Categories
series

รักยิ้มของเธอ ซีรี่ย์รักสดใสในโลกกีฬาออนไลน์จาก WeTV

“ลู่ซือเฉิน พี่เผด็จการจริงๆ” คำที่สาวน้อยถงเหยาพูดด้วยความอัดอั้นตันใจแทบตลอดเรื่อง ในขณะที่อีกฝ่ายมักจะเรียกเธอว่า ยายเตี้ย และมักจะถามถงเหยาว่า “สมองมีรอยหยักหรือเปล่า” เรียกรอยยิ้มจากผู้ชมได้ทุกตอนเพราะว่าภายใต้ท่าทางเย็นชาของลู่ซือเฉินทุกคนสามารถรับรู้ได้ถึงความห่วงใยที่ปกปิดเอาไว้

ซีรี่ส์ รักยิ้มของเธอ (Falling into your smile) เปิดตัวด้วยเรื่องราวของสาวน้อยถงเหยา เกมเมอร์สตรีมมิ่งมีแฟนคลับพอสมควร เธอเริ่มเล่นเกมเพราะแฟนเก่าชื่อ เจี่ยนหยาง ที่ได้กลายเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตระดับประเทศ จนสุดท้ายก็เลิกราเพราะเจี่ยนหยางขาดการติตต่อหายไปจากชีวิต

รักยิ้มของเธอ ซีรี่ย์รักสดใสในโลกกีฬาออนไลน์

วันหนึ่งถงเหยาถูกทดสอบในระหว่างการเล่นเกมออนไลน์โดยไม่รู้ตัว หลังจากนั้น ZGDX หนึ่งในทีมอีสปอร์ตชั้นนำส่งเทียบเชิญให้ถงเหยาไปเป็นหนึ่งในทีมแข่ง ถงเหยาลังเลและตัดสินใจเดินทางไปดูการแข่งของ ZGDX กับ CK ที่มีเจี่ยนหยางนำทีม ถงเหยาตัดสินใจได้ว่าจะร่วมทีมกับ ZGDX หลังจบการแข่ง

เจี่ยนหยางพยายามจะรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับเธอ แต่ในตอนนั้นถงเหยาได้จดจ่อที่จะเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตหญิงคนแรกของประเทศ แถม ZGDX ยังมี ลู่ซือเฉิน หัวหน้าทีมตัวสูงสุดหล่อขวัญใจสาวๆทั้งประเทศขวางทางอยู่

รักยิ้มของเธอ ซีรี่ย์รักสดใสในโลกกีฬาออนไลน์

ลู่ซือเฉินเป็นคนเข้มงวดเย็นชาโดยเฉพาะกับถงเหยา  การติดต่อกับโลกภายนอกนั้นดูจะต้องผ่านการอนุมัติของเขาทุกอย่าง แถมยังเข้ามายุ่งแทบทุกเรื่อง กว่าจะมีใครทันรู้ตัวรวมทั้งถงเหยาด้วย ลู่ซือเฉิน เทพบุตรอีสปอร์ตแผนสูงก็ซึมลึกเข้ามาในหัวใจของถงเหยาเสียแล้วพล็อตเรื่องหนุ่มเย็นชาปากร้ายที่เพียบพร้อมทั้งสติปัญญา หน้าตาและฐานะ มาหลงรักผู้หญิงน่ารักแต่เตี้ย-หุ่นไม่ดี-กินเก่ง-ใสซื่อ-ท่าทางเปิ่นๆ พูดจาตรงไปตรงมา เป็นพล็อตฟินเนอเร่สูตรสำเร็จที่ใช้ได้ผลดีแทบทุกครั้ง และครั้งนี้ก็เช่นกัน

รักยิ้มของเธอ ซีรี่ย์รักสดใสในโลกกีฬาออนไลน์

แม้ว่าเฉิงเซียวที่รับบท ถงเหยา นอกจากจะสวย ไม่เตี้ย ไม่อ้วน แต่ด้วยวิธีการแสดงของเธอดูแล้วน่าเชื่อมากกับการเป็นผู้หญิงไม่โดดเด่นแต่ดูไปดูมาก็น่ารักจนทำให้คนหล่อๆมากมายมาขายขนมจีบ ในขณะที่การมีสวีข่ายผู้รับบทเป็นลู่ซือเฉินเป็นคนตัวสูงมากและยังหน้าตาดีแบบไม่ต้องตั้งคำถาม ทำให้เฉิงเซียวเหมาะกับการเป็นยายเตี้ยของลู่ซือเฉินจริงๆ

แม้ว่าพล็อตรองของเหล่านางรองพระรองไม่ค่อยโดดเด่นมากนักแต่ก็ไม่สำคัญอะไร เพราะพล็อตหลักดึงดูดคนดูอยู่หมัด

ในด้านงานโปรดักชั่นไม่มีอะไรต้องติเลย การแข่งขันเกมออนไลน์จะดูน่าสนุกสมจริงดีมาก แต่ที่น่าสนใจคือสาระที่สอดแทรกระหว่างบรรทัดเกี่ยวกับอีสปอร์ตที่เรื่องนี้ได้เปิดเผยเรื่องราวของนักกีฬาชนิดนี้ในมุมมองที่คนทั่วไปอาจจะไม่รู้จัก

รักยิ้มของเธอ ซีรี่ย์รักสดใสในโลกกีฬาออนไลน์

แต่แน่นอนว่าคนที่ไม่รู้จักหรือไม่ได้เข้าใจอะไรเลยกับกีฬาอีสปอร์ตอาจจะกลัวๆว่าจะดูไม่รู้เรื่อง แต่ว่าการไม่รู้อะไรเลยก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไรในการดู แนะนำว่าทำใจร่มๆดูฉากการต่อสู้ไปแบบผ่านๆ ค่อยๆเรียนรู้ไปกับเรื่องราวก็ได้ ไม่ต้องซีเรียส เพราะว่าอันที่จริงทุกคนก็รอลุ้นเด็กใหม่เปิ่นๆกับบอสสุดโหดว่าจะลงเอยกันอย่างไรได้มากกว่า..จริงมั้ย

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

ป่วนรักงานแต่งทิพย์ Once We Get Married

ป่วนรักงานแต่งทิพย์ Once We Get Married ซีรีย์จิกหมอนของจริงสไตล์นิยายประธานพันล้าน

ซีรีย์จีนป่วนหัวใจจาก WeTV เรื่องราวโรแมนติกแบบหวานอมเปรี้ยวหยดแหมะกระแทกใจ ใครโดนก็ติดเบ็ด ด้วยพล็อตสไตล์เทพนิยายยุคใหม่ของจีน ที่มักจะทำเรื่องราวของสาวน้อยธรรมดาที่มีประธานพันล้านมาถูกตาต้องใจ แต่ในเรื่องนี้ออกแบบให้ดูสมจริงมากขึ้น

