๆ

แม้ว่าพล็อตรองของเหล่านางรองพระรองไม่ค่อยโดดเด่นมากนักแต่ก็ไม่สำคัญอะไร เพราะพล็อตหลักดึงดูดคนดูอยู่หมัด

ในด้านงานโปรดักชั่นไม่มีอะไรต้องติเลย การแข่งขันเกมออนไลน์จะดูน่าสนุกสมจริงดีมาก แต่ที่น่าสนใจคือสาระที่สอดแทรกระหว่างบรรทัดเกี่ยวกับอีสปอร์ตที่เรื่องนี้ได้เปิดเผยเรื่องราวของนักกีฬาชนิดนี้ในมุมมองที่คนทั่วไปอาจจะไม่รู้จัก

แต่แน่นอนว่าคนที่ไม่รู้จักหรือไม่ได้เข้าใจอะไรเลยกับกีฬาอีสปอร์ตอาจจะกลัวๆว่าจะดูไม่รู้เรื่อง แต่ว่าการไม่รู้อะไรเลยก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไรในการดู แนะนำว่าทำใจร่มๆดูฉากการต่อสู้ไปแบบผ่านๆ ค่อยๆเรียนรู้ไปกับเรื่องราวก็ได้ ไม่ต้องซีเรียส เพราะว่าอันที่จริงทุกคนก็รอลุ้นเด็กใหม่เปิ่นๆกับบอสสุดโหดว่าจะลงเอยกันอย่างไรได้มากกว่า..จริงมั้ย

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

รีวิวซีรีส์ Nine Perfect Strangers: ซีรีส์ดราม่าที่นำเสนอปัญหาเรื่องปัญหาทางจิตของปัจเจกบุคคลพีค และช่วงท้ายที่ยอดเยี่ยม

อีกหนึ่งผลงานซีรีส์ดราม่า จาก Prime Videos ผลงานการสร้างสรรค์โดย เดวิด อี เคลลี่ (ซีรีส์ Big Little Lies) และ จอห์น-เฮนรี่ บัตเตอร์วอร์ธ (Ford V Ferrari) ที่เป็นงานรวมดาราดังมาไว้แบบคับจอมากที่สุด นำทีมโดย นิโคล คิดแมน (Aquaman), ลุ้ค อีแวนส์ (Dracula Untold), เมลิสซ่า แมคคาร์ธนีย์ (The Little Mermaid), ไมเคิล แชนนอน (Man of Steel), บ้อบบี้ คาร์นาเวล (Ant-Man) และ ชามาล่า วีฟวิง (Ready or Not)

เรื่องราวของ Nine Perfect Strangers จะว่าด้วยกลุ่มคนแปลกหน้า 9 คน ที่ได้เดินทางมายังบ้านพักอันห่างไกลของ มาช่า (นิโคล คิดแมน) เพื่อร่วมกันมาทำการบำบัดจิตใจ ด้วยวิธิการทำสมาธิในรูปแบบต่างๆ แต่ทว่าเมื่อดำเนินการบำบัดไปเรื่อยๆ พวกเขาและเธอก็พบว่ามีความไม่ชอบมาพากลบางอย่างของตัวมาช่า และวิธีการบำบัด จนนำมาสู่เหตุการณ์ชวนระทึกมากมาย

Nine Perfect Strangers เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่เล่นกับบรรยากาศ และความระทึกในสถานที่ปิดตาย ห่างไกลจากโลกภายนอก ที่รวบรวมเหล่าผู้คนที่ไม่ปกติมาไว้ด้วยกัน กลิ่นอายจะชวนให้นึกถึงซีรีส์ White Lotus เพียงแต่ในเรื่องนี้ซีรีส์จะไม่ได้โฟกัสที่การพยายามผูกโยงเรื่องราว หรือเล่นกับความระทึกขวัญมากนัก แต่ซีรีส์จะหนักดราม่า โดยสำรวจมิติ และความเป็นมาของแต่ละตัวละคร

ความสนุกของซีรีส์คือการผสมผสานความดราม่า และความลึกลับ ระทึกขวัญ ได้อย่างลงตัว ผู้ชมจะได้เห็นปมของแต่ละตัวละคร ร่วมบำบัด และก้าวผ่านปัญหาชีวิตไปกับพวกเขาและเธอ ในขณะเดียวกันผู้ชมก็รับบทเป็นนักสืบ ที่ต้องไขความจริงของเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสถานที่แห่งนี้ ซึ่งเหตุการณ์ในแต่ละตอนก็ค่อยๆ ทวีความสนุก ตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น

ด้านทีมนักแสดงนำ เรียกได้ว่าปล่อยของมาได้อย่างจัดเต็มทุกคน ไม่ว่าจะเป็น นิโคล คิดแมน ที่มาพร้อมบทสุดลึกลับ และเต็มไปด้วยปมในอดีตที่น่าค้นหา รวมถึง ไมเคิล แชนนอน ก็เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่เต็มไปด้วยพาร์ทดราม่า และคอเมดี้ ที่ยอดเยี่ยม แต่ที่ต้องชื่นชมคือบทของ เรจินา ฮอล (Scary Movies) ที่ครั้งนี้เธอสลัดบทตลก สู่บทดราม่าของคนที่มีปัญหาทางจิต ที่เธอถ่ายทอดออกมาได้อย่างถึงอารมณ์มากๆ

ในส่วนของข้อด้อยของซีรีส์ชุดนี้ คือการที่ซีรีส์มีความยาวเกินไปของเนื้อหาที่นำเสนอ เนื่องจากทั้ง 8 ตอนของซีรีส์ มีช่วงที่เนิบช้า น่าเบื่อ และเนื้อหาวนอยู่กับที่ในบ่อยครั้ง นอกจากนี้ประเด็นของซีรีส์ที่น่าจะสามารถหยิบประเด็นต่างๆ มาเล่าให้พีคได้มากกว่านี้ แต่ซีรีส์กลับค่อนข้างเพลย์เซฟ จนทำให้หลายๆ ช่วงดูดรอปลงไปอย่างน่าเสียดาย

โดยภาพรวม Nine Perfect Strangers เป็นซีรีส์ขายดราม่า ปนระทึกขวัญ ที่เล่าได้ชวนติดตาม ซีรีส์เล่นกับประเด็นจิตวิทยาได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะพลังของนักแสดง ที่ปล่อยของกันแบบไม่มีกั้ก แม้ว่าจะมีช่วงที่น่าเบื่อไปบ้าง แต่ก็เป็น Limited Series แนวดราม่าที่หลายคนน่าจะชื่นชอบไม่น้อย

Cr.ภาพ: IMDB

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
manga

รีวิว มังงะ This Lonely Planet ขยับหัวใจเข้าใกล้นายมาดเข้ม

สำหรับใครที่ชื่นชอบการอ่านเรื่องราวการ์ตูน มังงะ แนวรักโรแมนติก วันนี้เราก็ไม่พลาดที่จะคัดสรร มังงะ ดีๆ มานำเสนอให้อ่านกันอีกเช่นเคย ซึ่งเป็นการ์ตูนรักแนวใสๆ แต่มีความร้ายแอบซ่อนรักชวนให้น่าติดตามมากๆ โดยมีชื่อเรื่องว่า This Lonely Planet ขยับหัวใจเข้าใกล้นายมาดเข้ม ดูจากชื่อเรื่องแล้วคงจะแซ่บไม่เบาเลยทีเดียว เอาล่ะตอนนี้ก็ได้เวลามาทำความรู้จักเจ้า มังงะ แสนสนุกเรื่องนี้กันแล้ว ใครอยากรู้ว่าจะสนุกแค่ไหนก็ตามมาอ่านไปพร้อมกันเลย

การ์ตูน มังงะ This Lonely Planet ขยับหัวใจเข้าใกล้นายมาดเข้ม เป็นแนวเกี่ยวกับอะไร?

• โดยเรื่องราวหลักๆ จะเป็นแนวรักโรแมนติกหวานซึ้งตรึงใจ

• มีความดราม่าผสมผสานทำให้มีอ่านแล้วอินเข้าถึงอารมณ์ตัวละครแบบสุดๆ

• มีความตลกร้ายที่มีทั้งความฮาและตลกซ่อนร้ายจากบทบาทตัวละคร

• เนื้อหาจะเน้นอารมณ์เรื่องราวชีวิตของเด็กมอปลายที่บ้านมีหนี้สินกองโต

เรื่องย่อการ์ตูน มังงะ

เรื่องราวของการ์ตูน มังงะ โรแมนติกดราม่า เรื่องนี้ มีตัวละครหลักด้วยกันดังนี้

• โอโนะ ฟุมิ สาวน้อยนักเรียนมอปลายปี 2

• คิบิคิโนะ อาคาซึกิ หนุ่มนักเขียนนิยายที่มีหน้าดุและมนุษย์สัมพันธ์แย่สุดๆ

โดยเรื่องราวความสัมพันธ์ของตัวละครทั้งสองได้เริ่มต้นจาก โอโนะ ฟุมิ สาวน้อยมอปลายปี 2 ที่อยู่มาวันหนึ่งโชคชะตาได้เล่นตลกกับชีวิตของเธอให้เธอต้องมาใช้ชีวิตเป็นแม่บ้านประจำในบ้านหลังหนึ่ง เพื่อทำงานหาเงินมาชดใช้คืนหนี้ก้อนโตที่พ่อของเธอเป็นคนสร้าง แถมเธอยังต้องมาเจอกับเจ้าของบ้านสุดโหดผู้เป็นนักเขียนนิยายชื่อดังแต่กลับมีหน้าตาน่ากลัวและอัธยาศัยแย่สุดๆ

