ซีรีส์ดราม่า ตลกร้ายน้ำดี ที่นำเสนอประเด็นทางสังคมออกมาได้เข้ากับยุคสมัย

พร้อมการนำเสนอการทำงานของอาจารย์มหาลัยที่เข้มข้น ชวนติดตาม

The Chair เป็นผลงานซีรีส์เรื่องล่าสุดจาก Netflix ที่เป็นงานอำนวยการสร้างโดย เดวิด เบนิออฟ และ ดีบี ไวส์ สองผู้สร้างสรรค์ซีรีส์ Game of Thrones ตัวซีรีส์จะว่าด้วยเรื่องราววุ่น ๆ ของเหล่าคณาจารย์สาขาวิชาภาษาอังกฤษ ในมหาวิทยาลัย หลังจากที่ คิม จียุน (ซาราห์ โอ) ได้รับตำแหน่งให้เป็นหัวหน้าภาควิชา ซึ่งเธอก็ต้องพบกับปัญหามากมายของเหล่าอาจารย์ร่วมคณะ ไม่ว่าจะเป็นการที่นักศึกษาที่มาลงทะเบียนในภาควิชาน้อย เพราะการสอนของอาจารย์อาวุโสที่ตามยุคสม้ยไม่ทัน, เรื่องดราม่าทั้งในโลกโซเชียล และสื่อต่าง ๆ ถึงความอื้อฉาวของอาจารย์ในคณะ รวมทั้งเธอยังต้องรับมือกับ จูอี (เอเวอรี่ คาร์กาลิน่า) ลูกสาวตัวแสบของเธอ ซึ่งมันก็นำมาสู่เหตุการณ์มากมาย

แม้ว่าซีรีส์จะมาพร้อมพลอตเรื่อง และคาแรคเตอร์ตัวละครที่ไม่น่าดึงดูดมากนัก ทั้งด้วยตัวเอกที่เป็นอาจารย์ และยังเต็มไปด้วยตัวละครสูงอายุ แต่ทว่า The Chair กลับนำเสนอเนื้อหาเหล่านั้นออกมาได้สนุก และดีงามเกินคาด โดยซีรีส์ไม่ได้มาในโทนดราม่า เนื้อหาที่เครียด หรือวิชาการจนเกินไป แต่ซีรีส์จะมีการผสมผสานความคอเมดี้ ความน่ารักอบอุ่นแบบหนังครอบครัวเข้าไปด้วย

ซีรีส์ได้มีการเสนอเนื้อหาที่มีหลากหลายประเด็น โดยการแบ่งเส้นเรื่องออกไปตามปมปัญหาชีวิตที่แต่ละตัวละครต้องเผชิญ ทำให้หนังมีหลากหลายประเด็นที่ชวนติดตาม ทั้งเรื่องความขัดแย้งของคนวัยหนุ่มสาว และคนสูงอายุ, การเหยียดสีผิว เชื้อชาติ ความไม่เท่าเทียมเรื่องเพศ ซึ่งซีรีส์สามารถตีประเด็นเหล่านี้ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม โดยที่แต่ละประเด็นไม่ได้ออกมาเครียดจนเกินไป แต่จะถูกเล่าออกมาในรูปแบบมุกตลกร้าย ที่ยิ่งดูยิ่งสนุก และน่าติดตามว่าท้ายที่สุดแล้วตัวละครเหล่านี้จะไปเผชิญกับเรื่องใดต่อไป และด้วยการแบ่งเนื้อหาให้มีเส้นเรื่องย่อย ๆ นี่เอง ที่ทำให้แต่ละตัวละครในซีรีส์เรื่องนี้ล้วนแต่มีมิติ มีคาแรคเตอร์ที่น่าจดจำ

ความสนุกของ The Chair คือการหยอกล้อกับประเด็นต่าง ๆ ที่มีทั้งพาร์ทดราม่าที่จริงจัง หนักหน่วง และพาร์ทที่ดูแล้วชวนอมยิ้ม และอบอุ่นหัวใจ โดยซีรีส์ได้เล่นกับความสัมพันธ์ในแต่ละรูปแบบของตัวละคร มาเป็นอีกหนึ่งสีสันที่นำพาไปสู่เหตุการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ตัวผู้เขียนบทอย่าง เจนนิเฟอร์ คิม ก็สามารถถ่ายทอดความเนิร์ดหนังสือวรรณกรรม ผ่านบทของตัวละครที่เต็มไปด้วยการถกเถียง และเคารพเรื่องผลงานวรรณกรรมชั้นครู ที่สอดแทรกมาตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งหากใครที่เป็นคนที่ชอบนิยาย วรรณกรรมคลสสสิก น่าจะอินกับเรื่องนี้ขึ้นไปอีก

ด้านการแสดง ยังต้องยกเครดิตให้ ซาราห์ โอ ที่ยังสามารถเป็นตัวละครหลักที่น่าจดจำ ในเรื่องนี้ยังคงเป็นอีกบทบาทที่เธอและผสมผสานระหว่างพาร์ทดราม่า และคอเมดี้ออกมาได้ลงตัว โดยเฉพาะพาร์ทดราม่า ที่เธอสามารถเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครได้อย่างยอดเยี่ยม  และอีกหนึ่งการแสดงที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือบท จูอี ของเอเวอรี่ คาร์กาลิน่า ที่ถ่ายทอดความน่ารักสดใสแบบธรรมชาติของเด็กซน ๆ จนสามารถเป็นตัวละครขโมยซีนสำคัญของเรื่องนี้ ที่ไม่ว่าใครที่ได้ดูก็จะต้องหลงรักสาวน้อยคนนี้อย่างแน่นอน

โดยรวม The Chair เป็นอีกหนึ่งซีรีส์น้ำดีจาก Netflix ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการหาแรงบันดาลใจ และเยียวยาใจ ซีรีส์เต็มไปด้วยหลากประเด็นดราม่าที่เข้ากับยุคสมัย และมุกตลกร้ายที่เป็นสีสันตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้มีความยาวเพียง 6 EP. และยาว EP. ละ 30 นาทีเท่านั้น เทียบเท่ากับการดูหนังดราม่า คอเมดี้ เนื้อหาดี ๆ ขนาดยาวสักเรื่องก็ว่าได้

สามารถรับชม The Chair ได้แล้ววันนี้ Netflix

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Cr.ภาพ: IMDB