ป่วนรักงานแต่งทิพย์
ป่วนรักงานแต่งทิพย์

เรื่องย่อ ป่วนรักงานแต่งทิพย์

แฟชั่นดีไซเนอร์สาวน้อยกู้ซีซีลูกสาวคนเดียวของบ้านกู้ เปิดร้านกับเพื่อนสนิทนางแบบ เสี่ยวหยา เป็นร้านเกี่ยวกับสินค้าแฟชั่นทั้งยังรับพรีออเดอร์ของแบรนด์เนมด้วยกำลัง ในขณะที่หัวหมุน อยู่ๆก็มีลูกค้าออนไลน์ขอให้ซื้อชุดแต่งงานของ Marry Me ที่มีราคาเหยียบล้าน กู้ซีซีรับงานทันทีโดยที่ไม่รู้ว่านั่นคือ อิ่นซือเฉิน ประธานบริษัทวายมอลล์ผู้ยิ่งใหญ่ที่มีสาวหมายปองค่อนประเทศ

อิ่นซือเฉินไม่ได้ต้องการชุดแต่งงานจริงๆเขาเพียงจงใจส่งคำจองไปทั่วเพื่อสร้างกระแสเนื่องจากกำลังติดต่อขอร่วมทุนกับ Marry me  และไม่มีทางที่รายเล็กๆจะหาของมาได้จริงแต่กู้ซีซีที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่และกำลังเข้าตาจนเดินทางไปงานเลี้ยงสุดหรูที่เธอไม่มีบัตรเชิญเพื่อไปพบกับ อเล็กซ์ เจ้าของแบรนด์ Marry Me

ป่วนรักงานแต่งทิพย์
ป่วนรักงานแต่งทิพย์

กู้ซีซีทำให้อเล็กซ์สนใจด้วยชุดที่แธอตัดเย็บเอง อิ่นซือเฉินที่อยู่ในงานเลี้ยงนั้นจึงวางแผนใช้กู้ซีซีเพื่อเข้าถึงอเล็กซ์

กู้ซีซีต้องการชุดแต่งงาน อิ่นซือเฉินก็ต้องการธุรกิจ ความร่วมมือโดยบังเอิญและเหตุการณ์ที่พาไปทำให้ทั้งสองคนหลอกอเล็กซ์ว่าเป็นคู่รัก จนกระทั่งเงื่อนไขการร่วมทุนคือการเห็นคู่รักหลอกๆนี้แต่งงานกัน กลายเป็นจุดกำเนิดของเรื่องราวความรักสุดป่วนของประธานหลงตัวเอง กับดีไซเนอร์สาวสุดโก๊ะที่ต้องมาแต่งงานกันจริงๆภายใต้เงื่อนไขสามเดือนหย่า ตามลุ้นคนทั้งคู่แบบจิกๆฟินๆได้ใน ป่วนรักงานแต่งทิพย์

ป่วนรักงานแต่งทิพย์
ป่วนรักงานแต่งทิพย์

ทีมนักแสดงที่โดดเด่น

กู้ซีซีรับบทโดยหวังอวี้เหวิน ที่เล่นได้แบบไม่รู้ว่าโลกนี้จะมีผู้หญิงที่น่ารักกว่านี้จริงหรือเปล่า ด้วยบทโก๊ะๆ ที่ส่งความใสซื่อจิตใจที่ดีงามออกมาได้แบบเป็นธรรมชาติสุดๆ สลับความน่าหยิกของเธอเวลาที่มีเรื่องเงินเรื่องทองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยใบหน้าบานสดใสและดวงตาที่เต้นรำได้ของเธอ

ในขณะที่ หวังจื่อฉี แสดงเป็น อิ่นซือเฉิน ออกมาแบบมนุษย์หลงตัวเองที่ทั้งเย็นชาและน่าไม่อายแบบเข้าถึงที่ดูน่าหมั่นไส้มากกว่ากว่าน่าหลงไหล จากนั้นจึงค่อยๆเผยน้ำใจที่ระอุอุ่นของเนื้อแท้ที่ซ่อนอยู่ของเขาออกมาให้สาวๆได้กรี๊ดกร๊าดกันเกินครึ่งเรื่อง

ป่วนรักงานแต่งทิพย์
ป่วนรักงานแต่งทิพย์

สมทบด้วยอี้ปั๋วเฉินผู้รับบทเป็น มั่วจื่อซิน รุ่นพี่ที่แสนนิสัยดีโคตรหล่ออัธยาศัยดีรวยไม่แพ้อิ่นซือเฉิน เขาควรเป็นชายในฝันของผู้หญิงทั้งโลกแต่ดันต้องมาเจอคู่แข่งหัวใจที่ไม่มีอะไรที่เขาสู้ไม่ได้ ข้างฝ่ายอิ่นซือเฉินก็มี หร่านซีเว่ย รับบทโดยจงลี่ลี่ เป็นเพื่อนสาวครอบครัวร่ำรวยที่รู้จักกับอิ่นซือเฉินมาตั้งแต่เด็ก เธอเป็นสาวสังคมเฉิดฉายสุดฮอตที่ใครๆก็คาดว่าจะลงเอยกับอิ่นซือเฉิน

ป่วนรักงานแต่งทิพย์
ป่วนรักงานแต่งทิพย์

อยากจิกหมอนดูเลย

ใครที่คาดหวังความฟิน ความจิกดูได้แบบไม่ต้องไตร่ตรองไปเลยเรื่องนี้ เพราะว่ามากกว่า 80% ของเรื่องมีให้บริการความฟินแทบทุกตอน มีทั้งหมด 24 ตอน เตรียมหมอนไว้ 24 ใบได้เลย กระจุย-ทุก-ใบ

Once We Get Married


อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

Blossoms Shanghai

ผลงานซีรีส์เรื่องแรกของ หว่องกาไว เผยตัวอย่างแรกอย่างเป็นทางการแล้ว

ห่างหายไปจากการทำหนังมานานร่วม 8 ปีนับตั้งแต่ The Grandmaster ในที่สุดผู้กำกับฝีมือดีอย่าง หว่องกาไว ก็ได้ปล่อยตัวอย่างแรกผลงานใหม่ของเขามาให้ได้ชมแล้วกับ Blossoms Shanghai ที่ครั้งนี้เขาได้หันมาทำเป็นซีรีส์เรื่องแรกในชีวิต โดยผลงานนี้ก็ได้ถูกวางให้เป็นเหตุการณ์ต่อจาก In The Mood for Love และ 2046

Blossoms Shanghai
Blossoms Shanghai

Blossoms Shanghai ดัดแปลงมาจากนิยายดังของ จินอวี้เฉิง ที่ว่าด้วยเรื่องราวของ อาเป่า (หูเกอ) ชายหนุ่มผู้ต้องมาต่อสู้ชีวิต เพื่อสร้างเนื้อสร้างตัวเซี่ยงไฮ้ ช่วงยุค 90 จนท้ายที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จในชีวิต

และกลายเป็นคนร่ำรวยในที่สุด โดยซีรีส์จะมีความยาวทั้งหมด 30 ตอน ซึ่งจะฉายบนแอปพลิเคชั่น WeTV มีกำหนดออนแอร์ในช่วงปี 2022