แต่ถึงแม้ว่าเขาจะมีท่าทีที่ดูเย็นชากับเธอสักแค่ไหนแต่เธอกลับมองเห็นในมุมอ่อนโยนและแสนใจดีของเขาอยู่ดี จากนั้นความสัมพันธ์ของเธอและเขาจึงเริ่มต้นขึ้นที่บ้านหลังนั้น จะโรแมนติกหวานซึ้งไปจนถึงดราม่าเศร้าเคล้าน้ำตาขนาดไหนก็สามารถติดตามอ่านต่อได้ในการ์ตูน มังงะ This Lonely Planet ขยับหัวใจเข้าใกล้นายมาดเข้ม เรื่องนี้กันเลยจ้า

สรุปความน่าสนใจของการ์ตูน มังงะ เรื่องนี้

การ์ตูน มังงะโรแมนติกดราม่า เรื่องนี้ เป็นผลงานการแต่งและวาดภาพประกอบของอาจารย์ Mika Yamamori โดยเรื่องนี้มีทั้งหมด 14 เล่มจบ และได้เริ่มเขียนเมื่อปี 2015 สำหรับความน่าสนใจของการ์ตูน มังงะ This Lonely Planet ขยับหัวใจเข้าใกล้นายมาดเข้ม เรื่องนี้คือ เราจะได้สัมผัสถึงความอ่อนโยนและความน่ารักของตัวละครที่ถึงแม้จะมีบทบาทตรงข้ามกับลุค แต่ในเรื่องของความรักโรแมนติกต่างวัยนั้นน่ารักสุดๆ ซึ่งค่อยๆ เติบโตไปพร้อมๆ กับตัวละครทำให้โดยรวมแล้วเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สนุกและน่าติดตามมากๆ เพาะฉะนั้นห้ามพลาดเลย

รูปภาพประกอบ : chellesbookramblings.wordpress.com

รูปภาพประกอบ : aminoapps.com

รูปภาพประกอบ : myanimelist.net

Categories
series

รีวิวซีรีส์ Slow Horses season 1 อีกหนึ่งของดีจาก Apple TV+

ผลงานซีรีส์คุณภาพอีกเรื่องจาก Apple TV+ ที่มาในแนวสายลับ ระทึกขวัญ สร้างสรรค์โดย วิล สมิธ (ซีรีส์ Veep) ที่ดัดแปลงมาจากนิยายของ มิค เฮอร์รอน โดยเวอร์ชั่นซีรีส์ได้ทีมนักแสดงมากฝีมือมาร่วมแสดงนำ นำทีมโดย แกรี่ โอลด์แมน (Mank), เจมส์ โลว์เดน (Dunkirk), คริสทิน สก้อต โทมัส (Military Wives) และ โอลิเวีย คุ้ก (ซีรีส์ House of the Dragon)

เรื่องราวของซีรีส์ Slow Horses จะว่าด้วยหน่วยสายลับที่มีชื่อเดียวกับชื่อเรื่อง ซึ่งเป็นหน่วยย่อยของ MI5 โดยเป็นที่ที่รวมสายลับไม่เอาไหนขององค์กรมาไว้ด้วยกัน นำทีมโดย แจ็คสัน แลมป์ (แกรี่ โอลด์แมน) หัวหน้าทีมวัยเก๋า ที่ทำงานอย่างเอื่อยเฉื่อย เหตุการณ์ของเรื่องเริ่มต้นเมื่อ ริเวอร์ (เจมส์ โลว์เดน) เจ้าหน้าที่สายลับรุ่นใหม่ไฟแรง ที่ถูกส่งมาทีม Slow Horses เพราะไม่ผ่านการทดสอบสายลับ

แต่วันหนึ่ง ริเวอร์ ได้พยายามหาความจริงของภารกิจลับที่หน่วยงานเขาได้รับ ก่อนจะพบว่า MI5 กำลังมีแผนลับบางอย่าง ที่เกี่ยวข้องกับคดีลักพาตัวชายหนุ่มเชื้อสายมุสลิมโดยกลุ่มการเมืองขวาจัด จากการเข้าไปล่วงรู้ความลับครั้งนี้ ก็ส่งผลทีม Slow Horses ต้องเข้ามาร่วมจัดการไล่ล่าอาชญากรลักพาตัว ในครั้งนี้

Slow Horses เป็นงานระทึกขวัญ สายลับ ที่มาพร้อมรูปแบบการเล่าเรื่องที่ชวนให้นึกถึงซีรีส์ Homeland ที่มีการใส่ประเด็นเรื่องความขัดแย้งทางการเมืองทางเชื้อชาติ มีการสร้างตัวละครในเรื่องให้มีความเทาๆ ไม่มีใครเป็นคนดี หรือชั่วร้อยเปอร์เซ็นต์ และมีการสร้างสถานการณ์ที่ชวนให้คนดูไม่สามารถไว้วางใจตัวละครใดๆ ในเรื่องได้

ด้วยความที่ซีรีส์เล่าเรื่องผ่านทีมสายลับไม่เอาไหน ทำให้อีกจุดเด่นของซีรีส์คือการสร้างทีมสายลับที่สวนทางจากหนังแนวนี้เรื่องอื่น ไม่ว่าจะเป็นความไม่มืออาชีพของทีม การพยายามไต่เต้าของตัวละคร เพื่อพิสูจน์ฝีมือตัวเอง ซึ่งสร้างอรรถรสร่วมกับคนดูในรูปแบบที่ไม่เหมือนหนังสายลับเรื่องอื่นๆ

ทั้ง 6 ตอนของซีซันแรก เต็มไปด้วยความลุ้นระทึกที่ใส่มาแบบไม่ยั้ง ไม่ว่าจะเป็นการหักเหลี่ยมเฉือนคมระหว่างสายลับด้วยกันเอง การได้ลุ้นฉากไล่ล่าช่วยตัวประกัน ซึ่งแต่ละตอนก็ไต่ระดับความสนุก ความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ แถมยังมีการการสับขาหลอกแบบที่คาดเดาไม่ได้

โดยรวม Slow Horses season 1 เป็นซีรีส์เปิดตัวสายลับชุดใหม่ ที่โดดเด่น และแตกต่างจากซีรีส์สายลับเรื่องอื่นๆ เนื้อหาของซีรีส์มาพร้อมรูปแบบการเล่าเรื่องที่สนุก ชวนลุ้น เต็มไปด้วยการหักเหลี่ยมเฉือนคม ที่ตื่นเต้นไม่แพ้หนังสายลับฟอร์มยักษ์เลยแม้แต่น้อย พร้อมต่อยอดสู่เรื่องราวซีซั่นต่อไปๆ ได้อย่างชวนติดตาม

สามารถรับชมซีรีส์ Slow Horses season 1 ได้แล้ววันนี้ที่ Apple TV+

Cr.ภาพ: IMDB

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
manga

รีวิว Ramen Daisuki Koizumi-san โคอิสึมิซังกับราเม็งชามโปรด มังงะ ของสองสาวนักชิม

สำหรับใครที่ช่ำชองในการนอนชื่นชอบในการกินล่ะก็ วันนี้เราก็มีการ์ตูน มังงะ ที่อยากแนะนำให้อ่านมีโดยชื่อเรื่องว่า Ramen Daisuki Koizumi-san โคอิสึมิซังกับราเม็งชามโปรด ซึ่งเป็นการ์ตูนที่แปลได้ตรงตัวตามชื่อเลย สาเหตุของชื่อนี้นั่นก็เพราะตัวละครในเรื่องนี้มีนิสัยรักการกินเป็นที่สุด เอาล่ะใครที่มีนิสัยแบบนี้จงจำไว้ว่าคุณไม่ได้มีนิสัยแบบนี้คนเดียวแน่นอน อิอิ เอาล่ะถ้าหากอยากรู้ว่าเนื้อหาจะน่าติดตามขนาดไหน ก็ตามมาอ่านกันเลย

การ์ตูน มังงะ Ramen Daisuki Koizumi-san โคอิสึมิซังกับราเม็งชามโปรด เป็นแนวเกี่ยวกับอะไร?

• แนวหลักๆ ของ มังงะ เรื่องนี้ก็จะออกแนวคอมเมดี้ ตลกฮาๆ อ่านแล้วไม่เครียด

• เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอาหาร ซึ่งตัวละครหลักจะหลงใหลในการกินอาหารเป็นชีวิตจิตใจได้กินเมื่อไหร่ก็คือมีความสุข จึงทำให้อ่านแล้วต้องยิ้มตาม

• เป็นเรื่องราวที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของเพื่อนรักที่ดูแล้วอบอุ่นหัวใจ

• เกี่ยวกับชีวิตเด็กมัธยมที่จะทำให้เราได้เห็นในหลากหลายมุม

เรื่องย่อการ์ตูน มังงะ

เรื่องราวของการ์ตูน มังงะ คอมเมดี้ เรื่องนี้ มีตัวละครหลักด้วยกันดังนี้

• โคอิซึมิ สาวน้อยที่หลงใหลในการกินราเม็งเป็นที่สุด

• โอซาว่า ยู สาวใส มีความร่าเริงแต่เข้าใจอะไรยาก

เรื่องราวสุดฮานี้ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ โคอิซึมิ สาวน้อยนักเรียนมัธยมปลายผู้ที่มีลึกลับ และสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้เกี่ยวกับเธอเลยก็คือ เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการกินราเม็ง ซึ่งเธอมักจะออกตามหาร้านราเม็งอร่อยๆ  อยู่เสมอ และในทุกๆ วัน เธอจะออกเดินทางไปตามล่าหาร้านราเม็งที่ดีที่สุดและก็มีความสุขกับการได้ลิ้มลองรสชาติของราเม็งอย่างเอร็ดอร่อย

วันหนึ่ง สาวบ๊อง อย่าง โอซาว่า ยู สาวน้อย ผู้มีนิสัยร่าเริงแต่เธอมักจะเข้าใจอะไรยาก ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตที่เรียบง่ายของ โคอิซึมิ ซึ่งนี่ก็ได้เปลี่ยนโลกที่แสนสงบเงียบของโคอิซึมิให้มีสีสันและมีความตื่นเต้นในทุกๆ วัน สามารถติดตามอ่านเรื่องราวแนวชวนชิมและความสัมพันธ์ของสองสาวเพื่อนรักได้ในการ์ตูน มังงะ Ramen Daisuki Koizumi-san โคอิสึมิซังกับราเม็งชามโปรด เรื่องนี้ได้เลย

