Categories
series

รีวิวซีรีส์ The Glory Part 1

The Glory เป็นผลงานซีรีส์แนวระทึกขวัญจากเกาหลี เรื่องล่าสุดจาก Netflix ที่ยังคงเป็นอีกหนึ่งงานที่หยิบประเด็นยอดนิยมอย่างการบูลลี่ในโรงเรียนมาถ่ายทอด ผ่านวิสัยทัศน์ของผู้กำกับอย่าง กิลโฮอัน (Stranger) และมือเขียนบทอย่าง คิมอึนซุก (Descendants of the Sun) พร้อมได้นักแสดงมากฝีมือของเกาหลีอย่าง ซงเฮเคียว (Descendants of the Sun) มารับบทนำ

เรื่องราวของ The Glory จะว่าด้วย มุนดงอึน (ซงเฮเคียว) หญิงสาวที่ถูกเพื่อนในชั้นเรื่องรุมรังแกอย่างโหดร้าย ทารุณ มาตลอดช่วงชีวิต ม.ปลาย จนเธอเกือบที่จะจัดสินใจคิดสั้น แต่ด้วยความคั่งแค้นที่สะสม ทำให้ ดงอึน เลือกที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป และใช้เวลากว่า 10 ปี ในการวางแผนล้างแค้นอดีตเพื่อนร่วมชั้นที่เคยทำร้ายเธอ ด้วยวิธีที่แยบยล และเลือดเย็น

แม้ว่าพลอต และโครงเรื่องของซีรีส์จะชวนให้นึกถึงหนัง หรือละครแนวล้างแค้นอย่าง “ล่า” ของไทย แต่ทว่า The Glory กลับแตกต่างจากเรื่องดังกล่าว ด้วยการที่เป็นซีรีส์แนวล้างแค้นที่มีมากกว่าการเข่นฆ่า หรือความโหดร้ายเลือดเย็น โดยในซีรีส์ใช้วิธีนำเสนอการล้างแค้นในรูปแบบของการเดินเกมหมากล้อม ที่ตัวละคร ดงอึน จะทำหน้าที่ค่อย ๆ ต้อนให้เหล่าเหยื่อการล้างแค้นของเธอจนมุม ด้วยการวางแผนที่แนบเนียน และเต็มไปด้วยชั้นเชิง

ใครที่หวังจะดูซีรีส์ล้างแค้นเอามันส์ เอาความสะใจแบบเน้น ๆ อาจผิดหวังเล็กน้อย เพราะในตลอด 8 ตอนของ Part 1 ซีรีส์เลือกที่จะดำเนินเรื่องผ่านทั้งเส้นเรื่องของดงอึน และเหล่าตัวละครวายร้ายของเรื่อง ทำให้ซีรีส์ไม่ได้โฟกัสที่การล้างแต้นเพียงอย่างเดียว แต่ยังพาคนดูไปสำรวจชีวิตของเหล่าตัวละครในเรื่อง ที่แต่ละตัวละครต่างเผชิญชะตากรรมที่แตกต่างกันไป

การเล่าเรื่องของซีรีส์ดำเนินเรื่องออกมาได้ชวนติดตาม ตัวซีรีส์ยังเป็นอีกเรื่องที่หยิบประเด็นยอดนิยมของเกาหลีอย่างการบูลลี่ในโรงเรียน ซึ่งในเรื่องนี้ถ่ายทอดความรุนแรงออกมาได้อย่างถึงอารมณ์ ซีรีส์เต็มไปด้วยฉากรุนแรงที่ชวนสะเทือนใจ ด้วยเหตุนี้ทำให้ซีรีส์สามารถสร้างอารมณ์ร่วมระหว่างคนดู กับตัวละคร ดงอึนได้อย่างดีเยี่ยม รวมถึงทำให้คนดูอยากติดตามต่อไปว่าการล้างแค้นของดงอึน จะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน

ด้านการแสดง ซงเฮเคียว สามารถถ่ายทอดบทบาทของหญิงสาวที่มีบาดแผลได้อย่างดีเยี่ยม เป็นบทที่เธอต้องสลัดลุ้คสาวหวาน สู่หญิงสาวผู้เย็นชาที่พูดน้อยแต่ว่าทุกบทสนทนา และแผนการของเธอกลับเต็มไปด้วยทีเด็ดที่สามารถตรึงคนดูได้อยู่หมัด

โดยรวม The Glory เป็นอีกหนึ่งซีรีส์เกาหลีแนวระทึกขวัญ ที่ทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม และมีความแปลกใหม่กว่าหนังหรือซีรีส์แนวล้างแค้นทั้วไป ด้วยแผนการ และบทสนทนาที่ถ่ายทอดได้อย่างมีชั้นเชิง เต็มไปด้วยการหักมุม และการสับขาหลอกที่เหนือชั้น พร้อมปูทางสู่บทสรุปใน Part 2 ได้อย่างน่าติดตาม

สามารถรับชมซีรีส์ The Glory Part 1 ได้แล้ววันนี้ที่ Netflix

Cr.ภาพ: Netflix

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

รีวิวซีรีส์ Connect ซีรีส์สืบสวน

ผลงานซีรีส์เกาหลีแนวสืบสวน ผสมแฟนตาซี ที่เป็นงาน Original ของ Disney+ ที่รับหน้าที่กำกับโดยมือสร้างหนังสายโหดสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง ทาเคชิ มิอิเกะ (Ichi the Killer) พร้อมได้ทีมนักแสดงเกาหลีมากฝีมือ นำทีมโดย จุงแฮอิน (ซีรีส์ Start-Up), โกคยุงเพียว (ซีรีส์ 1988) และ คิมแฮจุน (ซีรีส์ Kingdom)

Connect จะว่าด้วยเรื่องราวของ ฮาดองซู (จุงแฮอิน) ชายหนุ่มที่ต้องใช้ชีวิตแปลกแยกจากสังคม เนื่องจากเขานั้นคือ ‘คอนเนค’ หรือบุคคลที่มีความสามารถพิเศษที่ร่างกายจะเป็นอมตะ สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ ไม่ว่าจะบาดเจ็บรุนแรงแค่ไหน จนกระทั่งวันหนึ่ง ดองซู ได้ถูกกลุ่มนักค้าอวัยวะจับตัวไป แต่ด้วยความสามารถพิเศษของเขาทำให้ ดองซูรอดชีวิตมาได้ แต่ดวงตาข้างหนึ่งของเขาได้ถูกปลูกถ่ายไปให้กับฆาตกรต่อเนื่อง ทำให้ ดองซู มีความสามารถในการมองเห็นเชื่อมต่อดวงตากับฆาตกร ดองซูเลยต้องทำทุกวิถีทางเพื่อตามล่าฆาตกรผู้นี้ และทวงคืนดวงตาของเขากลับมาอีกครั้ง

นับว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์เกาหลี ที่ยังสามารถหยิบความเป็นแนวสืบสวนสอบสวน อาชญากรรม มานำเสนอได้อย่างน่าสนใจ พร้อมทั้งในเรื่องนี้ยังได้ใส่ความเป็นแฟนตาซีเข้าไปเป็นลูกเล่นของซีรีส์ ที่ทำให้เนื้อหาเต็มไปด้วยลูกเล่นที่ชวนติดตาม และมีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร ซีรีส์มีการเล่นกับฉากโหด ๆ อย่างการผ่าอวัยวะ ฉากการฆ่าที่สยดสยอง โดดเด่นกว่าเรื่องอื่น ๆ โดยเฉพาะ CGI ฉากการเชื่อมร่างกายของ Connect ที่มีความน่าขนลุกขนพอง รวมถึงศพในเรื่องที่มีการออกแบบมาให้ทั้งสวยงาม และน่าสยดสยองในเวลาเดียวกัน ชวนให้นึกถึงการดีไซน์ศพในซีรีส์ Hannibal ไม่น้อย

โดยผู้ชมจะได้พบกับการตามล่า การประชันไหวพริบ ระหว่างชายที่เป็นอมตะ และฆาตกรต่อเนื่อง ที่นอกจากจะเต็มไปด้วยเหตุการณ์ชวนลุ้น ชวนให้เอาใจช่วยแล้ว ยังจะได้สนุกไปกับการสืบสวนสอบสวน  การตามล่าหาความจริงที่เข้มข้นตลอดทั้ง 6 ตอนของซีรีส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างคาแรคเตอร์ของฆาตกรต่อเนื่องในเรื่องนี้ ซึ่งมีคาแรคเตอร์ที่โดดเด่น ทั้งความโหดร้าย เลือดเย็น และมีความฉลาด ไหวพริบที่เหนือกว่าคนทั่วไป ที่ทำให้คนดูรู้สึกยำเกรง และหวาดกลัวตัวละครนี้ได้ไม่น้อย

นอกจากการสืบสวน ระทึกขวัญที่ทำออกมาได้สนุกแล้ว อีกหนึ่งจุดขายของ Connect คือการหยิบประเด็นเรื่องความแปลกแยกของคน มานำเสนอได้ค่อนข้างดี โดยซีรีส์เลือกหยิบตัวละคร ฮาดองซู เป็นเสมือนคนที่ถูกสังคมมองว่าเป็นตัวประหลาด จนถูกสังคมตัดสิน แบบไม่ยุติธรรม จนทำให้ต้องกลายเป็นคนที่โดดเดี่ยว ซึ่งประเด็นนี้ทำให้พาร์ทดราม่าของหนังทำออกมาได้ทรงพลัง และสร้างอารมณ์ร่วมกับคนดู และตัวฮาดองซูได้เป็นอย่างดี

ในส่วนของข้อเสียของซีรีส์ Connect คือการที่ซีรีส์เล่าเรื่องแบบกระชับจนเกินไป ทำให้เนื้อหาส่วนใหญ่ของซีรีส์เลือกโฟกัสไปที่การต่อสู้ของ ฮาดองซู และตัวฆาตกร จนลืมใส่ใจพาร์ทที่ควรจะเป็นการสืบสวนสอบสวน จนทำให้ความสมจริงในด้านนี้ของซีรีส์ดรอปลงอย่างเห็นได้ชัด และทำให้บทหนังบางส่วนดูไม่สมเหตุสมผลไปอย่างน่าเสียดาย

โดยรวมซีรีส์ Connect ก็นับว่าเป็นอีกซีรีส์สืบสวนจากเกาหลี ที่มีเนื้อหาเข้มข้น ที่น่าจะถูกใจคอหนัง หรือซีรีส์แนวนี้ไม่น้อย แม้การสืบสวนจะไม่ได้สมจริง หรือดีงามเหมือนเรื่องอื่น ๆ แต่ด้วยรูปแบบการเล่าเรื่องที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้สามารถมอบความบันเทิงแบบอัดแน่นตลอดทั้ง 6 ตอนได้อย่างดีเยี่ยม

สามารถรับชมซีรีส์ Connect ได้แล้ววันนี้ที่ Disney+ Hotstar

Cr.ภาพ: HanCinema

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
anime

รีวิวซีรีส์ Lookism อนิเมะจากเกาหลี

ผลงานอนิเมะ Original Netflix ที่ดัดแปลงมาจาก webtoon ชื่อเดียวกัน โดยเวอร์ชั่นซีรีส์ถูกสร้างสรรค์โดย คังเฮย์ชุล ที่เคยมีผลงานอนิเมะอย่าง The Witcher: Nightmare Offerman the Wolf โดยเรื่องนี้เป็นงานแรกที่เขารับหน้าที่กำกับอย่างเต็มตัว

Lookism จะว่าด้วยเรื่องราวของ พัคฮยองซอก เด็กนักเรียนร่างอ้วน ที่มักถูกเพื่อนร่วมชั้นรังแก และไม่เป็นที่ยอมรับในสังคมเพียงเพราะเรื่องหน้าตา จนกระทั่งเขาได้ตัดสินใจย้ายไปยังโรงเรียนใหม่เพื่อหวังเจอสังคมใหม่ ๆ หลังจากนั้นไม่นาน ฮยองซอก ก็ได้รับพรวิเศษ

ที่ทำให้เขาได้มีร่างเพิ่มขึ้นมาเป็นร่างหนุ่มหล่อ ที่เขาสามารถสลับร่างผ่านการนอนหลับ หลังจากนั้น ฮยองซอกก็ได้ใช้ร่างหนุ่มหล่อในการเข้าสังคม หาเพื่อนฝูง และมันก็ทำให้เขาได้พบกับความจริงของสังคมที่ตัดสินคนเพียงเพราะรูปร่าง หน้าตา