Blossoms Shanghai
Blossoms Shanghai

สำหรับโปรเจกต์นี้ หว่องกาไว จะมารับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ และร่วมกำกับในบางตอน โดยหนึ่งในเหตุผลที่หว่องหาไวเลือกที่จะสร้างซีรีส์เรื่องนี้ ก็เพราะเขานั้นต้องการจะถ่ายทอดความทรงจำในวัยเด็กของเขาที่มีต่อเซี่ยงไฮ้ เนื่องจากหว่องกาไวเคยใช้ชีวิตในวัยเด็กที่เซี่ยงไฮ้

แต่ด้วยภาวะสงครามทำให้เขาต้องอพยพไปยังฮ่องกง และเติบโตที่นั้น Blossoms Shanghai เลยถือว่าเป็นผลงานที่หว่องกาไวต้องการถ่ายทอดความทรงจำของเขาต่อเซี่ยงไฮ้ ผ่านซีรีส์เรื่องนี้

Blossoms Shanghai
Blossoms Shanghai

ความน่าสนใจของซีรีส์เรื่องนี้ คือการได้เห็นสไตล์งานของหว่องกาไว แบบที่คิดถึงอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการใช้บทที่เปรียบเปรยชีวิตได้อย่างคมคายของตัวละคร และคาแรคเตอร์ตัวเอกที่ดูเหงา ๆ ที่ล้วนแต่บ่งบอกว่าคืองานของผู้กำกับผู้นี้ทั้งสิ้น อย่างไรก็ตามในตัวอย่างแรกก็ยังไม่ได้มีการเผยส่วนเชื่อมโยงระหว่าง In The Mood for Love หรือ 2046

ในเรื่องนี้แต่อย่างใด ซึ่งอาจต้องมารอลุ้นกันในซีรีส์ว่า หว่องกาไว จะซ่อนอีสเตอร์เอ้ก หรือส่วนเชื่อมใด ๆ ของหนังทั้ง 2 เรื่องของเขาไว้ในเรื่องนี้บ้าง รวมถึงต้องมาลุ้นว่าเราจะได้เห็น เหลียงเฉาเหว่ย ตัวเอกจากหนังทั้งสองเรื่อง และนักแสดงคู่บุญของหว่องกาไว มาร่วมเซอร์ไพรส์ในซีรีส์หรือไม่

Blossoms Shanghai
Blossoms Shanghai

หว่องกาไว คือผู้กำกับชาวฮ่องกง ที่มีสไตล์การกำกับหนังที่เฉพาะตัว และต่างจากผู้กำกับหนังฮ่องกงคนอื่น ๆ โดยงานของเขานั้นมักจะเป็นหนังอินดี้ ที่พูดถึงเรื่องราวชีวิตของตัวละครที่มี ‘ความเหงา’ เป็นจุดขาย งานของหว่องกาไว มักจะพูดถึงตัวละครต่างอาชีพที่ล้วน

แต่ต้องอาภัพในความรัก นอกจากนี้หนังของเขาก็ยังมีส่วนในการสะท้อนบรรยากาศการเมืองของจีน และฮ่องกง ผ่านสถานการณ์แวดล้อมในหนัง โดยผลงานมาสเตอร์พีซของเขาคือ In The Mood for Love และ Chungking Express ที่ทั้งสองงานได้กลายเป็นลายเซ็นสำคัญของหว่องกาไว และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้แกนักทำหนังรุ่นใหม่ ๆ มาจนทุกวันนี้

Blossoms Shanghai
Blossoms Shanghai

นอกจากนี้ใครที่เป็นแฟนหนังของ หว่องกาไว ในปีนี้เรายังจะได้ชมผลงานที่เขาร่วมรับหน้าที่โปรดิวเซอร์ กับหนังไทยที่มีชื่อว่า “One for the Road” หนังดราม่า ผลงานงานการกำกับของ บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ เจ้าของผลงาน “ฉลาดเกมส์โกง” ซึ่งเป็นการร่วมทุนสร้างระหว่างไทย และจีน

โดยหนังเรื่องนี้ก็ได้คว้ารางวัล World Dramatic Special Jury Award: Creative Vision จากเวทีภาพยนตร์นานาชาติ  Sundance Film Festival 2021 เมื่อต้นปีที่่ผ่านมา โดยคาดว่าหนังน่าจะมีกำหนดฉายในไทยช่วงปลายปีนี้

ส่วนโปรเจกต์ Blossoms Shanghai หากมีข่าวคราวอัปเดท หรือมีการประกาศวันฉายอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ ทางเราจะรีบนำมาอัปเดทในทันที

Blossoms Shanghai

Cr.ภาพ: Official Trailer Blossoms Shanghai

ติดตามอัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์

Categories
series

My Unicorn Girl ซีรีส์จีน ฟีลกู๊ดต้อนรับโอลิมปิก 2020

อีกไม่กี่วันจะเข้าถึงมหกรรมกีฬาของมวลมนุษยชาติอย่างกีฬาโอลิมปิก 2020 ที่เลื่อนจากปีที่แล้วเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และต้องแข่งขันแบบ Social Distancing โดยปริยาย การเป็นเจ้าภาพครั้งนี้จัดที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

จึงขอเปิดโอกาสในการรีวิวซีรีส์จีนที่เป็นซีรีส์ที่เกี่ยวกับสายกีฬาเพื่อต้อนรับช่วงโอลิมปิกในครั้งนี้เพื่อคลายความตึงเครียดกัน ซึ่งมันมีชื่อว่า “My Unicorn Girl” หรือมีชื่อภาษาไทยว่า วุ่นรักสาวน้อยนักฮอกกี้ ได้ออกฉายอย่างเป็นทางการที่ช่อง iQiYi แต่ต้องบอกก่อนว่าไม่ได้มีแค่สายกีฬา ยังเป็นซีรีส์ที่ติดอันดับพ่อแง่แม่งอนด้วยนะ

My Unicorn Girl
My Unicorn Girl

“ซางเทียน” นางเอกของเรื่องเป็นนักสเก็ตลีลาที่มุ่งมั่น ในวันที่เธออายุครบ 18 ปี เธอให้คำมั่นสัญญากับครอบครัวว่าเธอจะถูกรับเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกันกับที่แม่ของเธอเคยเรียน ในการเข้าไป เธอต้องผ่านการทดสอบ ซึ่งเธอซึ่งเป็นนักเล่นสเก็ตและนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ คาดหวังว่าจะได้เอซ (แปลว่าผ่าน)

อย่างไรก็ตาม สิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามแผนของซางเทียน และเธอก็สอบไม่ผ่าน แต่ไม่ได้แปลว่าเธอจะยอมแพ้ ซางเทียนตัดสินใจที่จะไม่ยอมแพ้ ในเส้นทางของเธอ และด้วยความสิ้นหวังที่ฮอกกี้ไม่รับผู้หญิง เธอแต่งตัวเป็นนักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งชาย