สรุปความน่าสนใจของการ์ตูน มังงะ เรื่องนี้

การ์ตูน มังงะคอมเมดี้สุดฮา เรื่องนี้ เป็นผลงานการแต่งและวาดภาพประกอบของอาจารย์ Naru Narumi โดยเรื่องนี้ได้เริ่มเขียนเมื่อปี 2013 สำหรับความน่าสนใจของการ์ตูน มังงะ Ramen Daisuki Koizumi-san โคอิสึมิซังกับราเม็งชามโปรด นั้นถือเป็นการ์ตูนแนวคอมเมดี้ที่น่าติดตามอีกหนึ่งเรื่อง มีเนื้อหาดีมากๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเพื่อนที่ชวนอบอุ่นหัวใจ อีกทั้งตัวละครยังน่ารักแถมยังติดตลกด้วยอ่านแล้วไม่เครียดเลย ซึ่งสำหรับใครที่ชอบอ่านการ์ตูน มังงะ แนวเบาสมองแบบนี้ ก็ต้องห้ามพลาดเรื่องนี้เลยจ้า

รูปภาพประกอบ : myanimelist.net

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

รีวิวซีรีส์ Treason: ซีรีส์สายลับ ระทึกขวัญ ที่เล่าเรื่องตามสูตรสำเร็จ

Treason เป็นผลงานซีรีส์สายลับ ระทึกขวัญ เรื่องล่าสุดจาก Netflix สร้างสรรค์โดย แมตต์ เชอร์มาน มือเขียนบทจากหนัง Bridge of Spies ที่ในเรื่องนี้ได้นักแสดงหนุ่มมาแรงเจ้าของบท แดร์เดวิลอย่าง ชาร์ลี ค็อก มารับบทนำ สมทบด้วย ออลก้า คูรี่เลนโค (Black Widow), อูร่า แชปลิน (ซีรีส์ Game of Thrones) และ คลีราน ฮินด์ (Belfast)

เรื่องราวของ Treason จะว่าด้วย อดัม ลอว์เรนซ์ (ชาร์ลี ค็อก) เจ้าหน้าที่ MI6 ที่ได้รับโอกาสทำหน้ารักษาการผู้อำนวยการ เนื่องจาก มาร์ติน แองเจลิส (คลีราย ฮินด์) หัวหน้าผู้ดำรงตำแหน่งนี้ถูกลอบสังหารจนต้องเข้าโรงพยาบาล เมื่อ อดัม เริ่มหาความจริงว่าใครคือคนลงมือ เขาก็พบว่าเป็นฝีมือของ คารา (ออลก้า คูรี่เลนโค) อดีตคนรักของเขาที่เคยร่วมทำภารกิจด้วยกันที่รัสเซีย การกลับมาเจอกันของทั้งคู่ในครั้งนี้นำมาสู่การตามหาความจริง และเอาชีวิตรอดจากองค์กรที่อยู่เบื้องหลังภารกิจนี้

สำหรับ Treason นับว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์สูตรสำเร็จของ Netflix ที่ทำมาเพื่อเอาใจใครที่ชอบซีรีส์สายลับโดยเฉพาะ โดยเนื้อหาของซีรีส์จะมาพร้อมความยาวเพียง 5 ตอนเท่านั้น ซึ่งตัวผู้สร้างสรรค์อย่าง แมตต์ เชอร์มาน ได้ถ่ายทอดซีรีส์ชุดนี้ให้ออกมามีกลิ่นอายของ Bridge of Spies ที่มีบริบทอยู่ในยุคปัจจุบัน มีการพูดถึงประเด็นความขัดแย้งระหว่างอเมริกา และรัสเซีย ที่ต่างส่งสายลับเป็นอาวุธในการหาข้อมูล

ความสนุกของ Treason คือการเล่าเรื่องแบบหนังสายลับ ที่ผสมผสานระหว่างความเป็นดราม่า ระทึกขวัญ สืบสวนสอบสวน เข้ากันได้อย่างลงตัว ตลอดทั้งเรื่องของซีรีส์จะเต็มไปด้วยการหักเหลื่ยมเฉือนคมระหว่างสายลับ การค่อย ๆ เผยความจริงให้ผู้ชมได้รู้ทีละน้อย ๆ ที่คาดเดาไม่ได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในตอนต่อไป รวมทั้งการหยิบประเด็นการเมืองมาเพิ่มอรรถรสให้ความขัดแย้งในเรื่องให้ดุเดือด เข้มข้นมากขึ้น

นอกจากพาร์ทการประชันฝีมือของสายลับแล้ว ใน Treason ก็ยังมีการใส่ความเป็นรักสามเศร้า และดราม่าครอบครัวเข้าไปด้วย ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งลายเซ็นตามสไตล์ของซีรีส์ Netflix ที่พยายามสร้างอารมณ์ร่วมกันคน แต่ในซีรีส์เรื่องนี้การพยายามเพิ่มดราม่าดังกล่าวถือว่าเป็นทั้งจุดแข็ง และจุดอ่อนสำคัญของหนัง เพราะด้วยพาร์ทดราม่าที่เข้ามาแทรก ได้เพิมมิติให้กับตัวละคร มีความน่าสนใจมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้พาร์ทสายลับดูดรอปลงไปอย่างน่าเสียดาย

สำหรับการแสดงใครที่ชื่นชอบ ชาร์ลี ค็อก จาก Daredevil น่าจะถูกใจบทบาทของเขาในเรื่องนี้ เพราะแม้จะเป็นบทที่ค่อนข้างต่างกัน แต่ผู้ชมจะยังได้เห็นนักแสดงหนุ่มผู้นี้โชว์ลีลาบู๊เล็ก ๆ พร้อมทั้งยังเป็นบทสายลับที่มีความเท่ สุขุมมาก ๆ ในขณะที่ด้าน ออลก้า คูรี่เลนโค ก็กลับมารับบทนักบู๊ และสายลับหญิงที่อาจไม่ได้ต่างจากบทบาทประจำของเธอนัก แต่ก็ถือว่าเป็นอีกตัวละครที่สร้างสีสันให้ซีรีส์ได้ดีไม่น้อย

โดยรวม Treason เป็นอีกหนึ่งซีรีส์สายลับ ระทึกขวัญ สูตรสำเร็จที่ดูสนุกอีกหนึ่งเรื่อง ที่เต็มไปด้วยการหักเหลี่ยม การใช้ไหวพริบในการต่อสู้ที่ชวนลุ้นในตลอด 5 ตอนของซีรีส์ แม้ว่าจะมีความน่าหงุดหงิดในพาร์ทดราม่าสไตล์ Netflix ไปบ้าง แต่ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานที่คอหนังสายลับ อิงการเมือง น่าจะชอบไม่มากก็น้อย

สามารถรับชมซีรีส์ Treason ได้แล้ววันนี้ที่ Netflix

Cr.ภาพ: Netflix

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

รีวิวซีรีส์ Extrapolations: ซีรีส์ดราม่า ไซไฟ

อีกหนึ่งซีรีส์ดราม่า ไซไฟ เนื้อหาน่าสนใจจาก Apple TV+ ที่สร้างสรรค์โดย สก้อต ซี เบิร์น (Contagion) ที่ครั้งนี้ได้เป็นอีกหนึ่งงานรวมดาราดังมาแสดงนำในซีรีส์แบบคับจอ นำทีมโดย คิต แฮริงตัน (ซีรีส์ Game of Thrones), เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน (Glass Onion), เมอร์รีล สตีฟ (Don’t Look Up), มาริยง โกติยาร์ (Inception), เจมม่า ชาน (Eternals), โทบี้ แมคไกว (Spider-Man) และ ฟอเรส วิตเทคเกอร์ (Godfather of Harlem)

เรื่องราวของซีรีส์ Extrapolations จะว่าด้วยเหตุการณ์ในโลกอนาคต ที่ปัญหาภาวะโลกร้อน ได้กลายเป็นปัญหาระดับโลก จนส่งผลกระทบต่อมนุษย์ และสิ่งมีชีวิตทุกชนิด โดยซีรีส์จะเริ่มเล่าเหตุการณ์ตั้งแต่ปี 2037 ไปจนถึงปี 2070 ผ่านมุมมองของผู้คนมากมาย ตั้งแต่คนรวย คนจน ที่ต่างต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์นี้

Extrapolations เลือกที่จะนำเสนอเนื้อหาแบบ Anthology ที่แต่ละตอนจะมีเรื่องราวที่จบในตอน แต่จะมีจุดเชื่อมโยงบางส่วนที่เนื้อหาต่อเนื่องกัน ซึ่งแต่ละตอนนั้นมาพร้อมประเด็นที่แตกต่างกันไป แต่จะอิงปัญหาโลกร้อนเป็นพื้นหลังเหมือนกัน ความน่าสนใจคือหนังเลือกเล่นกับประเด็นที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนอย่าง ชนชั้น การเมือง ศาสนา มาเป็นหัวใจในการดำเนินเรื่องตลอดทั้ง 8 ตอน

อีกหนึ่งจุดขายของ Extrapolations คือการที่ซีรีส์เต็มไปด้วยลูกเล่นของหนังไซไฟ ที่พยายามคาดเดาเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทำให้ซีรีส์มีกลิ่นอายของความเป็น Black Mirror ที่สะท้อนภาพของมนุษย์ในโลกอนาคต ผสมกับความเป็นดิสโทเปีย ที่ชวนให้เราได้ตื่นตาตื่นใจกับการสร้างสรรค์ความล้ำสมัยต่างๆ ที่ซีรีส์พาคนดูไปสำรวจ