ตัวเนื้อหาของ Lookism จะมาพร้อมการดำเนินเรื่องแบบอนิเมะไฮสคูล ผสมความเป็นแก๊งสเตอร์ และมีความแฟนตาซีเป็นส่วนเสริมให้การเล่าเรื่องน่าสนใจ เนื้อเรื่องส่วนใหญ่ของซีรีส์จะเป็นการพาคนดูไปสำรวจสังคมการบูลลี่ในโรงเรียน ตั้งแต่การทำร้ายร่างกาย การไม่เป็นที่ยอมรับในสังคม ซึ่งเมื่ออยู่ในรูปแบบภาพการ์ตูน มันได้ช่วยให้ความรุนแรงต่าง ๆ ดูซอฟต์ลง

ตัวซีรีส์สามารถสร้างความรู้สึกร่วมระหว่างคนดู กับตัวละครฮยองซอก ตั้งแต่นาทีแรกได้เป็นอย่างดี ผ่านการนำเสนออุปสรรคต่าง ๆ ในชีวิตที่ตัวละครเผชิญ ในแต่ละตอนนอกจากจะพูดถึงเรื่องประเด็นการบูลลี่แล้ว ในเรื่องยังสอดแทรกประเด็นชนขั้น ค่านิยมต่าง ๆ ที่ถูกวิพากษ์ในเนื้อหาแต่ละตอนได้อย่างดีเยี่ยมในแบบที่ไม่ดูเป็นการพยายามสั่งสอนคนดูมากเกินไป แต่ภาพและเนื้อหาของอนิเมะจะพาคนดูได้รู้สึกตกตระกอนทางความคิดตามเนื้อเรื่อง

งานภาพของซีรีส์ค่อนข้างทำออกมาได้ดี ไม่ว่าจะเป็นลายเส้นการออกแบบหน้าตาของตัวละคร โดยเฉพาะตัวละคร ฮยองซอก เวอร์ชั่นหล่อ ที่ถูกออกแบบหน้าตาให้ดูมีเสน่ห์ เป็นประกายในแทบทุกฉากที่ปรากฎตัว รวมถึงการสร้างสรรค์ฉากแอ็คชั่น ที่ทำได้ดุเดือด เมามันส์ กว่าที่คาดไว้

เรียกได้ว่า Lookism เป็นอนิเมะที่มีดีมากกว่าแค่ความบันเทิง ที่ดูเอาสนุกเท่านั้น แต่ในเนื้อหายังสามารถหยิบประเด็นที่คุ้นเคยกันดีของสังคมเกาหลี รวมถึงหลาย ๆ ที่อย่างเรื่องการบูลลี่ การเหยียดรูปร่าง หน้าตา มาถ่ายทอดได้ตรงไปตรงมา หลายฉากหนังสามารถมอบแง่คิดให้กับคนดูได้อย่างชาญฉลาด นับว่าเป็นอีกอนิเมะน้ำดีในปีนี้ ที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

สามารถรับชมอนิเมะ Lookism ได้แล้วันนี้ที่ Netflix

Cr.ภาพ: Netflix

ลิงก์ตัวอย่าง: https://youtu.be/UheuSEJuOVI

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

“Love All Play (2022)”

เรื่องราวระหว่างลูกขนไก่กับชีวิตนักกีฬา

                ซีรีส์เกี่ยวกับกีฬาที่น่าสนใจ และกำลังจะเปิดตัวในปี 2022 มีชื่อว่า “Love All Play” เป็นซีรีส์ที่ได้แรงบันดาลใจจากการนำความชอบและกีฬา โดยใช้ “แบดมินตัน” เป็นตัวเชื่อมความรัก ความหลงใหล และนำไปสู่การแข่งขันในฐานะการแข่งขันประเภทคู่ผสม

รวมถึงสะท้อนให้เห็นถึงการกีฬา ความเปลี่ยนแปลง และการมองกีฬาที่เป็นทั้งความฝัน ทั้งธุรกิจอยู่ในตัวของเกาหลีใต้ได้อย่างลงตัว โดยเริ่มออกอากาศตอนแรกวันที่ 27 เมษายน  ผ่านช่อง KBS ของเกาหลีใต้ และยังเล่าเรื่องในช่วงที่เกษียณตัวเองจากการเป็นนักกีฬาด้วย

พล็อตเรื่องนับว่าน่าสนใจ แต่ก็มีการออกอากาศด้วยบรรยายภาษาไทยผ่าน Disney Plus Hotstar สามารถดูเรื่องนี้ได้ถูกลิขสิทธิ์ เนื่อเรื่องที่น่าสนใจกำลังเล่าเรื่องราวของความโรแมนติก ผ่านการเล่นกีฬาที่แสดงถึงความหลงใหล และความรักในกีฬาแบดมินตันของตัวเอกชายและหญิง ซึ่งเป็นกลุ่มผสมที่มีผู้เล่นจากทีมธุรกิจแบดมินตัน โดยพระเอกของเรื่อง “ปาร์คแทจุน”

ผู้ซึ่งหลุดพ้นจากโลกของแบดมินตัน จากการเกษียณตัวเองออกจากการเป็นนักกีฬาอย่างเป็นทางการ เพราะธุรกิจอุปกรณ์แบดมินตันของพ่อแม่ แม้ว่าเขาจะเริ่มมองว่ากีฬาชนิดนี้เป็นผลงาน แต่ความหลงใหลในกีฬาแบดมินตันของเขากลับจุดประกายขึ้นอีกครั้งเนื่องจากความปรารถนาที่จะสร้างความประทับใจให้ผู้หญิงคนหนึ่ง

“ปาร์คแทยัง” เป็นอดีตนักกีฬาที่มีฝีมือระดับโอลิมปิก ซึ่งเธอมีทักษะที่สูงมากพอสมควร แต่มีเหตุต้องออกจากวงการแบดมินตันด้วยเหตุผลที่รุนแรง เนื่องจากเรื่องอื้อฉาวการติดสินบน จนถูกตัดสิทธิ์การแข่งขันเป็นเวลา 3 ปี ทำให้เธอกลับมาร่วมทีมของพระเอกอีกครั้งในรอบ 3 ปี เพื่อทำความฝันและสานโอกาสการเป็นนักกีฬาของตนเองอีกครั้ง

แต่การมาในทีมของพระเอกยังเผยให้เห็นนักกีฬาบางคนเกษียณตัวเองทั้งเกิดจากอุบัติเหตุบ้าง เหตุจำเป็นบางอย่างบ้าง แต่ก็ทำให้ทั้งปาร์คแทยัง ได้เจอกับปาร์คแทจุนเพื่อที่จะแข่งขันในฐานะนักกีฬาประเภทคู่ผสม

ซีรีส์เหล่านี้มีอีกชื่อหนึ่งชื่อว่า “Going to You at a Speed of 493 km” สนุกมากและมีความท้าทายต่อการแสดงมากพอสมควร แต่ถ่ายทอดออกมาได้มีความเป็นมืออาชีพเหมือนนักกีฬาจริงๆ

                หากใครชอบความโรแมนติกแต่มีความสมจริง เรื่อง “Love All Play” หรือ “Going to You at a Speed of 493 km” นักแสดงทำการบ้านดีมาก รวมถึงทีมงานจัดว่าจัดหนักกับความหวาน ความโรแมนติกมากเลยทีเดียว โดยผู้กำกับโดย “จูอุง” ซึ่งเป็นผู้กำกับเคยมีผลงานก่อนหน้าจากการกำกับซีรีส์เรื่อง Justice โดยถ่ายทอดออกมา ไม่สมจริงไม่ใช่จูอุงจริงๆ หากใครสนใจอย่าลืมกลับไปดูเรื่องนี้กันนะคะ

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

รีวิวซีรีส์ Pachinko

รีวิวซีรีส์ Pachinko: ซีรีส์เกาหลีสะท้อนประวัติศาสตร์ที่มาพร้อมโปรดักชั่นระดับฮอลีวูด สามารถสะท้อนความลำบากของคนเกาหลีในช่วงภายใต้ญี่ปุ่นออกมาได้อย่างถึงอารมณ์ เป็น 8 Ep. ที่มีความสนุกครบทุกรสชาติ

ผลงานซีรีส์เกาหลีเรื่องล่าสุดจาก Apple TV+ ที่ครั้งนี้เป็นการร่วมทุนสร้างของ เกาหลี, ญี่ปุ่น และอเมริกา ตัวซีรีส์เป็นงานดัดแปลงมาจากนิยายของ อีมินจิน โดยได้ ซู ฮิวจ์(ซีรีส์ The Killing) มารับหน้าที่สร้างสรรค์ และได้ จัสติน ชอน (Blue Bayou) และ โคโกนาดะ (After Yang) มารับหน้าที่กำกับ

Pachinko จะเล่าเรื่องราวสองช่วงเวลา ของคนสองรุ่น โดยเส้นเรื่องแรกจะพูดถึงเหตุการณ์ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ที่เป็นช่วงที่เกาหลีตกอยู่ในอำนาจของญี่ปุ่น ทำให้คนเกาหลีต้องเผชิญกับความลำบาก และโดนดูถูกศักดิ์ศรี ซุนจา (คิมมินฮา) สาวน้อยครอบครัวชาวประมงที่ได้ไปแอบมีสัมพันธ์กับ ฮันซู (ลีมินโฮ) มหาเศรษฐีชาวเกาหลี ที่ไปประสบความสำเร็จในญี่ปุ่น จนกระทั่งเธอตั้งท้อง และทำให้เธอต้องมาหาชีวิตที่มั่นคงในญี่ปุ่น

เส้นเรื่องที่สองจะพูดถึงช่วงปี 1989 ว่าด้วย โซโลมอน (จินฮา) หลานชายของ ซุนจาในวัยชรา (ยอนยูจุน) ที่กำลังประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และอาศัยในญี่ปุ่น แต่ทว่าหนึ่งในโปรเจกต์สำคัญของเขาคือการติดต่อซื้อที่จากบ้านคนเกาหลีให้นายทุน โซโลมิน เลยต้องเลือกที่จะเคารพคนสัญชาติเดียวกัน หรือทำตามคำสั่งนายทุนที่เป็นคนอเมริกา

แม้ว่าด้านพลอตของซีรีส์จะมีความคล้ายกับละครไปบ้าง ที่มักจะพูดเรื่องประเด็นชายเป็นใหญ่ ชนชั้นทางสังคม และมีพื้นหลังคือเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ แต่กระนั้น Pachinko กลับสามารถนำเสนอพลอตเรื่องแนวเดิม ๆ นี้ให้ออกมาแตกต่าง และยิ่งใหญ่กว่าที่ผ่านมา ด้วยความที่ซีรีส์เลือกจะเล่าแบบซีรีส์ฮอลีวูด ทั้งการออกแบบการสร้าง การตัดต่อ และบท

ตัวซีรีส์เลือกใช้วิธีตัดเหตุการณ์อดีต และปัจจุบันไปมาสลับกัน โดยทุกฉากที่สลับล้วนแต่มีความเกี่ยวเนื่องกันในด้านนัยยะ ส่วนด้านเนื้อหาด้วยความที่เป็นงานสร้างโดยฮอลีวูด นี่จึงไม่ใช่ซีรีส์โรแมนติกจ๋า เหมือนอย่างที่แฟนซีรีส์เกาหลีหวัง แต่ซีรีส์จะมาในโทนดราม่าหนัก ๆ มีการพูดถึงการดิ้นรนต่อสู้ของคนเกาหลีชั้นล่าง ที่ต้องถูกกดทับโดยอำนาจของญี่ปุ่น และพูดถึงประเด็นของครอบครัว

ในแง่ของด้านประวัติศาสตร์ ผู้สร้างสามารถสะท้อนความเจ็บปวด ของชาวเกาหลีในช่วงดังกล่าวออกมาได้อย่างสมจริง แม้ว่าซีรีส์จะไม่ได้เน้นถ่ายทอดความโหดร้ายทารุณ แต่ซีรีส์ได้สะท้อนภาพการเหยียดเชื้อชาติ การปกครองที่ไม่ยุติธรรม ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการเลือกนำเสนอเหตุการณ์ทุกอย่างผ่านสายตาของ ซุนจา ที่ได้เป็นเสมือนตัวแทนของคนเกาหลีที่จากบ้านมาเพื่อหาความมั่นคงในชีวิต