My Unicorn Girl
My Unicorn Girl

และเข้าร่วมการแข่งขันเพื่อเป็นหนึ่งในทีมสำหรับทีมวิทยาลัย เธอเปล่งประกายอย่างไม่คาดฝัน และได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของการซ้อมฮอกกี้น้ำแข็งที่มีในทีมของผู้ชาย แล้วเรื่องวุ่นๆ เกิดขึ้นเมื่อ “เวิ่นปิง” ชายหนุ่มที่เธอเคยฟันดาบมาก่อนก็เป็นส่วนหนึ่งของทีมเช่นกัน ที่แย่ไปกว่านั้น เจอหน้ากันก็ขิงก็ราข่าก็แรง แล้วเธอพบว่าเธอต้องแชร์หอพักกับเขา และพยายามดิ้นรนเพื่อปกปิดตัวตนที่แท้จริงของเธอไว้เป็นความลับ

ซางเทียนและเวิ่นปิงได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นตัวเต็งในทีมที่จะประสบความสำเร็จที่เพิ่งค้นพบใหม่ของทีม และทีมก็พบว่าตัวเองมีประตูในการชิงแชมป์ เมื่อนักเรียนสองคนเริ่มรู้จักกัน พวกเขาพัฒนาความเคารพซึ่งกันและกัน… แต่วันหนึ่งจะเปลี่ยนเป็นความรักได้ไหม

My Unicorn Girl
My Unicorn Girl

ตอนจบแทบไม่ต้องพูดถึงเลยล่ะ เพราะมันฟินมาก ทำให้นึกถึงซีรีส์เกาหลีเรื่อง To The Beautiful You ที่นางเอกต้องปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อเป็นนักกีฬากรีฑาเหมือนพระเอก แต่มีความต่างตรงที่ซีรีส์ My Unicorn Girl ตัวนางเอกมีความสามารถมาก่อน

ทำให้มีความ Make Sense มากกว่าเรื่องอื่น ซึ่งผิดจากเวอร์ชั่นเกาหลีตรงที่นางเอกเริ่มมาจากศูนย์เลย แต่เนื้อเรื่องเรียกได้ว่าน่าสนใจมากสำหรับใครที่ชอบดูสายกีฬา แต่อยากฟินไปในตัว ขอแนะนำว่าควรค่าแก่การดูอย่างมาก เพราะเนื้อเรื่องสนุกสนาน เร้าใจ แถมฟินสมราคาจริงๆ

My Unicorn Girl

ติดตามอัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์

Cr. iQiYi

Categories
series

Negotiator (2018) ซีรีส์จีนฉีกกฎจาก Trade War แท้จริง

ถ้าพูดเรื่องซีรีส์จีนในปัจจุบันเริ่มเปิดกว้างในกลุ่มคนดูที่เป็นจำนวนมากเพิ่มขึ้น จะเห็นได้จากฝั่งเกาหลีมีการเพิ่มเนื้อหาในซีนดราม่าหนักมากขึ้น และฝั่งจีนจะเพิ่มเนื้อหาไปในทางจิ้น เอาใจคนดูและมีความหลากหลายมากกว่า แต่ก็มีเรื่องหนึ่งที่เรียกได้ว่าสวนทางกับช่วง Trade War อย่างแท้จริงต้องยกให้ “Negotiator” ซึ่งเป็นเรื่องที่เนื้อหาได้น่าสนใจเลยทีเดียว เพราะมันทำให้รู้ว่าความดุเดือดไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธเสมอไป ใช้การเจรจาต่อรองนี่แหล่ะสมน้ำสมเนื้อดี

Negotiator (2018)
Negotiator (2018)

กว่าเรื่องนี้จะเปิดตัวนั้นต้องเรียกได้ว่าผ่านกระแสดราม่ามากพอสมควร เนื่องด้วยเนื้อหาความใหม่ที่ปกติจะไม่ค่อยได้เน้นอะไรเกี่ยวกับต่างประเทศนัก ถ้าไม่ใช่เรื่องราวเกี่ยวกับละแวกใกล้เคียงอย่างไต้หวัน ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ มาเก๊า แต่เรื่องนี้ถ่ายทำกันถึงที่ฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา กับประเทศจีน และช่วงนั้นต้องยอมรับว่า Trade War กำลังแรงเลยทีเดียว

มุมมองของพระนางในเรื่อง ผู้เขียนรู้สึกชอบ “หยาง มี่” ที่รับบท “ถง เว่ย” นักธุรกิจสาวที่มีสกิลการเจรจาในวงการธุรกิจระหว่างอเมริกันกับจีน ภาพแรกที่ผู้เขียนดูพบว่าเธอเกิดมาเพื่อเป็นถง เว่ยจริงๆ เพราะเธอมาในมาดผู้ดีมีสกุลสมราคามาก และเธอมาพร้อมกับ “ฉิน เถียนยู่” ทนายที่เป็นฝ่ายนิติกรประจำการเจรจาครั้งนี้ ซึ่งแสดงโดย “กัว ผิ่นเชา”

Negotiator (2018)
Negotiator (2018)

พระเอกจากซีรีส์ The Outsiders ทั้งสองภาคมาเล่นบทนี้ด้วยในบทพระรอง และพระเอกของเรื่องก็คือ “หวาง จื้อเทา” หรือ “เทา EXO” ที่มารับบท “เซี่ย เสี้ยวเฟย” พระเอกของเรื่องเป็นคนขบถ หัวดื้อ มั่นใจในตนเองสูง เป็นคนจำเป็นต้องสืบทอดทางธุรกิจ ทั้งที่ตนไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ในเรื่องนี้จะเหมือนชิงไหวชิงพริบในโลกธุรกิจ จนมีเรื่องราวที่ฝั่งพระเอกมีส่วนทำให้พ่อแม่ของนางเอกต้องตาย

แล้วในอีก 2-3 ปีต่อมาพระเอกกับนางเอกก็กลับมารักกัน จนได้ลงเอยกันในที่สุด ซึ่งทำเรตติ้งดีมากในเจียงซูเลยทีเดียว ผู้เขียนชอบตรงที่คอสตูมที่ตอบโจทย์โลกแฟชั่นมากเลยทีเดียว แต่ขัดใจตรงที่การแคสนี่แหล่ะ เหมือนเอาพระเอกมาแกงพระรองซะงั้น (พระรองหล่อกว่าพระเอกเสียอีก 55555) แต่ไม่เป็นไร เทาเล่นดีมากๆ

Negotiator (2018)
Negotiator (2018)

ซีรีส์นี้ต้องบอกก่อนว่าลงตัวทุกช็อต ไม่มีส่วนไหนบกพร่องแม้แต่นิดเดียว แต่มันจะหนักไปทางความหวานของคู่พระนางตัวหลักส่วนใหญ่ แต่ก็มีช่วงที่เอาด้านรักในวัยรุ่นเข้ามาด้วยในคู่ของพระรอง ใครจะให้พระรองเดียวดายฝ่ายเดียวล่ะ