ด้านทีมนักแสดงนำในแต่ละตอนของซีรีส์ชุดนี้ ก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม แม้ว่าหลายคนจะไม่ได้มีบทบาทมาก แต่ก็สามารถตรึงคนดูได้อย่างอยู่หมัด ไม่ว่าจะเป็น เอิร์ดเวิร์ด นอร์ตัน หรือเมอร์รีล สตีฟ รวมถึงนักแสดงคนอื่นๆ ที่เรียกได้ว่าสร้างสีสันให้ซีรีส์ชุดนี้ได้เป็นอย่างดี

ส่วนที่เป็นจุดด้อยของ Extrapolations คือการที่ซีรีส์เล่าเรื่องค่อนข้างวนเวียน ซ้ำซาก หลายๆ ตอน เนื้อหาของซีรีส์มักเล่นกับประเด็นเดิมๆ คือเรื่องชนชั้น ศาสนา การทำลายโลกโดยฝีมือมนุษย์ ทำให้หลายตอนของซีรีส์ขาดความโดดเด่น มีเนื้อหาที่น่าเบื่อ จนชวนให้รู้สึกว่า 8 ตอนของซีรีส์ชุดนี้ยาวนานเกินจำเป็น

Extrapolations ถือว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ไซไฟ ดราม่า ที่สามารถหยิบเลือกโลกร้อน มาเล่าได้อย่างสนุก หลากรสชาติ ด้วยเนื้อหาทั้ง 8 ตอนที่คาดเดาไทม์ไลน์เหตุการณ์โลกร้อนออกมาได้ชวนติดตาม ผ่านแต่ละเส้นเรื่องทื่ให้อรรถรสต่างกันไป และน่าจะเป็นซีรีส์ที่เข้ากับยุคสมัยปัจจุบันที่เต็มไปด้วยปัญหามลภาวะได้ดีไม่น้อย

สามารถรับชมซีรีส์ Extrapolations ได้แล้ววันนี้ที่ Apple TV+

Cr.ภาพ: Rotten Tomatoes

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
manga

รีวิว มังงะ P TO JK ป่วนหัวใจนายโปลิศ สาวน้อยมอปลายกับนายตำรวจ

สำหรับการ์ตูน มังงะ อารมณ์ดี ที่อ่านแล้วต้องยิ้มแก้มปริ นาทีนี้ขอยกให้ การ์ตูน มังงะ P TO JK ป่วนหัวใจนายโปลิศ เรื่องนี้เลยจ้า ซึ่งเป็นการ์ตูนรักต่างวัยที่น่ารักสุดๆ ไปเลย มีความโรแมนติกและความน่ารักกุ๊กกิ๊กผสมเข้ากันได้อย่างลงตัวไร้ที่ติ ถือว่าทำออกมาได้ดีสุดๆ อ่านแล้วต้องเขินไปตามๆ กันแน่นอน ใครที่ชอบแนวทำนองนี้ ก็ต้องบอกว่าห้ามพลาดเลยล่ะ ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะพาไปทำความรู้จักเจ้า มังงะ เรื่องนี้กันแล้ว พร้อมแล้วก็ตามมาเลย

การ์ตูน มังงะ เรื่อง P TO JK ป่วนหัวใจนายโปลิศ เป็นแนวเกี่ยวกับอะไร?

ความรัก ระหว่าง หญิงและชาย

มีความโรแมนติก น่ารักกุ๊กกิ๊กอ่านแล้วเขินตัวม้วน ประหนึ่งว่าตัวเองเป็นนางเอก 555

มีความตลกคอมเมดี้ ที่อ่านแล้วไม่เครียดดี

เกี่ยวกับความรักต่างวัย แม้ตัวละครจะอายุต่างกัน แต่เคมีเข้ากันได้ดีสุดๆ

เรื่องย่อการ์ตูน มังงะ

เรื่องราวของการ์ตูน มังงะ โรแมนติกคอมเมดี้ เรื่องนี้  มีตัวละครหลักด้วยกันดังนี้

คาโกะสาวน้อยอายุ 16 ปี นักเรียนชั้นมอปลาย

โคตะหนุ่มอายุ 23 ปี มีอาชีพเป็นตำรวจ

เรื่องราวความรักต่างวัย ของสาวน้อยมัธยมกับตำรวจหนุ่มสุดหล่อ เริ่มต้นที่สาวน้อยมัธยมแอบไปหลงรักหนุ่มโคตะ คนที่เธอได้เจอครั้งแรกในงานนัดบอดของคนวัยทำงาน โดยเธอได้แอบปลอมตัวเป็นนักศึกษาวัย 22 ปี จากนั้นเรื่องราวความรักของทั้งสองก็เริ่มต้นขึ้น แต่ทว่าความจริงแล้ว โคตะเป็นตำรวจ!!

แต่เธอก็ยังไม่ละความชอบจากตำรวจหนุ่มคนนี้ แม้เธอจะรู้ว่าเขาอันตรายแค่ไหนก็ตาม.. สามารถติดตามความน่ารักและโรแมนติก ของความรักต่างวัยสุดน่ารัก ที่ค่อยๆ เติบโตไปพร้อมๆ กัน ว่าจะลงเอยอย่างไร รีบตามมาลุ้นกันต่อได้ในการ์ตูน มังงะ P TO JK ป่วนหัวใจนายโปลิศ เรื่องนี้เลยจ้า

สรุปความน่าสนใจของการ์ตูน มังงะ เรื่องนี้

การ์ตูน มังงะ โรแมนติก เรื่องนี้ เป็นผลงานของอาจารย์ Maki Miyoshi ที่เป็นทั้งผู้แต่งเรื่อง และผู้วาดภาพประกอบด้วย โดยเรื่องนี้มีทั้งหมด 16 เล่มจบ ซึ่งได้เริ่มเขียนเมื่อปี 2012 ขอบอกเลยว่ามังงะ P TO JK ป่วนหัวใจนายโปลิศ เรื่องนี้ อ่านแล้วให้ความรู้สึกและอารมณ์เหมือนเป็นนางเอกซีรีย์ยังไงยังงั้นเลยล่ะ รับรองว่าฟินจิกหมอนกันไปข้างหนึ่งเลย ที่สำคัญเรื่องนี้ยังข้อคิดดีๆ แฝงในเนื้อหาด้วยล่ะ อีกทั้งภาพลายเส้นสวยอ่านได้ไม่เบื่อเลย สำหรับใครที่ไม่อยากพลาด การ์ตูน มังงะ ดีๆ แบบนี้ก็รีบไปลองหามาอ่านกันเลยจ้า

รูปภาพประกอบ : akibatan.com

รูปภาพประกอบ : mangago.me

รูปภาพประกอบ : myanimelist.net

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

รีวิวซีรีส์ Slow Horses season 2: ยกระดับการเล่าเรื่องจากซีซั่นแรก ให้ไปไกลกว่าเดิม 

ซีซั่นที่ 2 ของซีรีส์สายลับคุณภาพจาก Apple TV+ ที่ครั้งนี้เป็นการหยิบอีกหนึ่งเรื่องราวสุดเข้มข้นของทีมสายลับสุดห่วย ที่อันตราย และท้าทายกว่าคดีแรก ซึ่งเนื้อหาในซีซั่นนี้ จะว่าด้วยคดีการตายปริศนาของเจ้าหน้าที่สายลับรุ่นเก๋า ทำให้ แจ็คสัน แลมป์ (แกรี่ โอลด์แมน) เข้ามาสืบสวนด้วยตนเอง ซึ่งเขานั้นสงสัยว่าคนร้ายอาจเป็นสายลับรัสเซียที่เต็มไปด้วยปริศนา ในคดีนี้ แลมป์ ได้ส่งสมาชิกในทีม ไปทำการสืบหาตัวตน และจุดหมายของคนร้าย จนนำมาสู่การไล่ล่า สุดระทึก

ในซีซั่นนี้ Slow Horses ได้มีการปรับวิธีการเล่าเรื่องให้ต่างจากในซีซั่นแรกพอสมควร จากที่ในซีซั่นแรกมีการเล่าแบบหนังไล่ล่าผู้ร้าย แต่ในซีซั่นที่ 2 นี้ซีรีส์ใช้วิธีเล่าเรื่องแบบหนังสืบสวนสอบสวน ที่เปิดเรื่องด้วยการตายอย่างปริศนา ก่อนจะพาคนดู และตัวละครไปร่วมค่อยๆ สืบหาความจริงของเรื่องทั้งหมด

หากพูดในแง่ของการเป็นซีรีส์สืบสวย Slow Horses ซีซั่นนี้ถือว่าทำออกมาสอบผ่าน ตลอดทั้ง 6 ตอนเต็มไปด้วยการเล่าเรื่องที่สนุก เข้มข้น แม้ว่าจะไม่ได้มีฉากแอ็คชั่นสุดมันส์เหมือนหนังสายลับเรื่องอื่นๆ  แต่การเล่าเรื่องก็ทำออกมาได้ครบรสทุกอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นการหักเหลี่ยมเฉือนคม การหักมุม สับขาหลอก ที่คนดูคาดเดาแทบไม่ได้

นอกจากนี้ในซีซั่นที่ 2 นี้ ยังมีพาคนดูไปโฟกัสกับเหล่าตัวละครทีมสายลับ Slow Horses มากยิ่งขึ้น ด้วยการแบ่งเส้นเรื่องออกเป็นหลายเหตุการณ์ พร้อมทั้งยังเพิ่มเหตุการณ์สำคัญในแต่ละเส้นเรื่อง ที่ทำให้การกระจายบทในซีซั่นนี้ทำได้ดีมากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังสร้างอารมณ์ร่วมระหว่างคนดู และตัวละครได้เป็นอย่างดี

