รีวิวหนัง Kingdom Ashin of the North เนื้อหาภาคแยกจากซีรีส์ Kingdom ที่จะมาพร้อมการเผยจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด
โทนของหนัง และความเข้มข้นไม่แพ้ซีรีส์ พร้อมการปูไปซีซั่นต่อไปได้ชวนติดตาม
Kingdom: Ashin of the North คือหนังภาคแยกจากซีรีส์เกาหลีสุดโด่งดังเรื่อง Kingdom ซึ่งอย่างที่แฟนซีรีส์เรื่องนี้ทุกคนคงทราบดีว่าในตอนจบของ ซีซั่นที่ 2 นั้นได้มีการเผยตัวละครลับตัวใหม่ที่รับบทโดย จุนจีฮยุน ที่มาสร้างเซอร์ไพรส์และปูเรื่องไปสู่ซีซั่นที่ 3
โดยเนื้อหาของ Kingdom: Ashin of the North จะเป็นเรื่องราว Spin-off ที่แยกมาจากเส้นเรื่องหลัก ที่จะว่าด้วยจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ทั้งหมดที่ทำให้เกิดซอมบี้ขึ้น ซึ่งหนังจะเล่าผ่านมุมมองของตัวละคร อาชิน หญิงสาวที่อาศัยอยู่บริเวณชายแดน แต่ทว่าวันหนึ่งครอบครัว และผู้คนในหมู่บ้านบ้านของเธอได้ถูกฆ่าตายจากกลุ่มคนอีกเผ่าหนึ่ง จากการสูญเสียดังกล่าว ทำให้อาชินวางแผนที่จะล้างแค้นให้กับทุกคน ด้วยการถวายตัวรับใช้ราชวงศ์โชซอน

แม้ว่าการเล่าเรื่องจะออกมาในรูปแบบภาพยนตร์ แต่สำหรับ Kingdom: Ashin of the North อาจไม่ถือว่าเป็นหนังเดี่ยวที่สมบูรณ์ตามสไตล์ของหนังซอมบี้เรื่องอื่น ๆ ขนาดนั้น แต่หน้าที่ของเรื่องนี้คือการเติมเต็มช่องว่าง ปริศนาของซีรีส์ Kingdom ให้กระจ่างมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหนังเรื่องนี้จะไม่ได้เน้นขายที่โปรดักชั่นยิ่งใหญ่

หรือการขายฉากวิ่งหนีซอมบี้สุดอลังเหมือนในเวอร์ชั่นซีรีส์ แต่หนังเรื่องนี้จะเป็นการอธิบายจุดกำเนิดของความสยอง และพาคนดูไปทำความรู้จักกับตัวละคน อาชิน ก่อนเตรียมชมซีนซั่นต่อไป ดังนั้นใครที่ดูเพื่อหวังเสพฉากซอมบี้กินคน หรือฉากสงครามสุดมันส์ จากเรื่องนี้คงต้องผิดหวังไม่น้อย

ตัวหนังยังคงถ่ายทอดโทนเรื่องออกมาแบบเดียวกับซีรีส์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ภาพสีโทนมึด การเล่นกับเนื้อหาที่สอดแทรกประเด็นการเมืองที่คมคาย และการสะท้อนถึงจิตใจอันดำมึดของมนุษย์ ในด้านงานโปรดักชั่นเองก็เรียกได้ว่ายังรักษามาตรฐานของซีรีส์ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นฉากซอมบี้สุดสยดสยอง ฉากแอคชั่นที่ดุดัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทีเด็ดของเรื่องคือการสร้างสรรค์สัตว์ CGI ออกมาได้อย่างสมจริง

น่าเสียดายที่ทั้งพลอตเรื่อง ประเด็น รวมถึงคาแรคเตอร์ของตัวละครอาชินที่น่าสนใจ แต่ด้วยความยาวเพียง 90 นาที ทำให้หนังไม่สามารถเติมเต็มรายละเอียด หรืออรรถรสบางส่วนได้ ไม่ว่าจะเป็นมิติตัวละครอาชิน ที่แทบจะแห้งแล้ง ไม่มีอะไรให้จดจำนอกจากความเก่งกาจ

และความแค้นของเธอ รวมถึงฉากแอคชั่นที่ทำออกมาได้ครึ่ง ๆ กลาง ๆ ไม่สุดทั้งความมันส์ หรือความโหด แต่ปัญหาที่สำคัญของหนังเรื่องนี้คือ การนำเสนอฉากที่เป็นช่วงกลางคืนเป็นส่วนใหญ่ ประกอบกับโทนภาพที่มืดทำให้หลายฉากมองภาพแทบไม่เห็น จนเสียอรรถรสในการดูไปไม่น้อย
อย่างไรก็ตามแม้ว่า Kingdom: Ashin of the North จะเป็นหนังที่เต็มไปด้วยข้อด้อยที่น่าเสียดาย เมื่อเทียบกับความดีงามของเวอร์ชั่นซีรีส์ แต่หากมองในแง่ของซีรีส์ตอนพิเศษ หนังเรื่องนี้ก็ถือได้ว่าช่วยเติมเต็มส่วนที่เวอร์ชั่นซีรีส์ยังไม่ได้เล่าได้ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ที่สำคัญมันได้เป็นการปูไปสู่เนื้อหาของ ซีซั่น 3 ที่อาจจะให้อารมณ์ต่างจาก 2 ซีซั่นก่อนอย่างสิ้นเชิง
สามารถรับชม Kingdom: Ashin of the North ได้แล้ววันนี้ที่ Netflix
อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง
Cr.ภาพ: Netflix