จะว่าไปเรื่องนี้ผู้เขียนให้ประมาณ 8/10 สำหรับคนชอบดูซีรีส์จีน แต่ที่หักสองคะแนนเพราะให้ไปในทางความหวานของพระนางที่มากจนจะเลี่ยนไปหน่อย กับแก่นแท้การเจรจาสั้นไปหน่อย หลังๆ เหมือนจะเชือดเฉือนหนักกว่าเจรจา แต่ภาพรวมถือว่าซีรีส์นี้ทำออกมาสวนกระแส Trade War หรือสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนเลยทีเดียว

ติดตามอัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์

Categories
series

Count Your Lucky Stars กับเรื่องหัวใจที่ครบรสครบสูตร

เรื่องแฟชั่นและวงการบันเทิงเป็นของคู่กันเสมอ ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ในชีวิตจริงแข่งขันสูงมากในสังคมชาวจีน แล้วในซีรีส์เรื่องนี้ก็เล่นไปในทางชิงดีชิงเด่นในเรื่องแฟชั่นอย่างชัดเจน แต่ผู้เขียนได้ดูซีรีส์เรื่องนี้ทำให้รู้สึกตื่นเต้นกับความระทึกไปในตัว

และอาศัยเรื่องโชคชะตาของคู่พระนางชัดเจน ซึ่งมีชื่อว่า “Count Your Lucky Stars” ซึ่งนำแสดงโดย เจอร์รี่ เหยียน (เจอร์รี่ F4) กับเสิ่นเยว่ เหมือนกับว่าเป็นการพบกันระหว่างคู่สองพระนางจาก “Meteor Garden” ทั้งสองเวอร์ชั่นมาพบกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ติดกันงอมแงม แต่พอมาเจอกันใน Count Your Lucky Stars ต้องมีข้อถกเถียงก่อนได้จิ้นเสมอ

Count Your Lucky Stars
Count Your Lucky Stars

อันดับแรกเลยก็คือเนื้อเรื่องจะเป็นแนวพ่อแง่แม่งอน (นิดๆ) เนื่องจากพระเอกเป็นบรรณาธิการนิตยสารแฟชั่นแห่งหนึ่งที่มีความโชคดีอยู่ในดวง ซึ่งเขาไม่ได้อยากฝันที่จะเป็นบรรณาธิการหรอกนะ เพราะความฝันจริงๆ ของพระเอกคือดีไซน์เนอร์ (คล้ายๆ กับความฝันและความจริงในสังคมไทยและจีนมากเลยล่ะ)

และนางเอกผู้มีความฝันที่จะเป็นดีไซน์เนอร์ แต่มาพร้อมกับดาวแห่งความโชคร้ายในโชคชะตา เรียกว่าพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกก็ไม่เชิงนัก มีช่วงหนึ่งที่พระเอกกับนางเอกเจอกัน เผลอจูบแบบพลาดท่ากันโดยไม่มีใครคาดคิด เหมือนกับว่าคู่พระนางโชคชะตาสลับข้างกัน นางเอกกลายเป็นคนโชคดี มีความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน ส่วนพระเอกถูกสลับขั้วกลายเป็นคนทำอะไรก็มีแต่เรื่อง

ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบไปยันเจ็บตัว และยังมีบางตอนที่เผยให้เห็นด้านอ่อนแอของพระเอกในเรื่องความฝันกับแม่ที่เสียชีวิตไป นางเอกทำให้พระเอกกล้ากลับไปทำตามความฝันการเป็นดีไซน์เนอร์อีกครั้ง แล้วความฝันนั้นก็ต้องสู้กันหนักหน่วงเลยทีเดียวกว่าจะสมหวัง ข้อถกเถียงที่ชัดเจนก็คงไม่พ้นเรื่องอายุระหว่างพระเอกกับนางเอกที่ห่างกันตั้ง 20 ปี!

Count Your Lucky Stars
Count Your Lucky Stars

แต่ฝีมือการแสดงทำให้พระเอกกับนางเอกเหมือนคู่พระนางฉบับ “แด๊ดดี้ที่ไม่ได้แปลว่าพ่อ” ซึ่งอายุไม่ใช่อุปสรรคในด้านฝีมือการแสดง ถ้าได้กลับไปดูจะพบว่าเนื้อหาของเรื่องเป็นรักครบรสที่เชิงบวกมากเลยทีเดียว

ตอนจบเป็นอะไรที่แฮปปี้เอนดิ้งตามฉบับซีรีส์จีนในอุดมคติอย่างมาก เนื้อเรื่องค่อนข้างสมเหตุสมผลอย่างมาก เพราะกว่าจะเริ่มต้นอะไรสักอย่าง ใช่ว่าทุกคนที่จะทำตามความฝันได้ทุกคน

Count Your Lucky Stars
Count Your Lucky Stars

แต่ก็น้อยคนนักที่จะไปถึงจุดนั้น ถ้ามองในมุมกลับกันถ้าได้รับกำลังใจที่ดี ส่งเสริมให้แก่กัน ก็จะทำให้สามารถก้าวผ่านอุปสรรคที่หนักหนาสาหัสได้ด้วยความราบรื่น และยืนหยัดได้ด้วยจิตใจเข้มแข็งของตนเองมากขึ้น จึงเป็นซีรีส์ที่ควรค่าแก่การดูมากเลยทีเดียว

ติดตามอัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์

Cr. VIU

Categories
series

Ever Night “สยบฟ้าพิชิตปฐพี”

Ever Night ทั้งสองภาคกับความรู้สึกจากการดูที่เปลี่ยนไป

คอซีรีส์จีนแฟนตาซีไม่ควรพลาดสำหรับเรื่อง Ever Night หรือชื่อไทยชื่อว่า “สยบฟ้าพิชิตปฐพี” ที่ทำมาสองภาคแล้ว เป็นเรื่องแรกที่ดูแล้วรู้สึกอลังการงานสร้างสูสีกับดาบมังกรหยกอย่างมาก ซึ่งได้นำนิยายออนไลน์ที่มียอดผู้ติดตามมาสร้างเป็นซีรีส์ แล้วผลตอบรับกลับมารู้สึกว่ายอดเยี่ยมมากทั้งสองภาคเลยล่ะ

แต่มันก็มีความดูแล้วไปสุดบ้างไม่สุดบ้างในทั้งสองภาคของ Ever Night เลยทีเดียว เนื้อเรื่องจะเป็นตัวพระเอกที่ครอบครัวถูกฆ่า แล้วมีชีวิตรอดคนเดียว เป้าหมายในชีวิตของตนที่มีคือการแก้แค้นคนที่ทำให้ครอบครัวต้องตาย ส่วนเรื่องความสวยหล่อ ซีรีส์เรื่องนี้จัดว่าครบสูตร