ส่วนการแสดง ในครั้งนี้ผู้ชมจะได้เห็นบทบาทแต่ละตัวละครที่เติบโต และมีพัฒนาการจากซีซั่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็น แกรี่ โอลด์แมน ที่ในครั้งนี้เราจะได้เห็นเขาได้ออกปฏิบัติการมากขึ้น และยังได้เห็นความเก่งกาจของตัวละคร แจ็คสัน แลมป์มากยิ่งขึ้น ในขณะที่ด้าน แจ็ค โลว์เดน พระเอกของเรื่องก็ได้แสดงบทสายลับที่มีมิติ และทำให้คนดูได้เห็นด้านอื่นๆ ของตัวละครนี้มากยิ่งขึ้น

โดยรวม Slow Horses ซีซั่น 2 เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่มีพัฒนาการที่เห็นอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับซีซั่นแรก การเล่าเรื่องมีความกลมกล่อมลงตัวมากขึ้น พร้อมทั้งยังยกระดับเนื้อหาให้สนุก เล่นใหญ่กว่าเดิม ใครที่มองหาซีรีส์สายลับเดือดๆ นี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

สามารถรับชมซีรีส์ Slow Horses ทั้ง 2 ซีซั่นได้แล้ววันนี้ที่ Apple TV+

Cr.ภาพ: IMDB

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
anime

รีวิวการ์ตูน ยัยตัวแสบ แอบน่ารัก อนิเมะรักวัยใส สไตล์อารมณ์ดี

วันนี้เราจะขอพาทุกคนมาอารมณ์ดีไปกับการ์ตูน อนิเมะ เรื่อง ยัยตัวแสบ แอบน่ารัก ที่เห็นแค่ชื่อก็ได้กลิ่นอายของความน่ารักสดใสลอยมาแล้วล่ะ ซึ่งการ์ตูนเรื่องนี้เหมาะกับทุกเพศทุกวัยเลย เพราะดูเพลินๆ ชวนคลายเครียดได้ดีทีเดียว และยิ่งถ้าหากใครกำลังมองหาการ์ตูนแก้เครียดบอกเลยว่าเรื่องนี้ตอบโจทย์สุดๆ ส่วนรายละเอียดของ อนิเมะ เรื่องนี้จะน่าสนใจขนาดไหนนั้น เรามาอ่านรีวิวไปพร้อมกันเลย

ยัยตัวแสบ แอบน่ารัก

อนิเมะ ยัยตัวแสบ แอบน่ารัก เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร

หลักๆ แล้วจะเป็นแนวคอมเมดี้ อารมณ์ดีตัวละครน่ารักสดใสเว่อร์ดูแล้วยิ้มไม่หุบแน่นอน

เนื้อหาโดยส่วนใหญ่จะเป็นฉากที่เล่าเรื่องราวในรั้วโรงเรียนของตัวละคร

เป็นความรักโรแมนติกวัยใส วัยจิ้นสุดๆ จีบกันไปมาจนคนดูเขิลไปด้วยเลย

ทำความรู้จักตัวละคร

• ฮายาเสะ นางาโทโระ นางเอก สาวสวยผิวสี ปกติจะเห็นแต่นางอกขาวๆ แบ๊ว ๆ ใช่ไหมล่ะ แต่เรื่องนี้นางเอกผิวเข้ม มีเขี้ยว นิสัยแสบซน หื่นนิดๆ ฮา คาแรคเตอร์น่าสนใจมากๆ เลยล่ะ

 • นาโอโตะ ฮาชิโอจิ พระเอก หนุ่มหล่อออกแนวเนิร์ดๆ มีนิสัยขี้อาย และขาดความมั่นใจสุดๆ

เรื่องย่อ อนิเมะ

เป็นเรื่องราวของ นาโอโตะ ฮาชิโอจิ พระเอกซึ่งเป็นหนุ่มรุ่นพี่ที่อยู่ชมรมศิลปะ และ ฮายาเสะ นางาโทโระ นางเอกรุ่นน้องที่อยู่ชมรมว่ายน้ำ โดยพระเอกของเรื่องนี่นะนิสัยค่อนข้างจะขี้อายและขาดความมั่นใจอย่างแรง เป็นคนไม่สู้คนอีก แถมไม่รู้จักวิธีเข้าหาผู้คนเอาซะเลย และยิ่งเรื่องผู้หญิงไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะฉากแรกของเรื่องแค่เปิดประตูเข้าห้องสมุดมาแล้วเจอสาวๆ ยังประหม่าสุดๆ ไปเลย

แต่การไปห้องสมุดครั้งนั้นก็ทำให้เขาได้เจอกับนางเอกของเรื่อง นางาโทโระ เด็กสาวผู้มีความแสบซนในตัวสูงปรี๊ด ซึ่งหลังจากที่ทั้งสองพบกันวันนั้น นางาโทโระก็ได้คอยตามแกล้งพระเอกอยู่เรื่อยๆ ส่วนพระเอกผู้ซื่อๆ ใสๆ ของเราจะสามารถรับมือกับความแสบซุกซนของเธอได้หรือไม่นั้น ต้องตามไปรับชมกันได้ใน ยัยตัวแสบ แอบน่ารัก รับรองว่ายิ้มจนเมื่อยปากแน่นอน

ยัยตัวแสบ แอบน่ารัก

สรุปภาพรวม อนิเมะ

สำหรับ อนิเมะ เรื่องยัยตัวแสบ แอบน่ารัก มีชื่อภาษาญี่ปุ่นว่าイジらないで、長瀞さん ( Ijiranaide, Nagatoro-san ) และชื่อภาษาอังกฤษ คือ Don’t Toy With Me, Miss Nagatoro

สร้างเป็น อนิเมะ โดยสตูดิโอ Telecom Animation Film

เริ่มออกอากาศตอนแรกเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2564

โดยรวมแล้วเป็นการ์ตูน อนิเมะ ที่น่าติดตามมากๆ เนื้อเรื่องมีความน่ารัก ดูแล้วต้องยิ้มตามตลอดเวลา

• พล็อตเรื่องโดนใจวัยรุ่นสุดๆ นางเอกดื้อ แสบซนครบเลย ส่วนพระเอก ซื่อๆ ไม่ค่อยรู้เรื่องนี่แหละ ความน่ารักจึงบังเกิด

• คะแนนความน่าดูเอาไปที่ 9/10 เลยจ้า

รูปภาพประกอบ : epicstream.com

รูปภาพประกอบ : cbr.com

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

รีวิวซีรีส์ We Own This City: ซีรีส์ที่กล้าหยิบประเด็นด้านมืดของตำรวจมาถ่ายทอด

We Own This City คือหนึ่งในมินิซีรีส์จาก HBO ผลงานการสร้างสรรค์โดย จอร์จ เพเลคานอส และ เดวิด ไซม่อน สองผู้สร้างจากซีรีส์ The Wire ซึ่งในเรื่องนี้พวกเขาได้ดัดแปลงจากหนังสือที่เขียนจากเรื่องจริงของ จัสติน แฟนตอน พร้อมได้ทีมนักแสดงมากความสามารถมาร่วมแสดงนำไม่ว่าจะเป็น จอห์น เบิร์นทัล (ซีรีส์ The Punisher), วุนมิ มูซากุ (ซีรีส์ Lovecraft Country), เจมี่ เฮคเตอร์ (ซีรีส์ Bosch) และ จอร์จ ชาร์ลส์ (Away)

เรื่องราวของซีรีส์ We Own This City จะว่าด้วยการสืบสวนตำรวจปราบปรามอาชญากรรมบัลติมอร์ ที่ได้ถูกร้องเรียนเรื่องการคอรัปชัน การใช้กำลังเกินกว่าเหตุ และมีการยัดช้อหาให้ประชาชน โดยหนึ่งในตำรวจที่ต้องสงสัยมากที่สุดคือ เจ้าหน้าที่ เวย์น เจนกินส์ (จอห์น เบิรนทัล) นายตำรวจที่เป็นหัวหน้าทีมของหน่วย ซึ่งการสืบสวนในครั้งนี้ ก็นำมาสู่การค้นพบความดำมืดที่สถานีตำรวจซ่อนเอาไว้มาเนิ่นนานร่วมสิบปี

ด้วยความที่ซีรีส์เป็นผลงานจากทีมผู้สร้างจาก The Wire เสน่ห์ของ We Own This City คือการเล่าเรื่องที่มีความสมจริง โดยเฉพาะการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ทีมผู้สร้างยังคงใช้วิธีนำเสนอแบบเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการปฎิบัติการณ์สอดแนมที่ชวนลุ้น การนำเสนอชีวิตการทำงานของตำรวจ และเจ้าหน้าที่อัยการที่น่าติดตาม

ความแตกต่างของ We Own This City ที่ไม่เหมือนซีรีส์ตำรวจเรื่องอื่นๆ คือการที่ในเรื่องนี้ตำรวจคือผู้ร้ายหลักของเรื่องเสียเอง ซึ่งตัวซีรีส์ก็เลือกที่จะนำเสนอเรื่องราวโดยที่ไม่มีใครเป็นตัวเอกชัดเจน แต่จะพาคนดูไปสำรวจเหตุการณ์ความเลวร้ายต่างๆ แบบไม่เรียงลำดับเวลา ซึ่งตลอดทั้ง 6 ตอนของซีรีส์เป็นการพาคนดูไปเห็นความเลวร้ายทุกรูปแบบที่ตำรวจทำต่อประชาชน ควบคู่ไปกับการไล่ล่าหาความจริงของทีมอัยการ

หนึ่งในจุดขายของซีรีส์ชุดนี้คือการถ่ายทอดการกระทำที่เลือดเย็นของตำรวจ ออกมาได้อย่างตรงไปตรงมา ถึงพริกถึงขิง และไร้ปราณี ทำให้หลายฉากในเรื่องค่อนข้างน่าสะเทือนอารมณ์ และบีบความรู้สึก ในขณะที่ทีมนักแสดงนำ ต่างก็เข้าถึงบทบาทได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะ จอห์น เบิร์นทัล จอร์จ ชาร์ลส์ และเจมี่ เฮคเตอร์ ที่ต่างถ่ายทอดบทบาทตำรวจร้ายๆ ออกมาได้ยอดเยี่ยม