การแสดงของทีมนักแสดงนำเรียกได้ว่าโดดเด่นน่าจดจำแทบทุกคน โดยเฉพาะ คิมมินฮา ที่ประเดิมงานแสดงซีรีส์เป็นเรื่องแรก แต่ทว่าบทบาทของเธอกลับสามารถแบกเกินครึ่งของซีรีส์ไว้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ เธอสามารถแสดงความน่ารักสดใสของสาววัยรุ่น และถ่ายทอดบทดราม่าออกมาได้ทรงพลัง จนทำให้ตลอด 8 Ep. ของซีรีส์คนดูจะอินไปกับตัวละครนี้ไม่มากก็น้อย ในขณะที่นักแสดงคนอื่น ๆ ต่างก็มอบการแสดงที่เติมเต็มความสมบูรณ์ให้ซีรีส์เรื่องนี้ไม่แพ้กัน

โดยรวม Pachinko นับว่าเป็นอีกซีรีส์เกาหลีรสชาติแปลกใหม่ ที่ทั้งงานโปรดักชั่น และการเล่าเรื่องทำออกมาได้ยอดเยี่ยม ซีรีส์สามารถสะท้อนประวัติศาสตร์ผ่านมุมมอง และความรู้สึกของตัวละครได้อย่างชวนติดตาม และครบรสที่สุดเรื่องหนึ่ง

สามารถรับชมซีรีส์ Pachinko ได้แล้ววันนี้ที่ Apple TV+

Cr.ภาพ: Rotten Tomatoes, IMDB

ลิงก์ตัวอย่าง: https://youtu.be/O1r5XXJOYNA

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

Rookie Cops (2022)

Rookie Cops (2022) ซีรีส์เกาหลีกับหลักสูตรการเรียนตำรวจ

Rookie Cops เป็นอีกซีรีส์ที่ออกอากาศผ่านการสตรีมใน Disney Hotstar ซึ่งเนื้อหามีความแปลกใหม่ให้มีความทันสมัย บนความหัวโบราณในระบบเรียนตำรวจมากขึ้น และทำให้เข้าใจถึงการได้รับแรงบันดาลใจในการต่อยอดจากบุคคลต้นแบบในชีวิต แต่ก็ต้องเจอบททดสอบจากการทำตามความฝันเข้ามา และยังเหลือความ Coming Of Age ได้เป็นอย่างดี และเป็นการกลับคืนหน้าจออีกครั้งของ “คังแดเนียล” เป็นอีกซีรีส์ที่น่าติดตามมากเลยทีเดียว

                เรื่องราวของ Rookie Cops มีความน่าสนใจอย่างมาก โดยโครงเรื่องจะเกี่ยวกับน้องใหม่กิตติมศักดิ์ “วีซึงฮยอน” เริ่มต้นจากการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยตำรวจแห่งชาติเกาหลี เขาชื่นชมพ่อของเขาซึ่งเป็นผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจคยองกีดงบู หรือสำนักงานตำรวจภาคตะวันออก ซึ่งอยู่จังหวัดคยองกี เขาเริ่มเดินตามรอยเท้าพ่อของเขา แต่เจออุปสรรคเมื่อเขาเข้าไปพัวพันกับผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ “โกอึนกัง”

Rookie Cops (2022) ซีรีส์เกาหลีกับหลักสูตรการเรียนตำรวจ

เรื่องราวจะหมุนรอบคนหนุ่มสาวที่เกิดในยุค 2000 ที่เดินผ่านชีวิตในวิทยาลัยด้วยวิธีที่ติดความเป็นอนุรักษ์นิยม กับการเรียนหลักสูตรตำรวจในมหาวิทยาลัยที่อนุรักษ์นิยม เคร่งครัดที่สุดแห่งหนึ่งในเกาหลี เยาวชนของเกาหลีและวิธีที่พวกเขาเติบโตควบคู่ไปกับความฝัน ความรัก และความยากลำบากในมหาวิทยาลัยตำรวจ การต่อสู้ดิ้นรนเพื่อให้โดดเด่นภายในวิทยาเขตนักศึกษา 2,000 แห่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในวิทยาเขตที่อนุรักษ์นิยมและมีความพิเศษเฉพาะตัวที่สุดในประเทศจะได้รับการบอกเล่าผ่านซีรีส์เรื่องนี้

Rookie Cops (2022) ซีรีส์เกาหลีกับหลักสูตรการเรียนตำรวจ

   บางครั้งมันก็เจอเรื่องอลหม่านในรั้วมหาวิทยาลัยได้อย่างขบขันพอสมควร ทั้งตัวพระเอกที่ต้องแบกความหวังของตนเองที่จะให้เป็นนักศึกษาวิชาตำรวจหัวกะทิ ทั้งที่เขาเองก็เรียนเก่งที่สุดของรุ่น ส่วนนางเอกก็เป็นคนใจสู้ ไม่เจ้าน้ำตาหรือบอบบางเลย แต่เธอมีความฉลาด รู้จักรับโอกาสและไขว่คว้าจนได้มาเป็นนักศึกษาวิชาตำรวจ แต่เราก็ยังได้เห็นเรื่องราวของการใช้ชีวิตของนักศึกษาวิชาตำรวจ ซึ่งอาจจะไม่ต่างจากนายร้อยตำรวจในบ้านเรามากนัก เพียงแต่ทุกคนมีเสรีในการเป็นอาชีพตำรวจ ไม่ว่าจะเพศอะไรก็ตาม ซึ่งซีรีส์นี้ทำออกมาได้ดีเยี่ยม

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Rookie Cops (2022) ซีรีส์เกาหลีกับหลักสูตรการเรียนตำรวจ
Categories
series

Ghost Doctor (2022)

Ghost Doctor (2022) เมื่อสามีแห่งชาติอย่าง “เรน” ต้องรับบทผีคุณหมอ

คุณแน่ใจหรือเปล่าว่าหมอที่ผ่าตัดให้คุณ จะเป็นหมอคนนั้นจริงๆ ดีไม่ดีหมอคนนั้นจะกลายเป็นผีที่มาสิงเพื่อช่วยชีวิตคุณได้อย่างไม่น่าเชื่อ กับซีรีส์ที่รับชมทาง Viv กับ Ghost Doctor ซึ่งคนที่เป็นผีคุณหมอที่คอยเข้าสิงใครอย่าง “เรน” ที่รับบทเป็น “ชายองมิน”

พร้อมกับทำทุกอย่างเพื่อหาสาเหตุว่าทำไมเขาต้องกลายเป็นผี พร้อมกับสอดแทรกเรื่องราวทางการแพทย์อีกมากมาย ทำให้เนื้อหามีความสนุกสนาน เข้มข้นบนความฮามากขึ้น ซึ่งใครชอบดูซีรีส์เกาหลีจะต้องไม่พลาดที่จะดู Ghost Doctor ซึ่งเป็นซีรีส์ฉีกกฎทางการแพทย์ไปไม่เหมือนเดิมอีกเลย

Ghost Doctor ซึ่งคนที่เป็นผีคุณหมอที่คอยเข้าสิง

                พอรู้ว่า Ghost Doctor เปิดตัว การได้ “เรน” เป็นนักแสดงหลักของเรื่อง ทำให้ใครๆ ต่างจับตามองอย่างมากด้วยดีกรีสามีแห่งชาติ แม้ว่าจะเป็นคุณพ่อแล้วก็ตาม แต่ออร่าสามียังคงเด่นชัดจริงๆ แถมรับบทนี้ เล่นได้กวนบาทาอย่างมาก หากใครได้ดูจะรู้สึกว่า Ghost Doctor สนุกอย่างมากเลยทีเดียว เรื่องมีอยู่ว่า “ชายองมิน” เป็นหมออัจฉริยะที่มีทักษะการผ่าตัดที่ยอดเยี่ยม แต่เขากลับหยิ่งผยองและเห็นแก่ตัว อยู่มาวันหนึ่ง เขาประสบอุบัติเหตุและด้วยเหตุนี้ วิญญาณของเขาจึงเข้าสิงร่างของแพทย์อีกคน “โกซองทัก” ที่รับบทโดย “คิมบอม”

Ghost Doctor ซึ่งคนที่เป็นผีคุณหมอที่คอยเข้าสิง

แพทย์คนนี้กลับนิสัยตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง มีบุคลิกที่ตรงกันข้ามและมีความสามารถทางการแพทย์ ในขณะที่ยองมินเป็นคนจองหองและเลือดเย็น ซึ่งสนใจแต่อาชีพของเขาเท่านั้น และไม่สนใจเรื่องส่วนตัวของผู้ป่วยเลย ซองทักเป็นแพทย์ประจำบ้านที่โชคดี เพียบพร้อมและรวยชนิดที่เติบโตมาบนกองเงินกองทอง สมความเป็นลูกหล่อพ่อรวยที่สุดที่มีปู่เป็นผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลมยองชิน และแม่เป็นประธานของโรงพยาบาล เขาเองก็ไม่อยากเป็นหมอเก่งๆ โดนผีเข้าสิง โดยเฉพาะผีอย่างยองมิน แต่การรักษาทางการแพทย์ก็อลหม่านไปพร้อมกับคนและผีอีกด้วย บางคนโดนเข้าสิงแล้วไปผ่าตัดคนไข้โดยไม่รู้ตัวว่าโดนผีหมอชาเข้าก็มี

Ghost Doctor ซึ่งคนที่เป็นผีคุณหมอที่คอยเข้าสิง

                อาจจะไม่สามารถรีวิวได้มากเพราะ Ghost Doctor เป็นซีรีส์มาใหม่แซงทางโค้งมากอีกเรื่อง ถ้ามีหมอชาในเรื่องจริงจะเป็นอะไรที่อึ้งมาก เพราะเรื่องราวของ Ghost Doctor มีความใหม่และมีความแปลก ทำให้มีมิติในการแสดงมาก พร้อมกับซีจีสวยๆ เพิ่มความโดดเด่น ดูได้ไม่มีเบื่อ และมีความสนุกสนานของเนื้อหา ครบเครื่องทั้งขบขัน ดราม่า ระทึกขวัญ และโรแมนติกไปในตัว Ghost Doctor เป็นซีรีส์ที่ควรดูรับศักราชใหม่มากๆ เลยทีเดียวของปี 2022 ด้วย

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

Our Beloved Summer (2021)

Our Beloved Summer (2021) คุณเชื่อรักในวัยเรียนไหม

หลายคนคงประทับใจซีรีส์เรื่อง  Our Beloved Summer ใน Netflix มาบ้างแล้ว มันทำให้กลับมาตั้งคำถามว่า  คุณเชื่อรักในวัยเรียนไหม เพราะเนื้อหาของมันมีความอมยิ้ม ครบรสชาติ และเสียน้ำตาไปพร้อมๆ กัน ซึ่งเรื่องราวนั้นเป็นเรื่องราวที่พระเอกมีนิสัยเด็ก หน้าตาดี แต่นางเอกมีความเป็นคนที่โตกว่าวัย ทำให้ความสัมพันธ์ในฐานะคนรักเก่าในวัยเรียน ซึ่งไม่สามารถกลับมาเจอกันได้ แต่รักในวัยเรียนที่อยู่ในใจมาตลอดทำให้กลับมาเจอกันอีก 10 ปี แล้วจะเป็นยังไงกับพวกเขา แน่นอนว่าเรื่อง  Our Beloved Summer ตอนจบก็อิ่มเอมใจลึกๆ มากเลยทีเดียว

Our-Beloved-Summer-(2021)

                เรื่อง  Our Beloved Summer เป็นซีรีส์ที่ให้ภาพสวยมาก การถ่ายทอดเนื้อหามีความสนุก มีความพ่อแง่แม่งอนอยู่บ้าง แต่ก็เรียกน้ำตาไม่น้อยเหมือนกัน ซึ่งเนื้อเรื่องของซีรีส์เรื่องนี้มันเล่าถึงในช่วงหลายปีหลังจากถ่ายทำสารคดีไวรัลในโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย อดีตคู่รักที่ทะเลาะกันสองคนถูกดึงกลับมาที่หน้ากล้อง และเข้ามาในชีวิตของกันและกัน “ชเวอุง” พระเอกของเรื่อง ดูไร้เดียงสาและร่าเริง

แต่เขาต้องการมีบางอย่างเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขา สำหรับสิ่งนั้น เขาแสดงสิ่งที่เขาถืออยู่ในใจของเขา “กุ๊กยอนซู” เป็นนางเอกของเรื่องที่เป็น PR โดยช่วงวัยเรียนตั้งเป้าที่จะเป็นนักเรียนอันดับต้นๆ ในโรงเรียนของเธอ แต่ตอนนี้เธอเป็นผู้ใหญ่ที่ใช้ชีวิตอย่างดุเดือดและปรับตัวให้เข้ากับความเป็นจริงของเธอ

Our-Beloved-Summer-(2021)

                บางครั้งอยากลืมกลับจำ บางครั้งอยากจำกลับลืม ในชีวิตจริงของคนเราก็เช่นกัน ทุกความสัมพันธ์แม้ว่าจะมีความสวยงาม แต่มันไม่ได้สวยงามถ้าความสัมพันธ์นั้นมีบาดแผลในใจ มีหลายคนที่จบกันด้วยไม่ดีชนิดที่ไม่อยากพูดถึงมันอีก แต่มันก็เล่าเรื่องเพื่อสื่อถึงความเป็นอิสระในการใช้ชีวิต มีความชัดเจนในหัวใจของตนเองมากขึ้น ซึ่งมันจะถ่ายทำให้รู้สึกว่า มันดูเรื่อยๆ แต่ว่ามันทำให้คนดูรู้สึกดีไปกับตัวละครชนิดที่ Move On ไม่ได้เลย

Our-Beloved-Summer-(2021)

                เรื่อง  Our Beloved Summer เป็นอีกเรื่องที่แนะนำอย่างมาก ทำให้เราอิ่มเอมใจ ประทับใจทุกครั้งที่ได้เห็นความสัมพันธ์กลับมาอีกครั้งในวัยหนุ่มสาว โดยถ่ายทอดออกมาให้สอดแทรกเชิงสารคดีเข้ามา ทำให้ไม่น่าเบื่อ ไม่ผิดหวังที่จะกลับมาดูย้อนหลังอีกครั้ง แม้จะจบไปไม่กี่เดือนแล้วก็ตาม แต่มันก็มีทั้งความตลก ความคลั่งรักไปในตัวของคู่พระเอก นางเอก แม้นางเอกจะไม่ค่อยชอบก็ตาม แต่นั่นมันสร้างสีสันได้ไม่น่าเชื่อ

Our Beloved Summer (2021)

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

Kissable Lips (2022) ซีรีส์วายเนื้อหาดี

Kissable Lips (2022) ซีรีส์วายเนื้อหาดี แถมได้มิติมากกว่าความจิ้นจิกหมอน

Kissable-Lips
Kissable-Lips

โดยปกติแล้วซีรีส์วาย ตัวละครมักจะเป็นกลุ่มเดียวกัน แทบจะทุกเรื่องที่เป็นซีรีส์ที่ตอบโจทย์กลุ่มวัยรุ่น และเน้นความจิ้นจิกหมอน และอยากให้ลงเอยกันและกันมากกว่า ในขณะเดียวกันซีรีส์เรื่อง Kissable Lips ก็เป็นอีกเรื่องที่ปฏัวัติซีรีส์วายไปโดยสิ้นเชิง เพราะมันเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับแวมไพร์กับมนุษย์ ซึ่งเนื้อเรื่องก็น่าติดตามแล้ว และละมุนพอๆ กับภาพยนตร์เรื่อง Twilight มากๆ เลยทีเดียว จะเป็นยังไงบ้างไปดูกันเถอะ

Kissable-Lips2
Kissable-Lips2

ซีรีส์เรื่อง Kissable Lips ฉายทาง bilibili โดยหลายคนต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่าน่าดูมาก มีความละมุนเหมือนซีรีส์ชายหญิงมากกว่าที่คิด แถมมีปมบางอย่างน่าติดตาม ระทึกไปในตัว การดำเนินเรื่องราวเป็นไปด้วยความกระชับ เข้าใจง่าย สื่อสารออกมาได้ชัดเจน ซึ่งเรื่องมันเกี่ยวข้องในวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเกาหลีใต้

เป็นจุดเริ่มต้นความรักอันแสนหวานในวิทยาเขตที่พวกเขาเรียนระหว่างจุนโฮ แวมไพร์ผู้เดินไปตามเส้นทางแห่งการสูญพันธุ์ เอาง่ายๆ เลยคือจะสลายตัวเองภายใน 10 ปี และมินฮยอน มนุษย์ที่มีเลือดบริสุทธิ์ ที่บรรดานักพายทั้งหลายต่างเรียกว่า “ไอ้ต้าวมินฮยอน” อีกด้วย แต่ความน่าสงสารไม่ได้มีแค่นั้น จุนโฮเป็นแวมไพร์ที่กำลังจะตาย จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อความอยู่รอด และไม่ยอมเป็นไปเหมือนเผ่าพันธุ์ของตนเอง โดยเขาจะต้องดื่มเลือดบริสุทธิ์และกลายเป็นมนุษย์ก่อนที่ตนจะไม่มีโอกาส

Kissable-Lips4
Kissable-Lips4

วันหนึ่ง…ในขณะที่จุนโฮ หรือ “คุณแวมไพร์” ค้นหา ตามหาใครสักคนที่มีเลือดบริสุทธิ์นี้ เขาได้พบกับมินฮยอน มนุษย์ที่มีเลือดบริสุทธิ์ แต่แวมไพร์อีกคนหนึ่งชื่อแฮซู ผู้รู้เกี่ยวกับความบอบช้ำในอดีตของจุนโฮ ทำให้มินฮยอนและจุนโฮหลุดออกจากปากถึงความในใจออกมาและการเดินทางของหัวใจเริ่มต้นขึ้นบนความแตกต่าง และ “คุณแวมไพร์” ดั๊นแพ้ทางคนซื่อๆ อย่างมินฮยอนไปได้ การใช้ชีวิตอย่างมนุษย์ธรรมดาของจุนโฮและปกป้องมินฮยอน จุนโฮจะต้องเผชิญกับอะไร? แถมทำคนดูฟินจิกหมอน และระทึกตามๆ กัน จนเป็นอีกเรื่องที่น่าดูมากในปี 2022

Kissable-Lips3
Kissable-Lips3

ต้องบอกก่อนว่าแค่แคสติ้งนักแสดงก็ผ่านแล้ว โดยเฉพาะมินฮยอน ซึ่งถ่ายทอดออกมาเป็นคนซื่อๆ ไม่มีพิษมีภัย แถมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนกำลังถูกแวมไพร์เล็งเพื่อเอาเลือดบริสุทธิ์จากตนอยู่ แต่จุนโฮหรือคุณแวมไพร์นี่เหมือนจะรุกแรงยิ่งกว่าใคร จ้องหน้าราวกับหมาป่าจะกินลูกแกะก็ไม่ปาน แถมการวางตัวให้กลมกลืนก็ทำเอาหัวเราะมากกว่าที่จะน่ากลัวเสียอีก ถ้าใครสนใจสามารถติดตามเรื่องนี้ได้เลย เพราะฉายมาได้ไม่กี่ตอนนี้เอง

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Kissable Lips (2022) ซีรีส์วายเนื้อหาดี

Categories
series

The King of Tears, Lee Bang Won (2021)

The King of Tears, Lee Bang Won (2021) ซีรีส์ประวัติศาสตร์ของ “พระเจ้าแทจง”

มาอีกเรื่องที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ โดยนำเรื่องราวของ “พระเจ้าแทจง” กษัตริย์องค์ที่สามแห่งอาณาจักรโซซอน โดยเรื่องนี้มีชื่อว่า The King of Tears, Lee Bang Won โดยออกอากาศในปี 2021 เนื้อหามีความน่าสนใจอย่างมาก เพราะเนื้อหาจะเล่าตั้งแต่ความเป็นมาและเรื่องราวของโซซอนชัดเจนเลยทีเดียว ซึ่งใครที่เป็นคอซีรีส์แนวประวัติศาสตร์ ควรค่าแก่การกลับไปดูอย่างมาก เพราะเนื้อหาและฝีมือการแสดงจัดว่าเด็ดจริงๆ

The King of Tears, Lee Bang Won
The King of Tears, Lee Bang Won

               เนื้อเรื่องของซีรีส์เรื่องนี้ เผยให้เห็นร่างของอีบังวอน (พระนามเดิมของพระเจ้าแทจงแห่งอาณาจักรเกาหลี) ผู้นำที่สร้างการเปลี่ยนแปลงของโซซอน จึงได้เป็นผู้นำในการก่อตั้งประเทศอีกคนที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์อย่างมาก เพราะเป็นคนที่ทำผลงานมาตลอด เรื่องนี้ทำให้เกิดความกระจ่างใหม่ต่อผู้นำอีบังวอน (รับบทโดย จูซังอุค) ผู้ริเริ่มก่อตั้งอาณาจักรโซซอนในช่วงสิ้นสุดของราชวงศ์โครยอและราชวงศ์โซซอนตอนต้น เมื่อคำสั่งโบราณของโครยอถูกทำลายและระเบียบใหม่ของโซซอนถูกสร้างในยุคสมัยการเปลี่ยนแปลง ที่ต้องแลกมากับการห้ำหั่น ความเกลียดชัง และหยดน้ำตา

               พระเจ้าแทจงเป็นอีกกษัตริย์ที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์เกาหลีอย่างมาก นอกจากจะเป็นผู้กอบกู้บ้านเมืองในสภาวะวุ่นวายสุดขีด แต่ก็เป็นกษัตริย์ที่มีแต่หยาดน้ำตาประทับอยู่บนใบหน้าภายใต้สีหน้าที่เข้มแข็งตลอดเวลา เพราะต้องห้ำหั่นกันเองในกลุ่มพี่น้องร่วมสายเลือด ไม่ว่าจะร่วมท้องแม่เดียวกัน หรือจะคนละแม่ ล้วนเจ็บปวดไม่น้อยกว่ากันจนเป็นเรื่องราวของ “เหตุการณ์จลาจลของเจ้าชาย” ที่เกิดขึ้นถึงสองครั้งสองครา ต้องเอาชนะพ่อ (พระเจ้าแทโจ)

The King of Tears, Lee Bang Won
The King of Tears, Lee Bang Won

จนกระทั่งพ่อต้องเป็นฝ่ายแพ้ลูกชายตนเองอย่างลีบังวอน เอาง่ายๆ เลยก็คือกว่าจะเป็นใหญ่ต้องห้ำหั่นคนรอบข้างมากมาย แม้ว่าจะเป็นคนที่ฉลาด มีความสามารถ มีสติปัญญาล้ำเลิศสมดังผู้ปกครองก็ตาม แต่นั่นมันก็สื่อให้เห็นขั้วอำนาจที่ต่างคนมองขาด และมองขาดแบบไม่สนว่าใครจะเป็นยังไง กว่าจะเป็นใหญ่นี่…อำนาจเป็นสิ่งที่น่ากลัวจริงๆ เลยทีเดียว

The King of Tears, Lee Bang Won
The King of Tears, Lee Bang Won

               ถ้าให้เรื่องความปัง เป็นเรื่องที่ดูได้ไม่เบื่อจริงๆ นอกจากจะได้เห็นด้านมืดของราชวงศ์แล้ว ทุกตัวละครไม่มีใครขาวใครดำ ทุกคนเป็นตัวละครที่มีสีเทาทั้งคู่ ไม่มีใครอยากเป็นคนเลว แต่เรื่องราวต่างๆ ทำให้คนต้องกลายเป็นคนที่ร้ายกาจที่สุดเพื่ออำนาจและชัยชนะของตนเอง ซีรีส์เรื่องนี้ถ่ายทอดออกมาได้ดีเยี่ยมเลยทีเดียว ซึ่งใครได้ดูจะรู้เลยว่าลงทุนการสร้างค่อนข้างเยอะมาก ทำให้เราได้เห็นฉากการสู้รบที่ตื่นตาตื่นใจมากขึ้นอีกด้วย

The King of Tears

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

Bulgasal Immortal Souls (2021)

Bulgasal Immortal Souls (2021) ความอมตะที่มันต้องแลกด้วยชีวิต

ใครจะเชื่อว่าคนอมตะจะไม่มีอยู่จริงบนโลกใบนี้ แต่บางทีความอมตะใช่ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ดีเสมอไป โดยซีรีส์เรื่องนี้ถ่ายทอดออกมาได้มีความแปลกใหม่ มีความแหวกแนวแต่ลงตัวความเป็นโคเรียนสไตล์อย่างมาก ต้องมีเรื่องย้อนยุคไปในยุคโบราณ กับยุคสมัยใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งต้องมีเรื่อง Bulgasal: Immortal Souls อย่างแน่นอน เพราะมันได้ฉายในปี 2021 หากใครได้ดูรับรองจะติดใจไม่รู้ลืมเลยทีเดียว

Bulgasal
Bulgasal

               ซีรีส์แฟนตาซีเรื่องนี้เหมือนหมุนรอบตัวละครสองตัว คนแรกคือผู้หญิงที่ผ่านการจุติมาหลายครั้งในช่วง 600 ปีที่ผ่านมาและจดจำชีวิตในอดีตของเธอทั้งหมด และคนที่สองคือผู้ชายที่มีชีวิตอยู่มานานกว่า 600 ปีในฐานะบูลกาซาล (Bulgasal) ซึ่งเป็นสัตว์ในตำนานที่กินเลือดมนุษย์ และถูกสาปแช่งด้วยความเป็นอมตะ

“แดนฮวาล” พระเอกของเรื่องเคยเป็นมนุษย์เมื่อ 600 ปีก่อน เขากลายเป็นบุลกาซาลในสมัยราชวงศ์โชซอนขณะเป็นทหารและเสร็จสิ้นภารกิจเพื่อสะสางภารกิจส่วนที่เหลือของราชวงศ์ก่อนหน้านี้ “มินซังอุน” เป็นนางเอกของเรื่องซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นบูลกาซาล แต่กลับชาติมาเกิดเป็นมนุษย์ หลังจากประสบกับการสูญเสียแม่และพี่สาวฝาแฝดของเธอด้วยน้ำมือของฆาตกรที่ไม่ปรากฏชื่อ “มินซังอุน” ก็หนีไปพร้อมกับ “มินซาโฮ” น้องสาวของเธอและใช้ชีวิตอย่างเงียบๆ ในการซ่อนตัว

Bulgasal
Bulgasal

แม้ว่าเธอจะทำงานอย่างหนักเพื่อปกปิดชื่อและตัวตนของเธอ แต่การปรากฏตัวของบูลกาซาลเปลี่ยนชีวิตที่เป็นความลับของเธอ ส่วน “อ๊กอึลแท” อีกคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในความลับ เขามีความสุขกับความเป็นอมตะมาตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมาและได้สะสมความมั่งคั่งมหาศาล ซึ่งเขาใช้เพื่อควบคุมนักการเมือง นักธุรกิจ และสื่อ ด้วยความงามที่เสื่อมโทรมและเสน่ห์ที่ล้นหลาม เขามีส่วนผสมทั้งหมดที่จะเป็นบุคคลที่ทรงพลังที่สุดในเกาหลี

“แดนซอล” เป็นลูกสาวของครอบครัวที่มีอำนาจซึ่งจบลงด้วยการแต่งงานกับ “แดนฮวาล”เพราะพ่อของเธอ เธอมีบางอย่างที่พิเศษที่คนอื่นไม่เข้าใจ

Bulgasal
Bulgasal

               จึงไม่แปลกใจเลยว่าที่มาของชื่อเรื่องภาษาไทยที่ชื่อว่า “วิญญาณอมตะ” ทำให้การใช้ชีวิตผิดแผกจากมนุษย์ค่อนข้างมาก แต่เนื้อเรื่องกลับเดินเรื่องดีมากอย่างไม่น่าเชื่อ ชีวิตอมตะใช่ว่าทุกคนจะพอใจในสิ่งที่มีอยู่เสมอไป บางครั้งความอมตะต้องแลกมาเพื่อบางสิ่งบางอย่างตามมาเสมอ และความอมตะใช่ว่าทุกคนจะต้องการ จึงทำให้เห็นด้านมืดของความเป็นอมตะที่มีทั้งต้องการและไม่ต้องการในเวลาเดียวกันอีกด้วย

Bulgasal

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

Bad and Crazy (2021)

Bad and Crazy (2021) ซีรีส์เรื่องเดียว…บ้าดีเดือดที่แท้ทรู

มาอีกซีรีส์ที่เรียกได้ว่าเปิดตัวมาก็บ้าดีเดือดของจริงกับเรื่อง “Bad and Crazy” ซึ่งออกฉายปี 2021 โดยนักแสดงที่มากฝีมืออย่าง “ลีดงวุค” ซึ่งเป็นพระเอกของเรื่อง เราจะได้เห็นฝีมือการแสดงที่บ้าดีเดือดตามฉบับโคเรียนสไตล์ ที่ใครๆ ได้ดูรับรองไม่ผิดหวังเลยทีเดียว เนื้อเรื่องก็มีความเสียดสีสังคมอย่างมาก แถมได้เล่นชนิดที่ฉีกความเป็นพระเอกมาดสุขุมไปโดยปริยาย โดยเนื้อเรื่องก็ถ่ายทอดออกมาได้เห็นแนวอาชญากรรมที่ซับซ้อน บ้าบิ่นอย่างมาก

Bad and Crazy
Bad and Crazy

               เนื้อหาของซีรีส์มีความน่าสนใจมาก ซึ่งเรื่องราวนี้เกี่ยวกับ “คนเลว” ที่มีความสามารถหลากหลาย แต่เป็น “คนเลว” อยู่วันยังค่ำ ซึ่ง “รยูซูยอล” ที่รับบทโดย “ลีดงวุค” ฟื้นคืนความเป็นมนุษย์หลังจากพบกับ “K” ที่รับบทโดย “วีฮาจุน” ที่เป็นคนชอบธรรมแต่บ้าบิ่น โดยในเรื่อง “รยูซูยอล” เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความสามารถของกลุ่มยาเสพติดที่มีการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเท่านั้น เนื่องจากความทะเยอทะยานของเขา เขาจึงรับเฉพาะกรณีที่ผู้บังคับบัญชาชอบและให้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ แต่ยังเมินเฉยต่อความอยุติธรรมบางอย่าง เมื่อใกล้จะถึงช่วงโปรโมต

เพราะการที่การศึกษาไม่ถึง ทำให้ “รยูซูยอล” ไม่ได้รับการสนับสนุนก็ต้องเผชิญกับวิกฤติของการสูญเสียโอกาสอีกครั้ง สภาคองเกรสโดยูกอนให้ความหวังซูยอลในการเลื่อนขั้นในตำแหน่งหน้าที่การงานของตนอีกครั้ง แต่ชีวิตของเขาต้องหยุดชะงักลงเมื่อ K ที่ชอบธรรมแต่บ้าคลั่ง จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นในช่วงเวลาวิกฤติ! การพบกันและร่วมมือกันระหว่างซูยอลและ K จะนำอะไรมาให้?

Bad and Crazy
Bad and Crazy

แน่นอนว่าเปิดตัวมารับประกันความบ้าระห่ำ บ้าดีเดือดที่ฉีกแนวอย่างมากเมื่อใครได้ดูมัน ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้กำลังจะฉายในเดือนธันวาคมนี้อย่างเป็นทางการ ใครเป็นภรรยาทิพย์ของ “ลีดงวุค” ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงเลยทีเดียว เพราะจะเริ่มออนแอร์ในวันที่ 18 ธันวาคมนี้อย่างเป็นทางการใน iQiYi ซึ่งคนไทยสามารถค้นหาดูได้แล้ว

Bad and Crazy
Bad and Crazy

               คงจะพูดไปมากกว่านี้ เดี๋ยวจะหาว่าสปอย แต่รับประกันความสนุกตั้งแต่เปิดทีเซอร์ของเรื่องแล้ว ทุกตัวอย่างที่เห็นทำให้รู้สึกอยากดูมากขึ้นไปอีก อยากดูจนอดใจรอไม่ไหวแล้ว แต่นางเอกของเรื่องอย่าง “ฮันจีอึน” ดูเหมือนจะเท่จริงๆ แทบรอไม่ไหวว่าจะได้เห็นมือการแสดงของเธออีกคนของเรื่องด้วย แต่งานนี้จะคู่กับใครต้องไปดูเอาเองละกันเนอะ เพราะแต่ละคนงานดีทุกคนทั้ง “ลีดงวุค” “ฮันจีอึน” และ “วีฮาจุน” จริงๆ แต่ละคนฝีมือกินขาดมาก

Bad and Crazy

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

A DeadbEAT’s Meal (2021)

A DeadbEAT’s Meal (2021) ซีรีส์ชวนหิว แต่มีความฟีลกู๊ดอย่างมาก

โดยปกติแล้วซีรีส์เกาหลีที่เกี่ยวกับการทำอาหารเป็นอะไรที่ดีต่อใจต่อคนดู และจะสอดแทรกเนื้อหาที่ให้ความอบอุ่นอย่างมากไปในตัว บางเรื่องก็อาจจะมีเนื้อหาเชือดเฉือนตามโคเรียนสไตล์ บางเรื่องก็เอามาเป็นองค์ประกอบในชีวิตประจำวันที่ไม่เนือยจนเกินไป ซึ่งซีรีส์เกาหลีเกี่ยวกับการทำอาหารจะต้องมีเรื่อง A DeadbEAT’s Meal ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความน่าสนใจ และนำวิถีชีวิตของผู้คนมาใช้ในเนื้อเรื่องได้ลงตัว แต่เรื่องนี้เริ่มฉายในปี 2021 หากใครสนใจสามารถหาดูได้แล้ว เพราะแต่ละตอนมีถึง 12 ตอนเลยทีเดียว

A DeadbEAT_s Meal
A DeadbEAT_s Meal

               ถ้าตัดเรื่องกระแสความนิยมออกไป จะบอกว่าดูไปเหมือนได้ย้อนดูตัวเองอย่างมาก เพราะมันเล่าเรื่องการเติบโตที่ลงตัวกับการใช้ชีวิตอย่างมาก โดยเรื่องราวการเติบโตของ “คิมแจโฮ” ที่เป็นพระเอกของเรื่องได้จบการศึกษาจากสาขาวรรณกรรมเกาหลีและกำลังอยู่ในปีที่สองของการเตรียมตัวสำหรับการเริ่มต้นที่จะทำงาน หลังจากให้บริการแก่ผู้อื่นเป็นเวลานาน เมื่อเขาหายจากความเจ็บปวด

ความหดหู่จากการทำงานที่ล้มเหลว และการที่ต้องกินแห้วตามประสาคนหางานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจากลากันของพระเอกกับ “ซอซูจอง” แฟนของพระเอก เขาใช้อาหารเป็นสื่อกลางในการปลอบโยนเขา โดยเชื่อว่าถ้าอิ่มท้อง ทานอาหารครบสามมื้อตามที่แม่บอก แล้วเขาจะสุขภาพแข็งแรงพร้อมสู้อะไรในหลายๆ อย่างได้มากมาย ได้รู้จักความเห็นอกเห็นใจ และความพึงพอใจของมุกบังเข้ามาเกี่ยว

A DeadbEAT_s Meal
A DeadbEAT_s Meal

เหตุที่มองว่าอาหารคือส่วนหนึ่งของการเติบโต เพราะเราจะได้ยินคำว่า “เรื่องการกินเป็นเรื่องที่ดีต่อใจ” ทำให้ดูมีมิติบนความเรียบง่ายค่อนข้างมาก มันก็เสียดสีคนทำงานไปในตัวเรื่องของทานอาหารไม่เป็นเวลาของคนในเมือง แต่ก็มี “ยออึนโฮ” เป็นหญิงสาวที่บ้างานจนมีปัญหาเรื่อง Work-Life Balance จนกระทั่งเธอต้องตกงานมาสามเดือน เนื่องด้วยเธอโหมจนไม่มีเวลารักษาสุขภาพสักเท่าไหร่ ทำให้เธออยากทานอาหารให้มีประโยชน์ต่อร่างกาย และมันทำให้เธออยากได้เพื่อนที่กินอาหารด้วยกันสักครั้งเช่นกัน

A DeadbEAT_s Meal
A DeadbEAT_s Meal

               A DeadbEAT’s Meal ก็ยังเป็นหนึ่งในการ์ตูนจาก Webtoon ที่มีชื่อเสียงอย่างมาก พระเอกจัดว่าใช้เรื่องการกินได้คุ้มมากเลยทีเดียวในการดำรงชีวิตประจำวัน แล้วมันก็ทำให้กลับมาใส่ใจตนเองจากสิ่งเล็กๆ ได้มากกว่าที่คิด เอาง่ายๆ เลยก็คือไม่ต้องเก่งระดับโลก แค่ทานอาหารให้อิ่มท้องและใช้ชีวิตให้มีความสุข ก็สามารถลุยได้ทุกสถานการณ์ของชีวิต นอกจากนี้ยังทำให้เรารู้จักลดความคาดหวังในตนเองลง และประคับประคองตนเองให้เป็นอีกด้วย

A DeadbEAT_s Meal

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

รีวิว HELLBOUND

รีวิวHELLBOUND ซีรีย์ที่พูดถึงความดีความเลวด้วยนรกตัวเป็นๆ

และแล้วก็มาถึงซีรีย์เกาหลีเรือธงของ NETFLIX แนวสยองขวัญปนสืบสวนสอบสวนปิดท้ายปลายปี 2021 ที่สมศักดิ์ศรีผู้นำด้านสื่อบันเทิงฝั่งตะวันออกจริงๆ

เรื่องย่อ Hellbound

HELLBOUND
HELLBOUND

เมื่อโลกได้รู้จักกับนรกตัวเป็นๆ จากคลิปไวรัลในอินเตอร์เน็ตที่มีตัวประหลาดขนาดประมาณสองเท่าของมนุษย์รูปร่างเหมือนเดอะฮัล์คแต่ดำทะมึนพร้อมด้วยควันลอยล่องเหมือนอย่างกับว่าเป็นกลุ่มควันที่มีชีวิต ปรากฏตัวจากที่ไหนไม่รู้เข้ามาทุบบุคคลเป้าหมายจนเละ ปล่อยแสงใส่จนเหยื่อเหลือแต่ซากแล้วจากไปแบบไร้ร่องรอย

บางคนคิดว่านี่เป็นภาพตัดต่อคอมพิวเตอร์กราฟฟิค บางคนคิดว่าจริง และมีลัทธิ “สัจจธรรรมใหม่” อ้างว่านี่คือสาส์นคำเตือนจากพระเจ้าที่บอกว่ามนุษย์ต้องหยุดทำเรื่องชั่วร้าย ในขณะที่มีกลุ่มลูกศรที่ดูเหมือนมีความเชื่อมโยงกับลัทธิสัจจธรรมใหม่ออกไล่ล่าคนชั่วโดยทำตัวเหมือนศาลเตี้ย

ในที่สุดก็เกิดเหตุครั้งใหม่กลางใจเมืองเมื่อสัตว์ประหลาดสีดำออกไล่ล่าเป้าหมายกลางถนน เหยื่อวิ่งหนีเป็นเวลานานท่ามกลางชุมชน หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจพวกมันก็กระโดดหายเข้าไปกลางอากาศเหมือนกับไม่เคยมีอยู่

HELLBOUND
HELLBOUND

กลายเป็นคดีใหญ่ที่มีพยานเห็นเหตุการณ์จำนวนมาก นักสืบ จิน เคียว ฮุน ได้รับคำสั่งให้ตามติด จอง จิน ซู ประธานลัทธิสัจจธรรมใหม่ว่ามีความเกี่ยวข้องกับการตายของเหยื่อสัตว์ประหลาดหรือเปล่า ในขณะที่ชาวเน็ตพากันขุดคุ้ยเรื่องความชั่วของเหยื่อที่ถูกสังหารกลางกรุงโซล

ไม่นานนักก็มีผู้ที่ได้รับคำทำนายเวลาตายคนใหม่ เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวลูกสองที่มีคลิปการรับคำทำนายเป็นหลักฐาน เธอไปหาอัยการสาวชื่อดัง มิน เฮ จิน ด้วยความเสียขวัญและบอกว่าลัทธิสัจจธรรมใหม่ต้องการถ่ายทอดสดการ “แสดง” การลงทัณฑ์ของพระเจ้าที่เธอจะได้รับ แลกกับเงินสามล้านวอนทิ้งไว้ให้ลูกๆ!

HELLBOUND
HELLBOUND

ความรู้สึกหลังดู Hellbound

สำหรับหนังเกาหลีนั้นจะเป็นแนวไหนก็แล้วแต่สิ่งที่สอดแทรกเข้ามามักจะเป็นดราม่าหนักๆแทบทุกเรื่อง 

ดังนั้นแม้ว่าเรื่องนี้จะออกแนวสยองขวัญกับแนวสืบสวน แต่เรื่องของคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์ก็ทำออกมาบีบหัวใจคนดูแบบตรงไปตรงมา ทั้งเรื่องแม่ลูกสองที่ต้องมารู้เวลาตายยินยอมรับเงินค่าถ่ายทอดสดเพื่อทิ้งไว้ให้ลูก นักสืบที่เชื่อว่าเรื่องนี้มีเบื้องหลังแต่กลับมีลูกสาวที่เข้าไปเป็นสาวกของลัทธิ อัยการสาวที่มีแม่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เป็นส่วนผสมที่ใส่เข้าไปแบบอัดแน่นความเป็นดราม่าไว้เต็มๆ

ในส่วนของโปรดักชั่นนั้นไม่ได้เนี๊ยบแบบไม่มีที่ติ แต่ก็เหมาะสมดูไม่ขัดตา แต่ที่ดูชัดเจนมากคือความสมจริงของการทำร้ายทั้งเลือดทั้งสภาพแบบจัดเต็ม

HELLBOUND
HELLBOUND

ใครจะดู Hellbound แบบบันเทิงอาจต้องมีทำใจรับความรุนแรงแบบไม่กั๊กทั้งในด้านเนื้อหาและด้านภาพ เรื่องราวมีการตั้งคำถามตรงๆกับบทลงโทษในกฎหมายปัจจุบันว่าหนักพอแล้วหรือไม่ ซึ่งก็สุ่มเสี่ยงเป็นความรุนแรงด้านความคิดอย่างมาก และยังมีเรื่องความเชื่อของผู้คนเป็นแกนเรื่องขนานไปด้วยกันเมื่อใดที่ผู้คนเชื่อในสิ่งที่แตกต่างกันจนสุดขั้วความรุนแรงก็เกิดขึ้นได้ในสังคม 

เหมือนว่าผู้กำกับโยนระเบิดทางความคิดมาให้คนดูพิจารณาเอาว่าสังคมที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มันดูดีอย่างที่ฉาบหน้าไว้หรือเปล่า ถ้าหากมีวิกฤตบางอย่างจนโครงสร้างมันแตกออกจะรับมือกับสิ่งที่ซ่อนอยู่ข้างใต้ได้อย่างไร

ส่วนกิมมิก(gimmick)ปริศนาของการมาของสัตว์ประหลาดที่จะเป็นนรกหรือพระเจ้าส่งมานั้น คงต้องไปหาคำตอบกันเองใน Hellbound ถ่ายทอดสดเขตนรกที่ NETFLIX พากย์ไทย 6 ตอนจบ

Hellbound

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

รีวิวซีรีส์ My Name

My Name ซีรีส์แนวแอคชั่นล้างแค้น ที่มาพร้อมการเล่าเรื่องที่ให้อารมณ์แบบหนังมาเฟียฮ่องกง

ฉากแอคชั่นทำออกมาได้เท่ ดุดัน และสมจริง และการพลิกบทบาทอันยอดเยี่ยมของ ฮานโซอี

ผลงานซีรีส์เกาหลี Original Netflix เรื่องล่าสุด ที่พร้อมสานต่อความสำเร็จจาก Squid Game อีกครั้ง โดยครั้งนี้ทำมาเพื่อเอาใจคอหนังแอคชั่น อาชญากรรม กับเรื่องราวการล้างแค้นสุดเข้มข้นของ ยุนจีอู (ฮานโซอี) หญิงสาวที่พ่อของเธอถูกฆ่าตายโดยบุคคลปริศนา

ทำให้เธอตัดสินใจที่จะล้างแค้นให้พ่อของเธอ จีอูได้รับความช่วยเหลือจาก ชเวมูจิน (ปาร์คอีซุน) เจ้าพ่อแก๊งอาชญากรรมที่พ่อของเธอทำงานให้ โดย จีอู ได้รับการฝึกฝนให้กลายเป็นนักฆ่าเลือดเย็น และได้ใช้ตัวตนปลอมเพื่อเข้าไปทำงานในหน่วยปราบปรามยาเสพติด ซึ่งเธอต้องรับหน้าที่ตีสองหน้าในการเป็นสายให้แก๊งของ มูจิน และสืบหาตัวคนที่ฆ่าพ่อของเธอ

My name
My name

My Name เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์เกาหลีที่มีรสชาติต่างจากซีรีส์เกาหลีสูตรสำเร็จที่เราคุ้นเคย ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้ได้ใช้ประสิทธิภาพของความเป็นผลงานในเครือ Netflix ได้อย่างเต็มที่เหมือนที่ Kingdom และ Squid Game เคยทำไว้ ในการสร้างความเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งในเรื่องนี้ซีรีส์ก็ได้ถ่ายทอดความเป็นหนังอาชญากรรม หนังแอคชั่น ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ตั้งแต่งานภาพที่มาในโทนมืดหม่น บทหนัง การเล่าเรื่อง ที่เต็มไปด้วยฉากความรุนแรง ทั้งคำพูดและการกระทำ

My name
My name

ในด้านการเล่าเรื่องของ My Name เรียกได้ว่าเป็นงานที่ทำออกมาให้กลิ่นอายเหมือนหนังอาชญากรรมฮ่องกงยุค 80-90 ก็ว่าได้ โดยเนื้อหาซีรีส์จะเต็มไปด้วยการหักเหลี่ยมเฉือนคมระหว่างแก๊งอาชญากรรมด้วยกันเอง และองค์กรตำรวจ ซึ่งนำมาสู่การไล่ล่าสุดเข้มข้น ส่วนด้านตัวเจ้าพ่อก็จะมีความเทา ๆ ไม่ดาร์คสุด หรือดีสุด ซึ่งบริบทบางส่วนจะให้ความรู้สึกคล้ายกับงานชั้นครูอย่าง Infernal Affairs ในด้านการสับขาหลอกไปมา จนคนดูเดาทางไม่ถูกว่าตัวละครไหนคือคนดี หรือคนชั่วที่แท้จริงของเรื่อง

My name
My name

ส่วนของฉากแอคชั่น เรียกได้ว่าทำออกมาได้ดีเยี่ยม แม้ว่าตัวซีรีส์จะไม่ได้มาพร้อมฉากแอคชั่นระดับเวอร์วังอลังการ แต่จะเน้นความสมจริงของฉาก การนำเสนอ ซึ่งความพิเศษของฉากแอคชั่นในเรื่องนี้ คือการเล่นกับมุมกล้องที่มีความเท่ มีชั้นเชิง พร้อมทั้งยังเพิ่มความท้าทายด้วยการถ่ายแบบลองเทคในหลาย ๆ ฉาก จนทำให้ฉากแอคชั่นที่ดูเหมือนจะธรรมดาเหล่านี้ดูไม่ธรรมดาขึ้นมาไม่น้อย

การแสดงของเรื่องนี้ต้องขอชื่นชม ฮานโซอี ที่เรื่องนี้เธอได้สลัดภาพสาวหวาน เซ็กซี้ มาสู่บทที่ท้าทายที่สุดของเธอ ในเรื่องโซอี ได้ถ่ายทอดฉากบู๊หลาย ๆ ฉากด้วยตัวเอง ซึ่งเธอก็สามารถแสดงฉากแอคชั่นออกมาได้อย่างดุดัน ในขณะที่พาร์ทดราม่าในเรื่อง เธอก็สามารถนำเสนออารมณ์ของตัวละครได้อย่างเยี่ยม จนเรียกได้ว่าเป็นบทบาทที่มีททั้งความเท่ และความน่าสงสารอยู่ในตัว

My name
My name

สำหรับข้อเสียของ My Name คือการที่ซีรีส์พยายามเล่าตามสูตรของหนังอาชญากรรมฮ่องกงเกินไป จนตัวซีรีส์แทบไม่มีความเป็นตัวเอง หรือแปลกใหม่เหลืออยู่ โดยเฉพาะการสร้างความสัมพันธ์ของตัวละครที่หากใครดูหนังแนวมาเฟียฮ่องกงมาเยอะ จะพอสามารถเดาตอนจบของเรื่องได้ไม่ยาก และนั่นทำให้จุดหักมุมของซีรีส์เรื่องนี้ดูธรรมดาไปโดยปริยาย

My name
My name

อย่างไรก็ตาม My Name ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์เกาหลีของ Netflix ที่ทำออกมาได้สุดไม่แพ้กับ Kingdom หรือ Squid Game ตัวซีรีส์สามารถถ่ายทอดเรื่องราวของโลกอาชญากรรม การล้างแค้น ได้อย่างสนุก ชวนติดตาม ตั้งแต่ต้นจนจบ ใครที่ชอบหนังอาชญากรรม หนังแอคชั่น ที่มีเนื้อหาดิบ เถื่อน รุนแรง นี่เป็นอีกงานที่คุณไม่ควรพลาด

สามารถรับชม My Name ได้แล้ววันนี้ที่ Netflix

My name

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Cr.ภาพ: Hancinema

Categories
series

“Extraordinary You” กับ “ดอกมธุรดา”

ซีรีส์เกาหลี”Extraordinary You” กับ “ดอกมธุรดา”

สัญลักษณ์ของการรอคอย

“Extraordinary You” หรือ “A Day Found by Chance” หรือ “รักนี้หัวใจบอกไม่ธรรมดา” เป็นซีรีส์แนวโรแมนติกแฟนตาซี เขียนบทโดยอิน จีฮเย (In Ji-Hye) และซง ฮายอง (Song Ha-Young) กำกับโดยคิม ซังฮยอบ (Kim Sang-Hyeop) ซึ่งสร้างมาจากเว็บตูนเรื่อง “July Found by Chance” ของมูรยู (Muryu) ฉายผ่านทางช่อง MBC ออกอากาศวันแรกเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ปี ค.ศ. 2019 ปัจจุบันสามารถรับชมได้ทางแพลตฟอร์มออนไลน์ ได้แก่ Viu WeTV Netflix เป็นต้น มีนักแสดงนำ ได้แก่ คิม ฮเยยุน (Kim Hye-Yoon) รับบทเป็นอึน ดันโอ (Eun Dan-O), โรอุน (Ro Woon) รับบทเป็นฮารุ (Ha-Roo), อี แจอุค (Lee Jae-Wook) รับบทเป็นแบคคยอง (Baek Kyung) และยังมีนักแสดงสมบทอีกมากมาย

Extraordinary You
Extraordinary You

          “Extraordinary You” บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับอึน ดันโอ เด็กมัธยมปลายที่ครอบครัวร่ำรวยแต่ต้องเผชิญกับโรคประจำตัวตั้งแต่เด็ก (โรคหัวใจ) วันหนึ่งเธอได้รู้ความจริงว่าชีวิตของเธอและคนรอบข้างเป็นเพียงส่วนหนึ่งของนิยายที่ชื่อว่า “Secret” ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อแต่ก็มีหลักฐานที่ทำให้เธอต้องยอมรับ นั่นคือ มีเพียงเธอเท่านั้นที่สามารถจดจำสิ่งต่างๆ ได้ เมื่อฉากของนิยายเปลี่ยนไป มิหนำซ้ำเธอยังเป็นเพียงตัวประกอบของนิยายเรื่องนี้และมีเวลาในชีวิตเหลือน้อยอีกต่างหาก ในนิยายเรื่องดังกล่าวเธอเป็นคู่หมั้นของแบคคยอง แต่เมื่อฉากของนิยายจบลงเธอกลับพบว่า เธอไม่ได้รู้สึกรักใคร่เขาเหมือนที่นิยายเขียนให้เป็น เธอจึงต้องหาทางเปลี่ยนแปลงเรื่องราวที่นักเขียนกำหนดไว้

Extraordinary You
Extraordinary You

          อึน ดันโอ ได้พบกับนักเรียนชายอีกคนหนึ่งที่เป็นตัวประกอบของเรื่องเหมือนกับเธอ เขาได้เข้ามาช่วยเหลือเธอจากอุบัติเหตุโดยบังเอิญ เธอจึงตั้งชื่อให้เขาว่า ฮารุ และขอความช่วยเหลือในการป่วนเนื้อเรื่องของนิยายที่กำหนดเส้นทางของพวกเขา ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดูเหมือนว่าจะเคยมีความผูกพันกันมาก่อน พวกเขามักจะพบกันเมื่อดอกมธุรดาเบ่งบาน อีกทั้งพวกเขายังพบพวงกุญแจลวดลายดอกมธุรดาอีกด้วย

Extraordinary You
Extraordinary You

          จะเห็นว่า สิ่งที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างอึน ดันโอ กับฮารุ เอาไว้ ก็คือดอกมธุรดา นั่นเอง โดยดอกมธุรดา หรือ ดอกรุ่งอรุณ (Chinese Trumpet Vine) เป็นไม้เลื้อยพื้นเมืองของประเทศจีน ออกดอกเป็นช่อ โดยมีลักษณะคล้ายรูประฆังสีส้มอมแดง เนื่องจากดอกที่สวยงามจึงนิยมปลูกเพื่อให้เป็นร่มเงาและเป็นไม้ประดับ นอกจากนี้ ดอกมธุรดา ยังมีความหมายเกี่ยวกับนัยยะของการรอคอยอีกด้วย

Extraordinary You
Extraordinary You

          เมื่อดอกมธุรดากลายเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์ระหว่างอึน ดันโอ กับฮารุ นั่นหมายความว่า พวกเขาต่างรอคอยกันและกันมาโดยตลอด ถึงแม้ว่าจะจำกันไม่ได้ก็ตาม นั่นเป็นผลมาจากความรักที่ไม่สมหวังของทั้งคู่ในนิยายเรื่องก่อน จนกลับมาพบกันอีกครั้งในนิยายเรื่องนี้โดยมีดอกมธุรดาเป็นสัญลักษณ์ของการรอคอยของพวกเขานั่นเอง

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

“Moon Lovers Scarlet Heart Ryeo” ครบรอบ 5 ปี

ซีรีส์เกาหลีเรื่อง “Moon Lovers: Scarlet Heart Ryeo” ครบรอบ 5 ปี

กับกระแสที่ยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน

Moon Lovers: Scarlet Heart Ryeo หรือ ข้ามมิติ ลิขิตสวรรค์ เป็นซีรีส์เกาหลีแนวโรแมนติกแฟนตาซีที่อิงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ โดยนำเอาละครโทรทัศน์ชื่อดังของจีนมาสร้างใหม่ในรูปแบบของเกาหลีใต้ เขียนบทโดยโช ยุนยอง (Jo Yoon-young) กำกับโดยคิม คยูแท (Kim Kyu-tae) มีจำนวนตอนทั้งสิ้น 20 ตอน ออกอากาศผ่านสถานีโทรทัศน์ทางช่อง SBS ของเกาหลีใต้ ในระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม ถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน ปี ค.ศ. 2016 ซึ่งช่อง 3 ได้ซื้อลิขสิทธิ์มาออกอากาศในระหว่างวันที่ 17 มกราคม ถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2017

Moon Lovers Scarlet Heart Ryeo
Moon Lovers Scarlet Heart Ryeo

ซีรีส์เรื่องนี้มีนักแสดงจำนวนมาก ได้แก่ ไอยู รับบทเป็นโกฮาจิน หรือแฮซู, อี จุนกิ รับบทเป็นองค์ชายสี่ หรือองค์ชายวังโซ, คัง ฮานึล รับบทเป็นองค์ชายแปด หรือองค์ชายวังอุค, ฮง จงฮยอน รับบทเป็นองค์ชายสาม หรือองค์ชายวังโย, คัง ฮันนา รับบทเป็นวังยอน-ฮวา, คิม จีซู รับบทเป็นองค์ชายสิบสี่ หรือองค์ชายวังจอง, นัม จูฮย็อก รับบทเป็นองค์ชายสิบสาม หรือองค์ชายวังอุกแพคอา, พย็อน แบ็กฮย็อน รับบทเป็นองค์ชายสิบ หรือองค์ชายวังอึน นอกจากนี้ยังมีนักแสดงสมทบอีกจำนวนมาก

Moon Lovers Scarlet Heart Ryeo
Moon Lovers Scarlet Heart Ryeo

Moon Lovers: Scarlet Heart Ryeo เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโกฮาจินในยุคปัจจุบันที่ประสบอุบัติเหตุจมน้ำในวันที่เกิดสุริยคราสทำให้วิญญาณของเธอหลุดไปอยู่ในร่างของแฮซูในยุคสมัยของราชวงศ์โครยอ จนได้พบว่าร่างหญิงสาวที่วิญญาณของเธอมาอาศัยอยู่นั้นเป็นน้องสาวของพระชายาในองค์ชายแปด เธอได้รู้จักกับองค์ชายองค์อื่นๆ จากเหตุการณ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งส่วนใหญ่องค์ชายเหล่านั้นหลงรักและเอ็นดูเธอเป็นอย่างมาก

Moon Lovers Scarlet Heart Ryeo
Moon Lovers Scarlet Heart Ryeo

แต่เมื่อเธอดำรงชีวิตในฐานะแฮซูไปเรื่อยๆ กลับพบว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นไปตามประวัติศาสตร์ที่คนยุคปัจจุบันได้ร่ำเรียนกันมา นั่นคือการแย่งชิงบัลลังก์กันระหว่างองค์ชายต่างๆ ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ว่ากษัตริย์องค์ต่อไปจะเป็นใครแต่ก็ไม่สามารถบอกใครได้ นอกจากเรื่องราวการเมืองที่เข้มข้นแล้ว ยังมีเรื่องของความรักที่เจ็บปวดระหว่างแฮซูกับองค์ชายสี่และองค์ชายแปดอีกด้วย

Moon Lovers Scarlet Heart Ryeo
Moon Lovers Scarlet Heart Ryeo

          หลังจากที่ช่อง 3 ฉายจบไปแล้วนั้น ก็ทำให้ผู้ชมจำนวนมากที่ชื่นชอบซีรีส์เรื่องนี้มีความคิดถึงและอยากจะรับชมอีกครั้ง จนเมื่อวันที่ 13 มกราคม ปี ค.ศ. 2021 ที่ผ่านมา VIU Thailand ก็ประกาศว่าจะนำซีรีส์เรื่องดังกล่าวมาฉายในแพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นข่าวที่สร้างความดีใจให้กับผู้ชมเป็นจำนวนมาก

Moon Lovers Scarlet Heart Ryeo
Moon Lovers Scarlet Heart Ryeo

นอกจากนี้ ความสัมพันธ์และมิตรภาพของนักแสดงในเรื่องยังคงแน่นแฟ้นมาจนถึงปัจจุบัน จะเห็นได้จากการที่นักแสดงส่ง Food Support ให้กันเมื่อต่างคนต่างมีผลงานเรื่องใหม่เข้ามา หรือการชวนกันกลับมาพบปะในรายการร่วมกัน หรือการที่นักแสดงในเรื่องเดินทางมาให้กำลังใจนักแสดงนำอย่างไอยูเมื่อเธอจัดแสดงคอนเสิร์ตอีกด้วย

moon lovers scarlet heart ryeo

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

The Tale of Nokdu กับหมู่บ้านแม่หม้ายลึกลับ

ซีรีส์เกาหลี The Tale of Nokdu กับหมู่บ้านแม่หม้ายลึกลับที่ปกป้องพวกเธอจากโลกภายนอก

The Tale of Nokdu หรือ นกดู ผมเป็นแม่หม้ายครับ เป็นซีรีส์เกาหลีแนวโรแมนติกคอมเมดี้/ประวัติศาสตร์ที่สร้างมาจากเว็บตูนของฮเย จินยาง (Hye Jin Yang) ที่ชื่อว่า “Joseon Love Story: The Tale of Nokdu” เขียนบทโดยอิม เยจิน (Lim Ye-jin) และแบค โซยอน (Baek So-yeon) กำกับโดยคิม ดงฮวี (Kim Dong Hwi) มีจำนวนตอนทั้งสิ้น 32 ตอน (ตอนละ 35 นาที) ออกอากาศวันแรกเมื่อวันที่ 30 กันยายน ปี ค.ศ. 2019 ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ช่อง KBS2 ของเกาหลีใต้ ปัจจุบันสามารถรับชมได้ผ่านช่องทางแพลตฟอร์มออนไลน์ ได้แก่ VIU WeTV Netflix เป็นต้น

The Tale of Nokdu
The Tale of Nokdu

จุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้คือการปลอมตัวของเหล่าพระนางในเรื่อง โดยที่พระเอกปลอมตัวเป็นแม่หม้ายเพื่อเข้าไปสืบหาข้อมูลบางอย่าง ส่วนนางเอกบางครั้งก็ปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อออกเดินทางเข้าไปยังเมืองหลวง ซึ่งมีนักแสดงนำ ได้แก่ จางดงยุน (Jang Dong-yoon) รับบทเป็นจอน นกดู, คิมโซฮยอน (Kim So-hyun) รับบทเป็นดง ดงจู, คัง แทโอ (Kang Tae-oh) รับบทเป็นชายูลมู (Cha Yool-moo) และนักแสดงสมทบอีกมากมาย

The Tale of Nokdu เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับจอน นกดูที่มีความฉลาดหลักแหลมและมีรูปลักษณ์ภายนอกที่งดงามได้พบเจอกับเหตุการณ์บางอย่างเข้าจึงต้องการที่จะเข้าไปสืบหาข้อมูลลับในหมู่บ้านแม่หม้ายแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่กลางป่า แต่ทว่าหมู่บ้านแม่หม้ายแห่งนี้ต้อนรับเฉพาะผู้หญิงโดยเฉพาะผู้หญิงที่เป็นแม่หม้ายเท่านั้น เมื่อหมดหนทางเขาจึงต้องจำใจปลอมตัวเป็นแม่หม้ายเพื่อตบตาทุกคน จนได้พบกับดง ดงจู

The Tale of Nokdu
The Tale of Nokdu

เด็กสาวเพียงคนเดียวในหมู่บ้านที่ไม่ใช่แม่หม้าย เธอเติบโตขึ้นในหมู่บ้านแห่งนี้และพยายามฝึกฝนเพื่อเป็นกีแซง โดยที่มีความลับบางอย่างที่ไม่สามารถบอกใครได้ จอน นกดูในฐานะแม่หม้ายได้ให้ความช่วยเหลือดง ดงจูจากเหตุการณ์ร้ายแรง และเมื่อเธอรู้ความลับเรื่องการปลอมตัวเขาจึงช่วยเก็บความลับนั้นเอาไว้ และทั้งคู่ก็ตบตาคนในหมู่บ้านด้วยการประกาศเป็นแม่ลูกบุญธรรมนั่นเอง

จะเห็นว่า หมู่บ้านแม่หม้ายลึกลับที่ตั้งอยู่กลางป่าแห่งนี้ มีขึ้นเพื่อปกป้องเหล่าแม่หม้ายที่สูญเสียสามี และถูกครอบครัวของสามีปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ทั้งการพยายามพาเธอไปฆ่าตัวตายตามสามีหรือการขับไล่ออกจากบ้านอีกด้วย เมื่อหมดหนทางพวกเธอจึงต้องช่วยเหลือกันและกัน และร่วมต่อสู้เพื่อช่วยเหลือแม่หม้ายคนอื่นๆ ที่ต้องประสบพบเจอกับเหตุการณ์ที่โหดร้ายเหล่านี้

The Tale of Nokdu
The Tale of Nokdu

ในที่สุดแล้ว ซีรีส์เรื่องนี้ ก็แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของเหล่าแม่หม้ายที่น่าสงสารกับการดิ้นรนเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่อย่างสงบสุข บางครั้งอาจจะต้องมีการต่อสู้เกิดขึ้นก็ตาม ซึ่งแนวคิดเกี่ยวกับคุณค่าของผู้หญิงที่ต้องสูญเสียสามีสามารถสะท้อนออกมาผ่านตัวละครต่างๆ ได้อย่างสมจริง ทำให้ผู้ชมสามารถเห็นความสำคัญและสิทธิในการใช้ชีวิตของแม่หม้ายเหล่านั้นอีกด้วย

The Tale of Nokdu

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

ซีรีส์เกาหลี “Terius Behind Me”

ซีรีส์เกาหลี “Terius Behind Me” บทบาทของหน่วยงาน NIS vs. หน่วยงาน KIS

“Terius Behind Me” หรือ “My Secret, Terius” หรือ “เทริอุส สายลับพี่เลี้ยง” เป็นซีรีส์เกาหลีแนวโรแมนติกดราม่า/สืบสวนสอบสวน เขียนบทโดยโอ จียอง (Oh Ji-Young) กำกับโดยพัค ซังฮุน (Park Sang-Hun) ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 กันยายน ปี ค.ศ. 2018 ผ่านสถานีโทรทัศน์ช่อง MBC ปัจจุบันสามารถรับชมได้ทางแพลตฟอ ร์มออนไลน์ ได้แก่ Viu Netflix WeTV เป็นต้น มีนักแสดงนำมากฝีมือ ได้แก่ โซ จีซบ (So Ji-Sub) รับบทเป็นคิมบน อดีตเจ้าหน้าที่ของหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ, จอง อินซอน (Jung In-Sun) รับบทเป็นโก แอริน คุณแม่ลูกแฝดที่สูญเสียสามีไปอย่างกระทันหัน นอกจากนี้ยังมีนักแสดงสมทบอีกมากมาย

Terius Behind Me
Terius Behind Me

          “Terius Behind Me” บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับโก แอริน ที่ต้องการพี่เลี้ยงเด็กมาช่วยแบ่งเบาภาระในการเลี้ยงลูกฝาแฝดชายหญิงของเธอ หลังจากที่เธอสูญเสียสามีที่เป็นเสาหลักของครอบครัวไป คิมบน ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่อยู่ตรงข้ามจึงอาสาช่วยเหลือเธอโดยบังเอิญ และเขายังมีเบาะแสเกี่ยวกับการเสียชีวิตของสามีเธออีกต่างหาก เรื่องวุ่นๆ จึงเกิดขึ้นกับอดีตเจ้าหน้าที่ของหน่วยข่าวกรองแห่งชาติอย่างคิมบนที่ต้องตามหาหลักฐานเพ่ือจับตัวคนร้ายไปพร้อมกับเลี้ยงลูกฝาแฝดของเพื่อนบ้าน โดยเขาได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ของหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ (เกาหลีใต้) ในการสืบหาข้อมูล อีกทั้งยังได้รับความช่วยเหลือจากผู้คนที่อาศัยอยู่ใน “คิงส์อพาร์ทเม้นท์” ซึ่งเป็นบ้านของพวกเขาอีกด้วย

Terius Behind Me
Terius Behind Me

          ในเรื่องจะเห็นบทบาทของหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ (เกาหลีใต้) หรือ National Intelligence Service (South Korea) หรือเรียกอย่างสั้นว่า NIS ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการจัดการข้อมูลเกี่ยวกับยุทธศาสตร์และความมั่นคงของประเทศ สืบสวนสอบสวนคดีอาชญากรรมที่เกี่ยวกับข้อมูลลับที่อาจส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ โดยคิมบน เป็นอดีตเจ้าหน้าที่ที่ถูกเข้าใจผิดในเหตุการณ์ที่สายข่าวของหน่วยงานถูกฆาตกรรม เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง เขาจึงสืบหาหลักฐานอย่างลับๆ

Terius Behind Me
Terius Behind Me

          เมื่อเหตุการณ์ที่สายข่าวของหน่วยงานถูกฆาตกรรมมีความเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตอย่างปริศนาของสามีของโก แอริน ทั้งคู่จึงต้องร่วมมือกันตามหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว โดยได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงาน KIS หรือ King’s Apartment Intelligence Service ซึ่งเป็นกลุ่มแม่บ้านที่อาศัยอยู่ใน “คิงส์อพาร์ทเม้นท์” มีสมาชิกส่วนใหญ่เป็นแม่บ้านและผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น มีหน้าที่ในการดูแลความเรียบร้อยและสังเกตสิ่งผิดปกติต่างๆ โดยสื่อสารกันผ่านโซเชียลมีเดีย ด้วยเครือข่ายที่แข็งแกร่งของ KIS ทำให้พวกเขาสามารถจับคนร้ายได้ในที่สุด

Terius Behind Me
Terius Behind Me

          ถึงแม้ว่า ในเรื่องจะถ่ายทอดให้เห็นการทำงานที่เข้มข้นและสมจริงของหน่วยงาน NIS จนสามารถหาหลักฐานและจับคนร้ายตัวจริงได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า หน่วยงาน KIS หรือกลุ่มแม่บ้านก็มีส่วนสำคัญในการปฏิบัติการดังกล่าวอีกด้วย

Terius Behind Me

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Cr.VIU

Categories
series

“18 Again”

“18 Again”เวอร์ชันเกาหลีใต้ กับการรีเมคมาจากภาพยนตร์ “17 Again” เวอร์ชันอเมริกัน

“17 Again” หรือ “17 ขวบอีกครั้ง กลับมาแก้ฝันให้เป็นจริง” ภาพยนตร์แนวตลก-แฟนตาซีจากสหรัฐอเมริกา กำกับโดยเบอร์ สเตียร์ส (Burr Steers) ฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2009 นำแสดงโดย (Zac Efron) รับบทเป็นไมค์ โอดอนเนลล์ (Mike O’Donnell) หรือมาร์ค โกลด์ Mark Gold ตอนอายุ 17 ปี, แมทธิว เพอร์รี่ (Matthew Perry) รับบทเป็นไมค์ โอดอนเนลล์ (Mike O’Donnell) ตอนอายุ 37 ปี, เลสลี่ มันน์ (Leslie Mann) รับบทเป็นสการ์เล็ต โอดอนเนลล์ (Scarlet O’Donnell) ตอนอายุ 37 ปี และยังมีนักแสดงอีกมากมาย

18 Again
18 Again

          “18 Again” หรือ “ย้อนรัก ย้อนวัยฝัน” ซีรีส์เกาหลีแนวโรแมนติกแฟนตาซีที่นำภาพยนตร์อเมริกันชื่อดังอย่าง “17 Again” มารีเมคใหม่เป็นเวอร์ชันเกาหลีใต้ เขียนบทซีรีส์โดยคิม โดยอน (Kim Do-Yeon), อัน อึนบิน (An Eun-Bin), ชเว อีรยอน (Choi Yi-Ryun) กำกับโดยฮา บยองฮุน (Ha Byung-Hoon) ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2020 ทางช่อง JTBC นำแสดงโดยอี โดฮยอน (Lee Do-hyun) รับบทเป็นฮง แดยอง (Hong Dae-young) หรือโก อูยอง (Go Woo-young) ตอนอายุ 18 ปี, ยุน ซังฮยอน (Yoon Sang-hyun) รับบทเป็นฮง แดยอง (Hong Dae-young) ตอนอายุ 37 ปี, คิม ฮานึล (Kim Ha-neul) รับบทเป็น จอง ดาจอง (Jung Da-jung) ตอนอายุ 37 ปี และยังมีนักแสดงอีกมากมาย

18 Again
18 Again

          ทั้งสองเวอร์ชันเริ่มต้นด้วยประเด็นที่เหมือนกัน นั่นคือ ความสัมพันธ์ที่ระหองระแหงของสองสามีภรรยาในวัย 37 ปี โดยที่ทั่งคู่มีลูกแฝดชายหญิงด้วยกัน 2 คน นอกจากปัญหาความสัมพันธ์แล้ว ไมค์ โอดอนเนลล์ หรือฮง แดยอง ยังประสบปัญหาเรื่องงานอีกด้วย เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันทำให้เขากลายร่างเป็นตัวเองในช่วงวัยรุ่น (รุ่นราวคราวเดียวกับลูกๆ ของตัวเอง) ทำให้เขาอยากที่จะกลับไปแก้ไขในสิ่งที่เขาคิดว่าเคยตัดสินใจผิดพลาด จึงสมัครเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนสนิท เขาได้ทำความรู้จักกับลูกๆ ของตัวเองในแบบที่เขาไม่เคยได้รับรู้มาก่อน จนในที่สุดก็มาถึงจุดที่เขาจะต้องตัดสินใจว่าจะเลือกเส้นทางชีวิตในแบบเดิมหรือแบบใหม่ ซึ่งในทั้งสองเวอร์ชันก็นำเสนอออกมาในทางเดียวกัน

18 Again
18 Again

          แต่ก็มีประเด็นที่แตกต่างกันในสองเวอร์ชันดังกล่าว นั่นคือ เวอร์ชันซีรีส์ของเกาหลีใต้ได้มีการปรับเพิ่มอายุของตัวละครเอกไปอีกหนึ่งปี เนื่องจากในเกาหลีใต้นั้นจะนับอายุของทารกตั้งแต่วันที่เกิดเป็น 1 ขวบนั่นเอง นอกจากนี้ ด้วยความที่เวอร์ชันภาพยนตร์ของอเมริกันนั้นมีเวลาในการถ่ายทอดเนื้อหาที่ค่อนข้างสั้นและกระชับ แต่เมื่อมีการนำมาสร้างเป็นเวอร์ชันซีรีส์ซึ่งมีจำนวนตอนทั้งสิ้น 16 ตอนนั้น (ตอนละประมาณ 1 ชั่วโมง) ก็ย่อมต้องมีการเพิ่มตัวละครและรายละเอียดเพิ่มเติมเข้าไปด้วย

18 Again
18 Again

          ถึงแม้ว่าทั้งสองเวอร์ชันจะมีแกนเนื้อเรื่องหลักเดียวกัน แต่ผู้ชมจะได้เห็นสองวัฒนธรรมที่แตกต่างกันระหว่างอเมริกันและเกาหลีใต้ นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าทั้งสองเวอร์ชันจะเป็นภาพยนตร์/ซีรีส์แนวแฟนตาซีที่มีความตลก แต่ก็ไม่พลาดที่จะถ่ายทอดให้เห็นถึงประเด็นปัญหาชีวิตและครอบครัว ทำให้ได้ข้อคิดในการดำเนินชีวิตและข้อเตือนใจว่า ในชีวิตจริงนั้นเราไม่มีทางที่จะได้รับโอกาสในการกลับไปแก้ไขข้อผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ดังนั้นจึงควรใช้ชีวิตในปัจจุบันให้ดีที่สุด

18Again

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Cr.viu