Ever Nightสยบฟ้าพิชิตปฐพี
Ever Nightสยบฟ้าพิชิตปฐพี

น้ำหนักของเรื่องนี้ออกไปทางแฟนตาซีสูงมาก แถมสนุกมากด้วยเช่นกัน เรื่องในซีรีส์นี้มีจุดเริ่มต้นของเรื่องที่เกิดขึ้นในสมัยราชวงศ์ถัง เมื่อครอบครัวหนึ่งถูกสังหารอย่างไม่ยุติธรรมโดยนายพลผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง (เรียกว่าร้ายกาจเอาเรื่อง) มีเพียงเด็กหนุ่มชื่อหนิงเชวี่ย (พระเอกของเรื่อง) เท่านั้นที่รอด อยู่มาวันหนึ่งเขาช่วยชีวิตเด็กหญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งชื่อว่า ซังซัง เพื่อให้เธอรอดพ้นจากความตาย ตั้งแต่วันนั้นทั้งสองคนก็แยกจากกันไม่ได้เหมือนปาท่องโก๋ แต่จะว่าไปซังซังน่ารักอย่างนี้กินเหล้าเก่งมาก

แต่ไม่เมา (ถ้าชีวิตคนจริงๆ นี่ซ่าแค่ไหนก็จอด) มีสิ่งที่น่าสังเกตระหว่างตัวพระเอกทั้งสองภาคจะมีความต่างกันทั้งที่เป็น “หนิงเชวี่ย” ทั้งคู่ โดยภาคแรกเป็นของ “เฉิน เฟยยวี่” ภาคสองเป็นของ “หวัง เฮ่อตี้” จุดแตกต่างมันชัดตรงที่การถ่ายทอดของตัวละครนี่แหล่ะ

Ever Nightสยบฟ้าพิชิตปฐพี
Ever Nightสยบฟ้าพิชิตปฐพี

ตัวภาคแรกจะให้แววตาที่มีความอาฆาตมาดร้ายมากกว่าภาคสองเพราะในเรื่องจะเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นที่เสียครอบครัวไป แต่ภาคสองจะให้ความขบถมากกว่าภาคแรก จะออกไปทางกวนๆ แต่ฉากหวานๆ เยอะมาก และออกไปทางกุ๊กกิ๊กสมัยปัจจุบันเสียอีก

ส่วนนางเอกทั้งสองภาคสวยจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น “ซ่ง อี้เหริน” นางเอกผู้หน้าเด็กตลอดกาลกับ “หยาง เชาเยว่” แห่งวง Rocket Girl 101 อันนี้ยอมรับเลยทีเดียวว่าสวยมาก แต่ไม่น่าเปลี่ยนตัวละครบ่อยเลย แต่ก็เข้าใจว่าเป็นเหตุผลที่ทีมงานมองว่าสมควรแล้วล่ะ แล้วพระเอกภาคแรกเรียนต่อด้วย

Ever Nightสยบฟ้าพิชิตปฐพี
Ever Nightสยบฟ้าพิชิตปฐพี

ส่วนคนที่ไม่ต้องเด่นแต่ Air Time เยอะที่สุดคงไม่พ้นศิษย์พี่รอง “เฉิง จุนโม่” ที่รับบทโดย “กัว ผิ่นเชา” พระเอกฝั่งไต้หวันที่มาในมาดดุดัน แต่มีความพ่อพระในที ซึ่งเป็นหนึ่งใน 12 ศิษย์แห่งสำนักที่อยู่ในกลุ่ม “ผู้รู้ชะตา” ซึ่งเป็นขั้นสูงมากในเรื่อง แหม…ซีนคุณเด่นทุกซีนจริงๆ การถ่ายทำจะถ่ายในแถบซินเจียง และกุ้ยโจว เพราะเมืองเหล่านี้เหมาะกับซีนแฟนตาซีค่อนข้างมาก แล้วนักแสดงสามารถใส่ได้เต็มที่ไม่มีกั๊ก ซีรีส์เรื่องนี้เหมาะมากที่จะดูได้ทุกเพศทุกวัยจริงๆ

ติดตามอัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์

Cr. We TV

Categories
series

You Are My Hero

You Are My Hero ซีรีส์จีน ความจิ้นนี้อยากให้มีในไทยบ้าง

ถ้าเป็นซีรีส์เรื่องของคนมีสีกับคุณหมอ ก็คงนึกถึง Descendant Of The Sun ที่เป็นเรื่องทหารที่ทำหน้าที่ในต่างประเทศที่แร้นแค้นกับคุณหมอที่ส่งมาจากเกาหลีใต้เพื่อช่วยภารกิจ ซึ่งทำเรตติ้งถล่มทลายมากเลยล่ะ

แต่ในซีรีส์เรื่องนี้ You Are My Hero ฝั่งจีนก็ไม่น้อยหน้า เพราะเป็นเรื่องของตำรวจที่เป็นหน่วยสวาท (SWAT ของจีน) กับคุณหมอสาวสวยที่พล็อตเรื่องที่ใครๆ มองว่าคล้ายกัน แต่ผู้เขียนมองว่าค่อนข้างต่างกัน เพราะเนื้อเรื่องจะมุ่งไปทางในเมืองตั้งแต่ต้นจนจบมากกว่าที่จะสลับสถานที่เหมือนฝั่งเกาหลีใต้เสียอีก แต่จะว่าไปคู่พระนางเคมีเข้ากันมากเลยทีเดียว

You Are My Hero ความจิ้นนี้อยากให้มีในไทยบ้าง
You Are My Hero

ใครที่ได้ดูจะนึกถึงบท “คุณหมอหมีข่า” กับ “ผู้กองสิง เค่อเล่ย” ที่เป็นตัวชูโรงของซีรีส์เรื่องนี้ จุดที่น่าสนใจและแตกต่างกันจากของ Descendant Of The Sun ตรงที่ พระเอกกับนางเอกแอบชอบกันตั้งแต่ครั้งแรก

แต่ด้วยภารกิจและหน้าที่ของหน่วยสวาท ที่จะต้องปกปิดใบหน้าและชื่อตัวเองเพื่อความปลอดภัย รวมถึงห้ามปฏิสัมพันธ์กับใคร ระหว่างภารกิจนี้ ถ้ามองในชีวิตจริงก็อยากให้ตำรวจเป็นมิตรกับหมอเหมือนในซีรีส์นี้จริงๆ แต่ถ้าไม่ติดเรื่องดราม่าตำรวจเจ้าชู้ กับตำรวจถูกบงการในช่วงสลายม็อบ ชีวิตจริงก็น่าอิจฉามากเลยล่ะ

ตัวผู้กองสิง เค่อเล่ยที่รับบทโดย “ไป่ จิงถิง” ที่สลัดคราบนักร้อง แรปเปอร์มาเป็นตำรวจสุดเท่เป็นกัปตันหน่วยคอมมานโดที่อายุน้อยที่สุดอีกด้วย ส่วนคุณหมอหมีข่า รับบทโดย “หม่า ซื่อชุน” เป็นคุณหมอแสนสวยที่กลัวความสูง

You Are My Hero ความจิ้นนี้อยากให้มีในไทยบ้าง

ในซีรีส์เรื่อง You Are My Hero เผยให้เห็นว่า ฉากหนึ่งเธอถูกจับเป็นตัวประกันโดยอาชญากรในการปล้นธนาคาร และได้รับการช่วยเหลือโดยบังเอิญจากกัปตัน SWAT ที่มีชื่อว่า “สิง เค่อเล่ย” ทั้งสองแอบชอบกันและประทับใจตำรวจหน่วย SWAT อย่างมากตั้งแต่นั้นมา ซึ่งทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย จนกระทั่งสองปีต่อมา เขาและเธอได้พบกันอีกครั้งในการฝึกกู้ภัยฉุกเฉินซึ่งจัดโดยทีมตำรวจพิเศษร่วมกับของโรงพยาบาล

ในระหว่างการปฏิบัติการกู้ภัยหลายครั้ง เธอค่อยๆ ได้รับความสนใจจากความอบอุ่นและความแข็งแกร่งของคุณตำรวจคนนี้เข้า จนเธอตกหลุมรักเขาในที่สุด

You Are My Hero ความจิ้นนี้อยากให้มีในไทยบ้าง
You Are My Hero

กระแสซีรีส์ You Are My Hero คุณคือป้อมปราการของฉัน ยังคงเป็นซีรีส์ที่ครองใจผู้ชมคนไทยมากที่สุด รวมถึงผู้ชมจากประเทศอื่นๆ ในโซนเอเชียและอาเซียนอีกด้วย เนื้อเรื่องที่ใครๆ อยากให้มีในชีวิตจริง และหวังว่าจะได้มีคนหล่อๆ สักคนออกมาจากในซีรีส์เพื่อมาคู่กันในชีวิตจริงอย่างที่ใจหวัง ผู้เขียนก็ชอบการถ่ายทอดบทบาทรวมถึงการแสดงทั้งตัวหลักและตัวรองสามารถถ่ายทอดออกมาได้ดีเยี่ยมเลยทีเดียว และการทำการบ้านทำได้ดีกว่าที่คาดค่อนข้างมากเลยล่ะ

You Are My Hero

Cr. Croton MEGA HIT

ติดตามอัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์

Categories
series

Snow Queen ซีรีส์พีเรียด

series-nime.com มารีวิว Snow Queen ซีรีส์พีเรียดว่าด้วยเรื่องของหน้าที่กับหัวใจ

ถ้ามีซีรีส์จีนแนวประวัติศาสตร์กับจารชนเข้ามาผสมผสานกัน ผู้เขียนยกนิ้วให้กับเรื่อง “The Snow Queen” หรือ “ราชินีหิมะ” เรื่องราวจะออกแนวบางระจันในไทยผสมกับหนึ่งด้าวฟ้าเดียวเข้ามาด้วย จึงค่อนข้างแหวกแนวในเรื่องของประวัติศาสตร์จีนมากพอสมควร แต่เรื่องราวนี้ขอสปอยล่วงหน้าเลยว่า…มันเศร้ามาก แต่มันเศร้าแบบ Make Sense อยากรู้ไหมว่าเพราะอะไร ผู้เขียนจะขอรีวิวซีรีส์เรื่องนี้จากการดูผ่านบทความนี้ให้ทุกคนได้อ่านกัน ซึ่งได้ดูแล้วต้องบอกว่ากินใจคนดูมากพอสมควร เพราะซีรีส์เรื่องนี้ออกอากาศมานานถึง 50 ตอนแล้วในปี 2018 ของสถานีเจียงซูด้วยนะ

the snow queen ราชินีหิมะ ซีรีส์ประวัติศาสตร์
The Snow Queen ราชินีหิมะ ซีรีส์จีน แนวประวัติศาสตร์

เรื่องราวของ The Snow Queen จะมุ่งไปในทางกรณีมุกเดน ที่มีข้อพิพาทระหว่างฝั่งกองทัพจีนกับกองทัพแมนจู (กองทัพราชวงศ์ชิงในยุคนั้น) หรือช่วงนั้นอยู่ภายใต้การยึดครองของญี่ปุ่น แล้วแมนจูเป็นรัฐหุ่นเชิด จึงทำให้ “กู้ เจ้าหลง” เป็นจารชนไปแฝงตัวในกลุ่มพวกแมนจู ซึ่งเป็นคนรักของ “กู้ เสวี่ยอิง” นางเอกของเรื่องที่เป็นลูกบุญธรรมของสกุลกู้ ที่เป็นคนที่รักใคร่ชอบพอกับพระเอกมานาน

แต่ก็มีแอบรักอีกคนอยู่บ้างเนื่องจากเพื่อแผนการโจมตีพวกแมนจู เนื้อเรื่องแม้จะมีบางซีนที่บีบอารมณ์สุดๆ ระหว่างพระเอกกับนางเอก ที่ต่างคนต่างอยู่คนละฝั่ง เหมือนเส้นขนาน บวกกับเท่าที่ผู้เขียนดูมันให้น้ำหนักทางแนวปฏิวัติ ต่อต้านสงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่น แถมมีบางมุมที่เสียดสี กับความเชื่อความนิยมของคนจีน คนแมนจู และคนญี่ปุ่นในยุคนั้นได้แบบแสบคันพอสมควร

the snow queen ราชินีหิมะ ซีรีส์ประวัติศาสตร์
The Snow Queen ราชินีหิมะ ซีรีส์จีน แนวประวัติศาสตร์

นางเอกของเรื่องสวยน่ารักมาก ที่รับบท “กู้ เสวี่ยอิง” โดย “เร่ออีจา” หรือ “Rayzha Alimjan” เป็นดาราจีนเชื้อสายคาซัก มีความน่ารักสดใสแต่แข็งกร้าวในขณะเดียวกันได้ลงตัว ส่วนพระเอกที่รับบทเป็น “กู้ เจ้าหลง” รับบทโดย “กัว ผิ่นเชา” พระเอกหนุ่มชาวไต้หวันที่รับบทเรื่องนี้ แล้วมีดาราหลายคนร่วมแสดงอย่างคับคั่ง แล้วในเรื่องก็มี “ต้าตง Fahrenheit” หรือ “หวัง ตงเฉิง” ร่วมเล่นด้วยในฝั่งนางเอก (ต้าตงเป็นเพื่อนกัว ผิ่นเชาในชีวิตจริงด้วยแหล่ะ และสนิทสนมไม่แพ้ปีเตอร์ โฮ ด้วย)

ตอนจบที่ผู้เขียนมองว่า…ควรเป็นเช่นนั้นเพราะมันไม่ได้แบบ Happy Ending อย่างที่ทุกคนเข้าใจ ภาพที่ติดตาผู้เขียนที่สุดก็คงไม่พ้นคนจีนฆ่ากันเอง เนื่องจากต่างเป็นเหยื่อทางการเมืองนี่แหล่ะ สิ่งเหล่านั้นเลยหล่อหลอมให้เกิดความขัดแย้งทางความคิด จนต้องกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวในที่สุด

the snow queen ราชินีหิมะ ซีรีส์ประวัติศาสตร์
The Snow Queen ราชินีหิมะ ซีรีส์จีน แนวประวัติศาสตร์