โดยรวม We Own This City นับว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ตำรวจ ที่กล้าหยิบประเด็นละเอียดอ่อนมาถ่ายทอดได้อย่างตรงไปตรงมา เป็น 6 ตอนที่เต็มไปด้วยเหตุการณ์ที่น่าสะเทือนใจ และชวนให้ติดตามเรื่องราวไปจนจบ

สามารถรับชมซีรีส์ We Own This City ได้แล้ววันนี้ที่ HBO GO

Cr.ภาพ: IMDB

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
manga

รีวิว มังงะ Hatsu Haru ฤดูรัก หนุ่มเพลย์บอย กับสาวน้อยแสนซื่อ

รักครั้งแรกของคุณเป็นแบบไหนกัน? รักหวานซึ้งกินใจ หรือได้แค่แอบรักเขาข้างเดียว อย่างเช่นในการ์ตูน มังงะ Hatsu Haru ฤดู*รัก เรื่องนี้ ที่เป็นเรื่องราวความรักระหว่างเพื่อน ซึ่งเรียนห้องเดียวกัน นั่นจึงเป็นความสัมพันธ์ที่มีความเป็นไปได้ค่อนข้างยาก แต่ในเรื่องของความรักเรื่องของหัวใจอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น และเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วความรักมักจะสวยงามเสมอ เพราะฉะนั้นพักเรื่องดราม่ามาลุ้นเรื่องราวความรักสุดโรแมนติกในการ์ตูน มังงะ เล่มนี้กัน ซึ่งจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ตามมาดูกันเลย

การ์ตูน มังงะ เรื่อง Hatsu Haru ฤดู*รัก เป็นแนวเกี่ยวกับอะไร?

• แนวหลักๆ เลยคือความรัก หญิงชาย

• มีความรักโรแมนติก หวานซึ้งกินใจในทุกๆ ตอน เตรียมตัวฟินจิกหมอนกันได้เลย

• มีความดราม่า รักสามเศร้าเคล้าน้ำตาให้ผู้อ่านได้อิน งานนี้มีน้ำตาซึมกันแน่นอน

• เป็นเรื่องราวในรั้วโรงเรียนของตัวละครหลัก

เรื่องย่อการ์ตูน มังงะ

เรื่องราวของการ์ตูน มังงะ โรแมนติกหวานซึ้ง เรื่องนี้ มีตัวละครหลักด้วยกันดังนี้

• อิจิโนเซะ ไก หนุ่มเพลย์บอย ที่แอบรักเพื่อนข้างเดียว

• สาวน้อย เพื่อนร่วมห้องของ ไก ที่แอบชอบอาจารย์สอนวิชาชีวะวิทยา

• อาจารย์หนุ่มสอนวิชาชีวะวิทยา สถานะไม่โสด

โดยเรื่องราวความรักสุดชุลมุนได้เริ่มต้นที่ อิจิโนเซะ ไก หนุ่มฮอตที่สุดในโรงเรียน ผู้มีนิสัยกะล่อนเพลย์บอยสุดๆ แต่เขาดันเผลอไปตกหลุมรักเพื่อนสาวร่วมห้องเรียนนี่สิ สาวน้อยผู้มีนิสัยแสนซื่อ แถมเธอยังมีคนที่แอบชอบแล้วด้วย นั่นก็คืออาจารย์ที่สอนวิชาชีวะนั่นเอง

ทำให้งานนี้ ไก ต้องแอบรักเธอข้างเดียว แถมเธอก็ไม่รู้ตัวด้วยว่ามีคนกำลังแอบรักเธออยู่ แย่แล้ว!! ความรักสามเศร้ากำลังก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ สามารถติดตามลุ้นเรื่องราวความรักวัยใส ที่มาพร้อมกับความสับสนวุ่นวายใจ และฉากน่ารักๆ โรแมนติกสุดๆ ใน การ์ตูน มังงะ Hatsu Haru ฤดู*รัก เรื่องนี้กันเลย

สรุปความน่าสนใจของการ์ตูน มังงะ เรื่องนี้

การ์ตูน มังงะ สุดโรแมนติก เรื่องนี้ เป็นผลงานการแต่งและวาดภาพประกอบของนักเขียนชื่อดัง อย่างอาจารย์ Shizuki Fujisawa โดยการ์ตูน มังงะ เรื่องนี้มีทั้งหมด 13 เล่มจบ และได้เริ่มเขียนเมื่อปี 2014 ซึ่งความน่าสนใจของการ์ตูน มังงะ Hatsu Haru ฤดู*รัก เรื่องนี้ คือ เนื้อหาสนุกน่าติดตามสุดๆ ชวนลุ้นตั้งแต่ต้นจนจบ ส่วนตัวละครน่ารักมากๆ อ่านแล้วอินสุดๆ ราวกับว่ากำลังดูซีรี่ย์อยู่เลยล่ะ ขอบอกเลยว่าจิ้นฟินเว่อร์มากๆ ใครที่ชอบอ่านเรื่องราวฟินๆ แบบนี้ ขอบอกเลยว่า ห้ามพลาดจ้า

รูปภาพประกอบ : myanimelist.net

 รูปภาพประกอบ : mangakakalot.com

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

รีวิวซีรีส์ Copenhagen Cowboy: ซีรีส์สุดอาร์ตจาก นิโคลัส วินดิง เรฟน์

ผลงานซีรีส์การกำกับ และสร้างสรรค์โดยเจ้าพ่อหนังอาร์ต นิโคลัส วินดิง เรฟน์ (Drive) ที่เป็นการร่วมงานกันครั้งแรกระหว่างเขากับ Netflix ในครั้งนี้เขาได้หันมาสร้างซีรีส์ภาษาเดนิช เป็นครั้งแรก พร้อมได้ทีมนักแสดงชาวเด็นมาร์ก มาร่วมแสดงนำ

เรื่องราวของ Copenhagen Cowboy จะว่าด้วย มียู (แองเจล่า บันดาโลวิค) หญิงสาวที่ถูกจับมาเพื่อทำงานให้กับแก๊งอาชญากร ด้วยความเชื่อของหญิงชราหัวหน้าแก๊งที่ว่า ยูมีนั้นมีพลังพิเศษที่จะทำให้เธอมีลูกได้ แต่ทว่าระหว่างที่ทำงานนี้ ยูมีก็ต้องพบกับความโหดร้าย ทารุณต่าง ๆ มากมายที่ผู้อำนาจกระทำต่อแรงงานหญิง ยูมี เลยหาทางเพื่อช่วยเหลือพวกเธอ และตนเอง ด้วยการผันตัวสู่ผู้ล้างแค้นด้วยพลังพิเศษของเธอเอง จนนำมาสู่สงครามระหว่างแก๊งอาชญากรสุดเข้มข้น

Copenhagen Cowboy เป็นงานซีรีส์ที่เต็มไปด้วยความแปลก และแตกต่างจากซีรีส์เรื่องอื่น ๆ ของ Netflix ด้วยความที่งานของ นิโคลัส วินดิง เรฟน์ มีความโดดเด่นเฉพาะตัว โดยเฉพาะความเชื่องช้าของเนื้อเรื่อง การเล่าผ่านฉากลองเทค และงานภาพสวย ๆ สไตล์หนังอินดี้ ซึ่งเป็นรูปแบบการนำเสนอแบบเดียวกับซีรีส์ก่อนหน้าของเขาอย่าง Too Old Too Die Young หากใครที่ชอบเสพงานภาพ และชอบซีรีส์อาร์ต ๆ อาจชื่นชอบ แต่หากใครที่ชอบซีรีส์ที่เดินเรื่องเร็ว เนื้อหาสูตรสำเร็จ อาจไม่ชอบซีรีส์เรื่องนี้ไปเลย

ในเรื่องนี้ เรฟน์ ยังคงมาพร้อมพลอตที่คุ้นเคย คือการพูดถึงโลกใต้ดิน วงการอาชญากรรม และการล้างแค้น ซึ่งในเรื่องนี้หนังได้เลือกผสมผสานความเป็นดราม่า แฟนตาซี เข้าไปด้วย หนังพาคนดูไปสำรวจชีวิตของเหล่าหญิงสาวที่ถูกจับมาค่าแรงงาน เป็นโสเภณี ที่ต้องดิ้นรนหาทางเอาชีวิตรอด ที่ชวนให้คนดูอยากติดตามเอาใจช่วยไปจนจบเรื่อง

ส่วนที่โดดเด่นมาก ๆ ของ Copenhagen Cowboy คืองานโปรดักชันของซีรีส์ ที่ในเรื่องนี้ เรฟน์ ยังคงจัดเต็มด้วยสไตล์ที่คุ้นเคย ด้วยงานภาพลองเทค พร้อมการจัดองค์ประกอบภาพ และแสงสีที่สวยงาม ราวกับภาพวาด หรือภาพถ่ายที่วิจิตรงดงาม พร้อมทั้งงานดนตรีประกอบที่มีความเป็น EDM เพิ่มอรรถรสให้การรับชมซีรีส์มากขึ้นไปอีก

โดยรวม Copenhagen Cowboy นับว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่โดดเด่นด้วยสไตล์งานเฉพาะของ นิโคลัส วินดิ้ง เรฟน์ ที่เต็มไปด้วยความวิจิตรงดงามของงานโปรดักชั่น และการพาคนดูไปร่วมผจญภัยกับโลกอาชญากรรม และความดาร์กแฟนตาซี ที่ซ่อนเซอร์ไพรส์แบบที่คนดูคาดไม่ถึง

สามารถรับชมซีรีส์ Copenhagen Cowboy ได้แล้ววันนี้ที่ Netflix

Cr.ภาพ: IMDB

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
anime

รีวิว อนิเมะ สารภาพรักกับคุณคางุยะซะดีๆ ปั่นหัวใจให้เธอมารัก

วันนี้เราจะพาสายเฮฮาปาจิงโกะไปทำความรู้จักกับ การ์ตูน อนิเมะ เรื่อง สารภาพรักกับคุณคางุยะซะดีๆ ซึ่งเป็นการ์ตูนที่ออกฉายทางทีวีที่เน้นในแนวขายขำไม่เน้นสาระสักเท่าไหร่ แต่แน่นอนว่าดูแล้วไม่เครียด ทำให้สมองโล่งผ่อนคลายเพราะไม่ต้องคิดอะไรนั่นเอง ซึ่งเนื้อเรื่องและรายละเอียดอื่นๆ จะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้างนั้น ตามมาอ่านรีวิวกันเลย

สารภาพรักกับคุณคางุยะซะดีๆ เป็นแนวเกี่ยวกับอะไร?

• หลักๆ แล้ว อนิเมะ เรื่องนี้จะเน้นความคอมเมดี้ ฮาๆ ขายขำ ให้คนดูคลายเครียดผ่อนคลายสมอง

• มีความโรแมนติก แต่ไม่ถึงกับโรแมนติกจ๋าบอกเลยว่าหาไม่ได้จากเรื่องนี้แน่นอน

• เน้นเรื่องราวในชีวิตประจำวันของตัวละคร ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วก็จะวนเวียนอยู่ในโรงเรียน

• เป็นเรื่องราววัยน่ารักสดใสสไตล์เด็กมัธยม ที่จะเน้นไปที่มิตรภาพและผองเพื่อน

เรื่องย่อ อนิเมะ

การ์ตูน อนิเมะ แนวโรแมนติกคอมเมดี้ เรื่องนี้ จะประกอบไปด้วยตัวละครหลัก ดังต่อไปนี้

• ชิโรกาเนะ มิยูกิ หนุ่มหล่อประธานนักเรียน ผู้มีชื่อเสียง และยังเป็นนักเรียนดีเด่นอันดับหนึ่งของโรงเรียน

• ชิโนมิยะ คางุยะ สาวสวยรองประธานนักเรียน ลูกสาวเศรษฐีบริษัทใหญ่ผู้ร่ำรวย และดีพร้อมความเก่งกาจหลากหลายด้าน

เรื่องราวความสัมพันธ์ของทั้งคู่เกิดขึ้นท่ามกลางสงครามประสาท ระหว่าง ชิโรกาเนะ มิยูกิ ประธานนักเรียนผู้ไม่เคยเป็นรองใคร เขามีชื่อเสียงโด่งดังแถมยังเป็นนักเรียนดีเด่นอันดับหนึ่งของโรงเรียนอีกด้วย และ ชิโนมิยะ

คางุยะ รองประธานนักเรียนลูกสาวเศรษฐีบริษัทใหญ่ผู้ร่ำรวย เธอดีพร้อมทุกอย่างแถมยังเก่งกาจในหลายด้าน ซึ่งทุกคนต่างก็พากันพูดว่าพวกเขาทั้งสองคนช่างเหมาะสมกันจริงๆ

แม้ว่าลึกๆ แล้วทั้งสองคนมีใจให้กันจริงๆ แต่ทว่าด้วยความเย่อหยิ่งในศักดิ์ศรีของตัวเองจึงไม่มีใครยอมสารภาพรัก เพราะทั้งคู่เชื่อว่าถ้าใครสารภาพรักก่อนคนนั้นคือคนแพ้ ทำให้เกิดสงครามประสาทขึ้นระหว่างทั้งคู่ และยังมีการวางแผนให้อีกฝ่ายสารภาพก่อนอีก งานนี้ใครจะเป็นฝ่ายสารภาพรักก่อนก็ต้องตามไปลุ้นกันต่อในการ์ตูน อนิเมะ สารภาพรักกับคุณคางุยะซะดีๆ เรื่องนี้เลย

ความน่าสนใจของการ์ตูน อนิเมะ เรื่องนี้

การ์ตูน อนิเมะ แนวโรแมนติกคอมเมดี้ เรื่อง สารภาพรักกับคุณคางุยะซะดีๆ หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า Kaguya-sama: Love Is War มีทั้งหมดด้วยกัน 13 EP. ซึ่งได้เริ่มออกอากาศฉายเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2022 สำหรับความน่าสนใจของเรื่องนี้คือเป็น อนิเมะ ที่มีความตลกคลายเครียด มีฉากให้ขำเยอะจนฮาท้องแข็งบอกเลยว่าบันเทิงมากๆ ในส่วนของตัวละครก็ลีลาเยอะไม่บอกรักกันซะทีทำเอาคนดูนี่ลุ้นแล้วลุ้นอีก และอีกเรื่องที่น่าประทับใจในก็คือมิตรภาพและความทรงจำของวัยมัธยมที่ดูแล้วอินหนักมากซึ้งจริงอะไรจริง แต่สุดท้ายเรื่องนี้ก็ไม่ได้ไร้สาระเอาฮาไปซะหมดเพราะยังแฝงไปด้วยข้อคิดดีๆ อีกด้วยล่ะ

รูปภาพประกอบ : online-station.net

รูปภาพประกอบ : shivsaga.com

รูปภาพประกอบ : alphanewscall.com

Categories
manga

Akagami no Shirayuki Hime สโนไวท์ผมแดง อนิเมะ รักต่างชนชั้น

สำหรับใครที่ชื่นชอบการ์ตูน อนิเมะ อารมณ์แฟนตาซีโรแมนติก แนวราชวงศ์ ต้องขอแนะนำ อนิเมะ เรื่องนี้เลย Akagami no Shirayuki Hime สโนไวท์ผมแดง ซึ่งเป็นเรื่องราวความรักที่ต่างชนชั้น ของสาวน้อยกับเจ้าชาย เรื่องราวทำนองนี้บอกเลยว่าสนุกชวนติดตามไม่แพ้การ์ตูนเรื่องอื่นเลยล่ะ โดยเรื่องนี้มีทั้งเวอร์ชั่น มังงะ และ อนิเมะ ให้เราได้ติดตามกัน ใครชอบแบบไหนก็ตามไปโลด ในวันนี้เราจะขอนำเสนอในรูปแบบ อนิเมะ ให้ได้รับชมกัน ซึ่งเรื่องราวจะสนุกขนาดไหนนั้น ตามมาดูกันเลย

Akagami no Shirayuki Hime สโนไวท์ผมแดง เป็นแนวเกี่ยวกับอะไร?

• เป็นเรื่องราวความรัก แนวชายหญิง

• มีความรักโรแมนติกหวานซึ้ง แต่เป็นความรักที่ต่างชนชั้น

• มีความแฟนตาซีชวนฝัน ชวนให้น่าติดตามมากขึ้น

• มีความดราม่าเข้ามาร่วมด้วย ทำให้ได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น

เรื่องย่อ อนิเมะ

การ์ตูน อนิเมะ แนวแฟนตาซีโรแมนติก เรื่องนี้ จะประกอบไปด้วยตัวละครหลัก ดังต่อไปนี้

• ชิรายูกิ สาวชาวเมือง ผู้มีผมสีแดงราวกับผลแอปเปิ้ล

• เจ้าชายราจิ รัชทายาทอันดับหนึ่งแห่งเมืองทันบารุน

• เจ้าชายเซน รัชทายาทอันดับที่ 2 แห่งอาณาจักรคลาริเนส

โดยเรื่องราวย่อๆ ของการ์ตูน อนิเมะ เรื่องนี้นั้นมีอยู่ว่า ชิรายูกิ แปลว่าหิมะขาว ซึ่งมีความหมายเดียวกับชื่อสโนไวท์ ชิรายูกิเป็นหญิงสาวชาวเมือง ผู้มีความรู้และเชี่ยวชาญด้านพืชสมุนไพรโดยเฉพาะ และยังเป็นเจ้าของผมสีแดงสดราวกับผลของแอปเปิ้ล วันหนึ่ง จู่ๆ เธอได้ถูก เจ้าชายราจิ รัชทายาทอันดับหนึ่งแห่งเมืองทันบารุนเรียกเข้าพบ เพราะเขาสนใจในสีผมของเธอและต้องการให้เธอมาเป็นสนมของเขา ซึ่งเจ้าชายผู้นี้มีชื่อเสียงในทางที่ไม่ค่อยดีนัก

จึงเป็นเหตุให้ชิรายูกิตัดสินใจหนีออกจากอาณาจักรไป และในระหว่างทางนั้นชิรายูกิก็ได้พบเข้ากับ เซน ชายหนุ่มรูปงาม ที่ได้เข้ามาช่วยเหลือเธอด้วยความบังเอิญและได้ตกลงเป็นเพื่อนกัน โดยที่เธอหารู้ไม่ว่า แท้จริงแล้ว เซน นั้นเป็นถึงเจ้าชายรัชทายาทอันดับที่สองแห่งอาณาจักรคลาริเนส สามารถติดตามรับชมและร่วมลุ้นไปกับเรื่องราวความรักครั้งนี้ได้ในการ์ตูน อนิเมะ สุดแฟนตาซี Akagami no Shirayuki Hime สโนไวท์ผมแดง เรื่องนี้กันเลย

ความน่าสนใจของการ์ตูนอนิเมะเรื่องนี้

การ์ตูน อนิเมะ โรแมนติกแฟนตาซี เรื่องนี้ เป็นการ์ตูนที่สามารถรับชมได้ตั้งแต่อายุ 13 ปีขึ้นไป โดยเรื่องนี้มีทั้งหมด 12 EP. ด้วยกัน ซึ่งได้เริ่มออกอากาศฉายเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2015 ขอบอกเลยว่า อนิเมะAkagami no Shirayuki Hime สโนไวท์ เรื่องนี้ ทำออกมาได้ดีมากน่าประทับใจสุดๆ ตัวละครน่ารักมากถึงมากที่สุด มีฉากหวานๆ ซึ้งๆ ให้ได้ฟินจิกหมอนไปตามๆ กันแน่นอน เพราะฉะนั้นห้ามพลาดเลย