เมื่อความลับรั่ว และคนที่เป็นเหมือนหนอนบ่อนไส้ (พระเอกของเรื่องก็เช่นกัน) ที่ใครเป็นหนอนบ่อนไส้ต้องถูกกำจัด อีกซีนที่น่าจดจำคงไม่พ้นตอนจบตรงที่นางเอกต้องกลับทางเหนือไปอย่างเดียวดาย ไม่มีพระเอกอยู่เคียงข้างอีกแล้ว จึงทำให้เข้าใจทันทีว่าสงครามทำให้หลายชีวิตต้องพลัดพรากเสมอ

ติดตามอัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com

Categories
series

Ever Night (สยบฟ้าพิชิตปฐพี)ทั้ง 2 ภาค

ซีรีส์จีนแฟนตาซีที่ไม่ควรพลาดสำหรับเรื่อง Ever Night หรือชื่อไทยชื่อว่า “สยบฟ้าพิชิตปฐพี”

คอซีรีส์จีนแฟนตาซีไม่ควรพลาดสำหรับเรื่อง Ever Night หรือชื่อไทยชื่อว่า “สยบฟ้าพิชิตปฐพี” ที่ทำมาสองภาคแล้ว เป็นเรื่องแรกที่ดูแล้วรู้สึกอลังการงานสร้างสูสีกับดาบมังกรหยกอย่างมาก ซึ่งได้นำนิยายออนไลน์ที่มียอดผู้ติดตามมาสร้างเป็นซีรีส์ แล้วผลตอบรับกลับมารู้สึกว่ายอดเยี่ยมมากทั้งสองภาคเลยล่ะ

Ever Night สยบฟ้าพิชิตปฐพี

แต่มันก็มีความดูแล้วไปสุดบ้างไม่สุดบ้างในทั้งสองภาคของ Ever Night เลยทีเดียว เนื้อเรื่องจะเป็นตัวพระเอกที่ครอบครัวถูกฆ่า แล้วมีชีวิตรอดคนเดียว เป้าหมายในชีวิตของตนที่มีคือการแก้แค้นคนที่ทำให้ครอบครัวต้องตาย ส่วนเรื่องความสวยหล่อ ซีรีส์เรื่องนี้จัดว่าครบสูตรที่ทำมาสองภาคแล้ว เป็นเรื่องแรกที่ดูแล้วรู้สึกอลังการงานสร้างสูสีกับดาบมังกรหยกอย่างมาก

ซึ่งได้นำนิยายออนไลน์ที่มียอดผู้ติดตามมาสร้างเป็นซีรีส์ แล้วผลตอบรับกลับมารู้สึกว่ายอดเยี่ยมมากทั้งสองภาคเลยล่ะ แต่มันก็มีความดูแล้วไปสุดบ้างไม่สุดบ้างในทั้งสองภาคของ Ever Night เลยทีเดียว

เนื้อเรื่องจะเป็นตัวพระเอกที่ครอบครัวถูกฆ่า แล้วมีชีวิตรอดคนเดียว เป้าหมายในชีวิตของตนที่มีคือการแก้แค้นคนที่ทำให้ครอบครัวต้องตาย ส่วนเรื่องความสวยหล่อ ซีรีส์เรื่องนี้จัดว่าครบสูตร

Ever Night สยบฟ้าพิชิตปฐพี

น้ำหนักของเรื่องนี้ออกไปทางแฟนตาซีสูงมาก แถมสนุกมากด้วยเช่นกัน เรื่องในซีรีส์นี้มีจุดเริ่มต้นของเรื่องที่เกิดขึ้นในสมัยราชวงศ์ถัง เมื่อครอบครัวหนึ่งถูกสังหารอย่างไม่ยุติธรรมโดยนายพลผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง (เรียกว่าร้ายกาจเอาเรื่อง) มีเพียงเด็กหนุ่มชื่อหนิงเชวี่ย (พระเอกของเรื่อง) เท่านั้นที่รอด

อยู่มาวันหนึ่งเขาช่วยชีวิตเด็กหญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งชื่อว่า ซังซัง เพื่อให้เธอรอดพ้นจากความตาย ตั้งแต่วันนั้นทั้งสองคนก็แยกจากกันไม่ได้เหมือนปาท่องโก๋ แต่จะว่าไปซังซังน่ารักอย่างนี้กินเหล้าเก่งมาก แต่ไม่เมา (ถ้าชีวิตคนจริงๆ นี่ซ่าแค่ไหนก็จอด) มีสิ่งที่น่าสังเกตระหว่างตัวพระเอกทั้งสองภาคจะมีความต่างกันทั้งที่เป็น “หนิงเชวี่ย” ทั้งคู่

Ever Night สยบฟ้าพิชิตปฐพี

โดยภาคแรกเป็นของ “เฉิน เฟยยวี่” ภาคสองเป็นของ “หวัง เฮ่อตี้” จุดแตกต่างมันชัดตรงที่การถ่ายทอดของตัวละครนี่แหล่ะ ตัวภาคแรกจะให้แววตาที่มีความอาฆาตมาดร้ายมากกว่าภาคสอง เพราะในเรื่องจะเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นที่เสียครอบครัวไป

แต่ภาคสองจะให้ความขบถมากกว่าภาคแรก จะออกไปทางกวนๆ แต่ฉากหวานๆ เยอะมาก และออกไปทางกุ๊กกิ๊กสมัยปัจจุบันเสียอีก ส่วนนางเอกทั้งสองภาคสวยจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น “ซ่ง อี้เหริน” นางเอกผู้หน้าเด็กตลอดกาลกับ “หยาง เชาเยว่” แห่งวง Rocket Girl 101 อันนี้ยอมรับเลยทีเดียวว่าสวยมาก แต่ไม่น่าเปลี่ยนตัวละครบ่อยเลย แต่ก็เข้าใจว่าเป็นเหตุผลที่ทีมงานมองว่าสมควรแล้วล่ะ แล้วพระเอกภาคแรกเรียนต่อด้วย

Ever Night สยบฟ้าพิชิตปฐพี

ส่วนคนที่ไม่ต้องเด่นแต่ Air Time เยอะที่สุดคงไม่พ้นศิษย์พี่รอง “เฉิง จุนโม่” ที่รับบทโดย “กัว ผิ่นเชา” พระเอกฝั่งไต้หวันที่มาในมาดดุดัน แต่มีความพ่อพระในที ซึ่งเป็นหนึ่งใน 12 ศิษย์แห่งสำนักที่อยู่ในกลุ่ม “ผู้รู้ชะตา” ซึ่งเป็นขั้นสูงมากในเรื่อง แหม…ซีนคุณเด่นทุกซีนจริงๆ การถ่ายทำจะถ่ายในแถบซินเจียง และกุ้ยโจว เพราะเมืองเหล่านี้เหมาะกับซีนแฟนตาซีค่อนข้างมาก แล้วนักแสดงสามารถใส่ได้เต็มที่ไม่มีกั๊ก ซีรีส์เรื่องนี้เหมาะมากที่จะดูได้ทุกเพศทุกวัยจริงๆ

Cr. We TV Thailand

ติดตามอัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์