รูปภาพประกอบ : myanimelist.net

รูปภาพประกอบ : pinterest.com

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

“สะพานแสงดาว” ซีรีส์ไทยน้ำดี แต่ทันสมัยสมยุคของ “ครอบครัว”

                สะพานแสงดาว…เป็นซีรีส์แกะกล่องที่กำลังจะออกอากาศสิ้นเดือนเมษายนนี้ ด้วยเนื้อหาที่อิงเรื่องราวของครอบครัว และเสียดสีสังคมในที่ห่างไกล ผ่าน “สะพาน” ที่เป็นตัวเชื่อมโยงแห่งการเดินทางระหว่างแนวคิดที่แตกต่างกัน ซึ่งมีตัวละครอย่าง “ติณณภพ” รับบทโดย “อ๊อฟ ศุภณัฐ” ทหารหนุ่มผู้มุ่งมั่น แน่วแน่

มีความฝันที่จะปิดทองหลังพระเพื่อส่วนรวมดังที่ตั้งใจ โดยตัวเขาเป็นพี่ชายค่อนข้างเรียบง่าย ไม่สนใจชื่อเสียง หรือแสวงผลประโยชน์เพื่อเงินทองใดๆ เลย เขาเลือกเป็นทหารช่างในด้านวิศวกรรมตามรอยพ่อที่เป็นทหาร ด้วยความแตกต่างด้านแนวคิดของพี่น้อง ทำให้เขาต้องมาทะเลาะกับ “ก้องภพ” รับบทโดย “บอส ธนบัตร” นักร้องดังที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิง ผู้เป็นน้องชายที่เห็นต่าง ไม่ค่อยอินกับการ “ปิดทองหลังพระ” สักเท่าไหร่นัก และเชื่อมั่นในตนเองสูง

จุดเริ่มต้นของ “สะพานแสงดาว” ที่นั่น…ติณณภพมาประจำการ ได้ช่วยเหลือชาวบ้านคนหนึ่งที่ตกทุกข์ได้ยาก และกำลังล้มป่วยหนัก แต่ไม่ทันการณ์ เพราะเขาได้เห็นภาพนั้นด้วยตาของตนเอง บวกกับความยากลำบากของชาวบ้านถิ่นทุรกันดาร ที่จะต้องเดินทางเท้าไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ทำให้แรงบันดาลใจเพื่อความสะดวกของชาวบ้าน

รวมถึงความเสียใจที่ช่วยชีวิตไม่ทัน ชายหนุ่มยืนหยัดที่เลือกที่จะปฏิบัติตามขั้นตอนของ “ความตั้งใจ” พ่อของเขาและกลายเป็นทหารช่างที่นี่ ไม่สนใจว่าน้องชายอย่าง “ก้องภพ” จะเลือกเงินและชื่อเสียงเป็นนักร้องที่ประสบความสำเร็จดังที่ฝันไว้ โดยภาพนั้นมีความเสียดสีสังคมพอสมควรในถิ่นทุรกันดาร บวกกับมองเรื่องปัญหาการเข้าไม่ถึงสาธารณูปโภคสำคัญ และการศึกษาที่ให้เข้าใจคุณค่าของสิทธิในการทำเพื่อตนเอง

จะเห็นได้ว่าในส่วนของทีเซอร์ จะมีบทสนทนาของชาวบ้านที่เคยชินกับการไม่พัฒนาอะไรแบบนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ร้ายแรง มันส่อให้เห็นการไม่ให้ความสำคัญของประชาชน

จะว่าไปไม่เคยเห็น “อ๊อฟ ศุภณัฐ” เล่นบทขรึมๆ แบบนี้มาก่อน อาจเป็นเพราะเห็นจากบทตัวประกอบมากกว่าที่จะเล่นบทเด่นๆ และการรับบท “ติณณภพ” ถือว่าส่งบทบาทเอามากๆ และเป็นตัวเดินเรื่องของความหวังอีกกลุ่ม แต่ก็เป็นภาพสะท้อนของบุคคลที่ตกระกำลำบากจากความเพิกเฉยของภาครัฐในขณะเดียวกัน บทบาทนี้ถือว่าเอาอยู่จริงๆ

                และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือบท “ก้องภพ” ที่ “บอส ธนบัตร” เล่นนั้น เล่นได้ถึงอารมณ์ของคนทันสมัย หาเงินใช้เอง เชื่อมั่นในตนเอง เป็นตัวละครที่ชอบมาก เพราะมันเล่าแทนความรู้สึกของใครหลายคนมากกว่าหมั่นไส้ ซีรีส์เรื่อง “สะพานแสงดาว” จึงเป็นซีรีส์น้ำดีที่ควรดูอย่างมาก ซึ่งออกฉายในวันที่ 30 เมษายน และ 1 พฤษภาคม เวลา 20.30 น. ทางช่องไทยพีบีเอส อยากให้ทำเป็นซีรีส์เรื่องยาว จะมีความน่าสนใจอีกด้วย

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

Blade เตรียมฉายตุลาคม 2023

ช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมาพวกเราคงได้เห็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่จากค่าย Marvel Studio มาหลายต่อหลายตัวและก็ดูเหมือนว่าจักรวาลที่ Marvel Studio นั้นจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของ Marvel Studio เลยก็ว่าได้ เริ่มต้นจากการเป็นทำหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่รู้จักกันแค่ในกลุ่มของเหล่าแฟนของ Marvel เพียงเท่านั้นให้กลายเป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ได้รับการรู้จักไปทั่วทั้งโลก

ภาพจาก Wallpaperaccess

Marvel Studio เป็นจุดเริ่มต้นที่เริ่มต้นจากการที่บริษัทนั้นกำลังจะล้มละลายและต้องขายธุรกิจซูเปอร์ฮีโร่สายตัวไปให้กับทางค่ายอื่น ๆ และในช่วงที่กำลังจะล้มละลายพวกเขาได้ตัดสินใจที่จะเดิมพันกับหนังเรื่อง Iron Man ที่นำแสดงโดย Robert Downey Junior ซึ่งผลตอบแทนตลอด 10 ปี

ที่ผ่านมาทำให้รู้ว่า Marvel Studio นั้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากและในตอนนี้ Marvel Studio ก็พร้อมที่จะดึงลิขสิทธิ์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ได้ขายให้กับค่ายอื่นไปกลับสู่อ้อมกอดอีกครั้งตัวอย่างเช่นร่วมมือกับทาง Sony ในการสร้างภาพยนตร์เรื่อง Spider-Man ทั้ง 2 ภาครวมถึงภาคที่ 3 ที่กำลังจะเข้าฉายในช่วงปลายปีนี้ด้วย และยังมีตัวละครอื่นๆ อีกหลายตัวที่มีแผนการที่จะนำกลับเข้ามาใน Marvel Cinematic Universe ในอนาคต

ภาพจาก Wallpaperaccess

นอกจากจะสร้างภาพยนตร์เรื่องใหม่แล้ว Marvel Studio มีแผนที่จะรีบูสต์ภาพยนตร์เรื่องเก่าด้วยเช่นเดียวกันแร่ที่เป็นข่าวอยู่ในปัจจุบันนี้ก็คือภาพยนตร์เรื่อง Blade ซูเปอร์ฮีโร่ที่เป็นนักล่าแวมไพร์ที่เคยเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ตั้งแต่ในปี 1998 ซึ่งก็ทำทั้งหมด 3 ภาคด้วยกัน

โดยนักแสดงนำก็คือ Wesley Snipes ซึ่งทั้ง 3 ภาคนั้นก็กลายเป็นภาพยนตร์ที่มีคนติดตามเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว และทาง Marvel Studio ก็พร้อมที่จะนำภาพยนตร์เรื่องนี้กลับมาทำใหม่อีกครั้ง และดูเหมือนว่าจะมีการให้ Mahershala Ali มารับบทเป็นตัวละครเอกในเรื่องนี้แทน Wesley Snipes 

ภาพจาก Wallpapersden

ซึ่งล่าสุดก็ได้มีข่าวคราวเกี่ยวกับวันเข้าฉายของภาพยนตร์เรื่อง Blade ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากการที่ทาง Marvel Studio นั้นได้มีการวางแผนทำภาพยนตร์หลายเรื่องรวมถึงซีรีส์ใน Marvel Cinematic Universe ในเฟสที่ 4 ทำให้Blade จะเข้าฉายในโรงช่วงปี 2023 เลย

โดยจะมีการถ่ายทำในช่วงเดือนกรกฎาคมปีหน้า โดยทางทีมงานได้ออกมาบอกด้วยว่าสำหรับภาพยนตร์เรื่อง Blade จะมีความเป็นหนังแนว Horror มากขึ้นและเพื่อให้สอดคล้องกับธีมของภาพยนตร์ ภาพยนตร์เรื่อง Blade จะเข้าฉายในเดือนตุลาคมซึ่งไม่แน่อาจจะเป็นช่วงวันฮาโลวีนซึ่งจะตรงกับวันที่ 31 ตุลาคมนั่นเอง อย่างไรก็ตามทาง Marvel Studio ยังไม่มีการเปิดเผยวันฉายอย่างแน่ชัด

ก่อนที่จะไปถึงปี 2023 ในปีนี้และปีหน้าก็ยังมีภาพยนตร์ของทาง Marvel Studio อีกหลายเรื่องให้ได้ติดตามชมกันเรียกว่าจุใจแน่นอนและเรื่องราวของภาพยนตร์ Marvel Cinematic Universe ในเฟสที่ 4 และเฟสต่อ ๆ ไปก็คงจะเข้มข้นมากขึ้นอย่างแน่นอนเลยทีเดียว

ข้อมูลจาก Screenrant , Regmovies

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง