Categories
series

รีวิวซีรีส์ Delete season 1: ซีรีส์ไทยพลอตสุดล้ำ สามารถเล่าเรื่องได้อย่างน่าติดตาม

ผลงานซีรีส์ไทยเรื่องล่าสุดจาก Netflix ที่เป็นการร่วมสร้างกับ GDH กำกับ และร่วมเขียนบทโดย ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ (Homestay) พร้อมได้ทีมนักแสดงไทยหน้าใหม่มากฝีมือมาร่วมแสดงนำ ไม่ว่าจะเป็น ณัฏฐ์ กิจจริต (Appwar แอปชนแอป), ฟ้า-ษริกา สารทศิลป์ศุภา (ขุนพันธ์ 3), ไอซ์ซึ-ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์ (One for the Road), ออกแบบ-ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง (Hunger) และ ปีเตอร์-นพชัย ชัยนาม (แสงกระสือ 2)

เรื่องราวของ Delete จะว่าด้วย ลิลลี่ (ฟ้า-ษริกา) และ เอม (ณัฏฐ์ กิจจริต) คู่รักที่แอบคบกันอย่างลับๆ เพราะทั้งสองต่างมีคู่ครองอยู่แล้ว โดย ลิลลี่ ได้เป็นภรรยาของ ทู (ไอซ์ซึ-ณัฐรัตน์) ชายหนุ่มเจ้าของฟาร์มม้าผู้ร่ำรวย และมากอิทธิพล ในขณะที่ทั้ง เอม และลิลลี่ กำลังกังวลว่าความลับเรื่องการคบชู้จะถูกเปิดเผย ลิลลี่ ก็ได้รับมือถือปริศนาจากเด็กหญิงคนหนึ่ง ที่คุณสมบัติมันคือเพียงถ่ายรูปใคร คนๆ นั้นก็จะหายไป ลิลลี่ และเอม เลยวางแผนที่จะใช้มือถือเครื่องนี้ในการลบคนรักของตน แต่ทว่าได้เกิดเหตุไม่คาดฝันที่นำมาสู่การสืบสวน ไล่ล่าสุดเข้มข้น

ความน่าสนใจของซีรีส์ Delete คือการที่ซีรีส์มาพร้อมพลอตที่มีความเฉพาะตัว มีความเป็นหนังไซไฟ ระทึกขวัญ ที่สามารถเล่นกับเงื่อนไขต่างๆ ของตนเองได้อย่างสนุก น่าติดตาม ชวนให้นึกถึงซีรีส์แนว Black Mirror ประกอบกับความที่ซีรีส์ได้อิสระในการสร้างจาก Netflix ที่สามารถสร้างสรรค์เนื้อหาได้อย่างเต็มที่ทั้งความดาร์ก และงานโปรดักชันที่มีคุณภาพกว่าซีรีส์ทีวีทั่วไป

ตัวซีรีส์มีการเล่าเรื่องแบบหลายเส้นเรื่อง หลายมุมมอง เพื่อให้บทบาทของแต่ละตัวละครมีความเท่าเทียมกัน โดยผู้ชมจะได้เห็นทั้งมุมที่ดี และมุมมืดของตัวละครแต่ละตัว ทำให้ในเรื่องแทบไม่มีตัวละครไหนที่ขาว หรือดำสนิท ซีรีส์ได้ใช้มือถือที่ทำให้คนหาย เป็นตัวขับเคลื่อนให้ตัวละครเหล่านั้นแสดงด้านมืด หรือด้านดีออกมา

ในด้านการเล่นกับพลอต มือถือที่ทำให้คนหาย ตัวซีรีส์ก็ใช้งานได้อย่างคุ้มค่า ด้วยการสร้างเงื่อนไข และกฎการใช้งานต่างๆ ที่ทำให้การเล่าเรื่องในแต่ละตอนมีชั้นเชิง ชวนลุ้นระทึกมากยิ่งขึ้น แต่จุดที่เป็นปัญหาคือการที่ในเนื้อหาของซีรีส์ไม่ได้หาจุดเฉลยที่มาของมือถือ ราวกับต้องการทิ้งปมไว้สำหรับซีซั่นต่อๆ ไป

นอกจากนี้พาร์ทสืบสวนของซีรีส์ Delete ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีไม่แพ้ซีรีส์ตะวันตก ตัวซีรีส์ได้ปูปมปริศนา และสอดแทรกสิ่งของ หรือหลักฐาน ที่นำพาไปสู่การไขคำตอบที่ชวนตื่นเต้น และหักมุมมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงท้ายของเรื่องที่เต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์แบบที่คอหนังสืบสวนน่าจะชื่นชอบไม่น้อย

โดยรวม Delete เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ไทยคุณภาพ ที่มาพร้อมพลอตที่แปลกใหม่ การดำเนินเรื่องที่สนุก ชวนลุ้น จนอยากดู 8 ตอนรวดเดียวจบ พร้อมทั้งปูตอนจบสุดค้างคา ที่ชวนให้คนดูไปลุ้นกันต่อในซีซั่นที่ 2

สามารถรับชมซีรีส์ Delete ได้แล้ววันนี้ที่ Netflix

Cr.ภาพ: Netflix

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

รีวิวซีรีส์ The Days: มินิซีรีส์จากญี่ปุ่นที่สร้างจากเหตุการณ์จริงสุดระทึก

ผลงาน Limited Series สัญชาติญี่ปุ่นจาก Netflix ที่ครั้งนี้เป็นงานที่ดัดแปลงจากเหตุการณ์จริงเมื่อปี 2011 ในช่วงที่ญี่ปุ่นได้เกิดเหตุแผนดินไหวครั้งร้ายแรงที่สุด และได้เกิดสึนามิพัดเข้าชายฝั่งบริเวณโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิ ซึ่งจากความเสียหายดังกล่าวทำให้เกิดความรั่วไหลของรังสีนิวเคลียร์ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่โรงงานไฟฟ้าในขณะนั้นต้องร่วมกันใช้เวลานานกว่า 7 วันหาทางยับยั้งความเสียหานครั้งนี้ ที่อาจส่งผลให้ญี่ปุ่นกลายเป็นเชอร์โนบอลแห่งที่สองได้

The Days นับว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ภัยพิบัติจากญี่ปุ่นที่มาพร้อมงานโปรดักชันระดับเทียบเท่าหนังใหญ่ และการเล่าเรื่องที่เน้นความสมจริงไม่แพ้หนังฮอลีวูด โดยตลอดทั้ง 8 ตอนของซีรีส์เรื่องนี้จะเป็นการพาคนดูไปสำรวจกับช่วงเวลาทั้ง 7 วันของเจ้าหน้าที่โรงงานไฟฟ้า ที่ต้องทำภารกิจเสียสละเพื่อชาติ อย่างละเอียดผ่านทุกมุมมองที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ระดับปฎิบัตืการณ์, ผู้จัดการโรงงาน ไปจนถึงนายกรัฐมนตรี

งานโปรดักชันซีรีส์สามารถถ่ายทอดฉากภัยพิบัติออกมาได้อย่างสมจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากทำภารกิจชวนระทึกในโรงงานไฟฟ้า ที่ทำออกมาได้อย่างละเอียด เก็บทุกดีเทลล์ ชวนให้นึกถึงซีรีส์อย่าง Chernobyle ของ HBO ที่เคยทำให้คนดูเคยหวาดกลัวกับอันตรายของรังสีนิวเคลียร์มาแล้ว ในเรื่องนี้ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน

จุดเด่นของซีรีส์ The Days คือวิธีการเล่าเรื่องที่เต็มไปด้วยบทสนทนา อละศัพท์วิยาศาสตร์มากมาย แต่ซีรีส์สามารถถ่ายทอดให้คนดูสามารถเข้าใจถึงบริบทของเรื่องได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้การสนทนาในเรื่องยังถ่ายทอดถึงรูปแบบการทำงาน และการรับมือภัยพิบัติของคนญี่ปุ่น ที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด รวมถึงสะท้อนอุดมการณ์ความเป็นชาตินิยมของเหล่าตัวละครที่พร้อมเสียสละตนเองเพื่อประเทศชาติ ที่สร้างอารมณ์ร่วมกับคนดูได้เป็นอย่างดี

อีกหนึ่งสิ่งที่น่าชื่นชมของซีรีส์ชุดนี้คือการที่ซีรีส์เลือกทีมนักแสดงส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่ดาราดัง ที่เพิ่มความสมจริงให้ซีรีส์ชุดนี้มากขึ้นไปอีก ซึ่งทีมนักแสดงทั้งตัวละครหลัก และสมทบต่างก็ถ่ายทอดบทบาทออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ราวกับว่าผู้ชมกำลังได้เห็นการทำงานของผู้คนในเหตุการณ์นั้นจริงๆ

ในด้านข้อเสียของซีรีส์ คือความยาว 8 ตอนที่ค่อนข้างยืดยาวเกินจำเป็นไปพอสมควร แม้ว่าซีรีส์จะพยายามใส่ทุกดีเทลล์ที่ควรมี แต่ด้วยการเล่าเรื่องที่เต็มไปด้วยบทสนทนาที่เน้นด้านวิทยาศาสตร์ ทำให้คนดูอาจเข้าถึงเนื้อหาทั้งหมดได้ยาก จนทำให้ระหว่างเรื่องของบางตอนค่อนข้างน่าเบื่อไปบ้าง

อย่างไรก็ตาม The Days ก็นับว่าเป็นซีรีส์ที่สร้างจากเรื่องจริงของญี่ปุ่น ที่ทำออกมาได้ดีเยี่ยมไม่แพ้ Chernobyle ซีรีส์สามารถนำเสนอเหตุการณ์ภัยพิบัติผ่านทุกรายละเอียด รวมถึงการมอบบทสรุปที่ชวนจุกอกต่อคนดูได้ไม่น้อย ใครที่ชอบซีรีส์ที่สร้างจากเรื่องจริง เนื้อหาเข้มๆ ดาร์กๆ นี่เป็นอีกเรื่องที่ขอแนะนำ

สามารถรับชมซีรีส์ The Days ได้แล้ววันนี้ที่ Netflix

Cr.ภาพ: Netflix

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

รีวิวซีรีส์ Black Knight: ซีรีส์เกาหลีขายงานโปรดักชั่นฟอร์มยักษ์

ผลงานซีรีส์ฟอร์มยักษ์จากเกาหลีเรื่องล่าสุดที่เข้าฉายใน Netflix ซึ่งครั้งนี้เป็นซีรีส์แนวดิสโทเปียที่ว่าด้วยโลกในปี 2071 เมื่อโลกได้ถูกดาวหางพุ่งชนจนทำให้ทั้งโลกกลายเป็นทะเลทราย อากาศเต็มไปด้วยฝุ่น ผู้คนต้องใส่หน้ากากเพื่อใช้ชีวิตข้างนอก

หนังจะโฟกัสไปที่ประเทศเกาหลี ที่ได้มีการแบ่งสังคมออกเป็นคนที่อยู่ใต้ดิน ที่สามารถใช้ชีวืตอน่างปลอดภัย สุขสบาย และคนที่ลี้ภัย หรือคนที่ไม่มีที่อยู่ ต้องอาศัยการปล้นหน้ากาก และถังออกซิเจน เพื่อเอาชีวิตรอด อาชีพเดียวที่เป็นความหวังของผู้คนคือคนส่งออกซิเจน ที่คอยนำออกซิเจนไปแจกจ่ายให้คนในทั่วทุกเขตอย่างเท่าเทียม

ความน่าสนใจของ Black Knight คือการเป็นหนึ่งในไม่กี่ซีรีส์เกาหลีที่สามารถใช้คำว่า ฟอร์มยักษ์ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ ตัวซีรีส์มาพร้อมงานโปรดักชั่นที่เทียบเท่าฮอลลีวูด ด้วยการสร้างโลกอนาคตดิสโทเปียที่เต็มไปด้วยทะเลทราย ออกมาได้อย่างสมจริง ราวกับหนัง Blade Runner 2049 หรือ Mad Max: Fury Road โดยซีรีส์ใส่ใจรายละเอียดในแทบทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นการจำลองบรรยากาศของโลกอนาคตที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี และการทำให้คนดูได้เห็นภาพสังคมอนาคต ว่าจะเป็นอย่างไรหากโลกเต็มไปด้วยมลภาวะ

นอกจากการจำลองโลกดิาโทเปียที่ยิ่งใหญ่ สมจริงแล้ว อีกสิ่งที่ซีรีส์ Black Knight สามารถทำออกมาได้ดีมากๆ คือฉากแอ็คชัน ที่ซีรีส์มีมาให้ครบทุกรสชาติ ทั้งฉากยิงกันแบบหูดับตับไหม้ หรือฉากขับรถไล่ล่า และฉากต่อสู้ด้วยมือเปล่า โดยเฉพาะหากใครที่เป็นแฟนคลับ คิมวูบิน (Our Blues) ในเรื่องนี้จะได้เห็นเขาโชว์ลีลาบู๊ในมาดสุดเท่ ที่พูดน้อยต่อยหนัก และเป็นตัวเอกที่มีความเป็น Anti Hero ที่น่าจดจำมากๆ

ปัญหาของ Black Knight คือด้านบทของซีรีส์ ที่เต็มไปด้วยจุดบอดที่เห็นอย่างชัดเจน ซีรีส์พยายามยัดประเด็นมากมายเข้าไปในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นความเหลื่อมล้ำ ไซไฟ การทดลองมนุษย์ จนทำให้ซีรีส์ไปไม่สุดสักทาง โดยเฉพาะการชูประเด็นเรื่องการเมืองที่ซีรีส์เลือกหยิบมาเล่าแต่ผิวเผิน ทั้งๆ ที่สามารถเล่าได้สุดกว่านี้  รวมทั้งตัวละครในเรื่องที่ขาดมิติ ที่ทำให้คนดูรู้สึกร่วมไปกับเรื่องราวได้

โดยรวม Black Knight เป็นอีกหนึ่งซีรีส์เกาหลีที่สามารถสะท้อนถึงพัฒนาการของอุตสาหกรรมภาพยนตร์เกาหลีใต้ได้ดีมากๆ ด้วยโปรดักชันที่ดูดี เก็บทุกรายละเอียดของความเป็นหนังวันสิ้นโลก แม้ด้านบทจะเต็มไปด้วยปัญหา แต่หากใครที่ชอบซีรีส์เน้นดูเอามันส์ เอาบันเทิง นี่เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาด

สามารถรับชมซีรีส์ Black Knight ได้แล้ววันนี้ที่ Netflix

Cr.ภาพ: HanCinema

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

รักยิ้มของเธอ ซีรี่ย์รักสดใสในโลกกีฬาออนไลน์จาก WeTV

“ลู่ซือเฉิน พี่เผด็จการจริงๆ” คำที่สาวน้อยถงเหยาพูดด้วยความอัดอั้นตันใจแทบตลอดเรื่อง ในขณะที่อีกฝ่ายมักจะเรียกเธอว่า ยายเตี้ย และมักจะถามถงเหยาว่า “สมองมีรอยหยักหรือเปล่า” เรียกรอยยิ้มจากผู้ชมได้ทุกตอนเพราะว่าภายใต้ท่าทางเย็นชาของลู่ซือเฉินทุกคนสามารถรับรู้ได้ถึงความห่วงใยที่ปกปิดเอาไว้

ซีรี่ส์ รักยิ้มของเธอ (Falling into your smile) เปิดตัวด้วยเรื่องราวของสาวน้อยถงเหยา เกมเมอร์สตรีมมิ่งมีแฟนคลับพอสมควร เธอเริ่มเล่นเกมเพราะแฟนเก่าชื่อ เจี่ยนหยาง ที่ได้กลายเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตระดับประเทศ จนสุดท้ายก็เลิกราเพราะเจี่ยนหยางขาดการติตต่อหายไปจากชีวิต

วันหนึ่งถงเหยาถูกทดสอบในระหว่างการเล่นเกมออนไลน์โดยไม่รู้ตัว หลังจากนั้น ZGDX หนึ่งในทีมอีสปอร์ตชั้นนำส่งเทียบเชิญให้ถงเหยาไปเป็นหนึ่งในทีมแข่ง ถงเหยาลังเลและตัดสินใจเดินทางไปดูการแข่งของ ZGDX กับ CK ที่มีเจี่ยนหยางนำทีม ถงเหยาตัดสินใจได้ว่าจะร่วมทีมกับ ZGDX หลังจบการแข่ง

เจี่ยนหยางพยายามจะรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับเธอ แต่ในตอนนั้นถงเหยาได้จดจ่อที่จะเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตหญิงคนแรกของประเทศ แถม ZGDX ยังมี ลู่ซือเฉิน หัวหน้าทีมตัวสูงสุดหล่อขวัญใจสาวๆทั้งประเทศขวางทางอยู่

ลู่ซือเฉินเป็นคนเข้มงวดเย็นชาโดยเฉพาะกับถงเหยา  การติดต่อกับโลกภายนอกนั้นดูจะต้องผ่านการอนุมัติของเขาทุกอย่าง แถมยังเข้ามายุ่งแทบทุกเรื่อง กว่าจะมีใครทันรู้ตัวรวมทั้งถงเหยาด้วย ลู่ซือเฉิน เทพบุตรอีสปอร์ตแผนสูงก็ซึมลึกเข้ามาในหัวใจของถงเหยาเสียแล้ว

พล็อตเรื่องหนุ่มเย็นชาปากร้ายที่เพียบพร้อมทั้งสติปัญญา หน้าตาและฐานะ มาหลงรักผู้หญิงน่ารักแต่เตี้ย-หุ่นไม่ดี-กินเก่ง-ใสซื่อ-ท่าทางเปิ่นๆ พูดจาตรงไปตรงมา เป็นพล็อตฟินเนอเร่สูตรสำเร็จที่ใช้ได้ผลดีแทบทุกครั้ง และครั้งนี้ก็เช่นกัน

แม้ว่าเฉิงเซียวที่รับบท ถงเหยา นอกจากจะสวย ไม่เตี้ย ไม่อ้วน แต่ด้วยวิธีการแสดงของเธอดูแล้วน่าเชื่อมากกับการเป็นผู้หญิงไม่โดดเด่นแต่ดูไปดูมาก็น่ารักจนทำให้คนหล่อๆมากมายมาขายขนมจีบ ในขณะที่การมีสวีข่ายผู้รับบทเป็นลู่ซือเฉินเป็นคนตัวสูงมากและยังหน้าตาดีแบบไม่ต้องตั้งคำถาม ทำให้เฉิงเซียวเหมาะกับการเป็นยายเตี้ยของลู่ซือเฉินจริงๆ

แม้ว่าพล็อตรองของเหล่านางรองพระรองไม่ค่อยโดดเด่นมากนักแต่ก็ไม่สำคัญอะไร เพราะพล็อตหลักดึงดูดคนดูอยู่หมัด

ในด้านงานโปรดักชั่นไม่มีอะไรต้องติเลย การแข่งขันเกมออนไลน์จะดูน่าสนุกสมจริงดีมาก แต่ที่น่าสนใจคือสาระที่สอดแทรกระหว่างบรรทัดเกี่ยวกับอีสปอร์ตที่เรื่องนี้ได้เปิดเผยเรื่องราวของนักกีฬาชนิดนี้ในมุมมองที่คนทั่วไปอาจจะไม่รู้จัก

แต่แน่นอนว่าคนที่ไม่รู้จักหรือไม่ได้เข้าใจอะไรเลยกับกีฬาอีสปอร์ตอาจจะกลัวๆว่าจะดูไม่รู้เรื่อง แต่ว่าการไม่รู้อะไรเลยก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไรในการดู แนะนำว่าทำใจร่มๆดูฉากการต่อสู้ไปแบบผ่านๆ ค่อยๆเรียนรู้ไปกับเรื่องราวก็ได้ ไม่ต้องซีเรียส เพราะว่าอันที่จริงทุกคนก็รอลุ้นเด็กใหม่เปิ่นๆกับบอสสุดโหดว่าจะลงเอยกันอย่างไรได้มากกว่า..จริงมั้ย

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

รีวิวซีรีส์ Gannibal ซีรีส์ระทึกขวัญ สืบสวน

Gannibal เป็นผลงานซีรีส์ Original Disney+ Hotstar จากประเทศญี่ปุ่น ที่ดัดแปลงมาจากมังงะงานเขียนโดย มาซากิ นิโนมิยะ โดยจะว่าด้วยเรื่องราวของ ไดโกะ อากาวะ (ยูยะ อากิระ) นายตำรวจที่เข้ามารับตำแหน่งในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งเขาได้ย้ายมาพร้อมกับครอบครัว ที่ประกอบไปด้วยภรรยา และลูกสาว

แต่หลังจากที่ย้ายมารับตำแหน่งได้ไม่นาน ไดโกะ ก็ได้พบกับคดีการหายตัวไปของเจ้าหน้าที่ตำรวจคนก่อนหน้า รวมทั้งเขายังได้พบว่าในหมู่บ้านนี้ได้มีครอยครัวมากอิทธิพลอย่างครอบครัวโกโต ที่มีข่าวลือว่าเป็นครอบครัวที่กินคน และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไดโกะ เลยต้องลงมือสืบคดีนี้ แต่เมื่อยิ่งสืบไปเรื่อยๆ เขาก็พบกับอันตราย และเรื่องดำมึดมากมายที่หมู่บ้านนี้ซ่อนอยู่

Gannibal มาพร้อมการดำเนินเรื่องแบบซีรีส์สืบสวน ระทึกขวัญ โดยจะเน้นการเล่าเรื่องที่มีความสมจริง มีกลิ่นอายของความเป็นฟิล์มนัวร์ ที่ตัวละครจะไม่มีใครเป็นตัวดี หรือตัวร้าย ร้อยเปอร์เซ็นต์ ความน่าสนใจของซีรีส์คือการสร้างบรรยากาศความลึกลับ น่ากลัว ของหมู่บ้านออกมาได้อย่างชวนติดตาม ชวนให้ค้นหาว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

ในแง่ของการสืบสวน ความระทึกขวัญ ซีรีส์ทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ซีรีส์นำเสนอเหตุการณ์ผ่านมุมมองของตัวละครไดโกะ ที่เป็นคนหาความจริงได้สนุก เข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นการตามล่าหาความจริงแบบไม่หวั่นกลัว รวมทั้งฉากแอ็คชั่นที่สอดแทรกระหว่างเรื่องที่มาพร้อมคิวบู๊สุดเดือด ทำให้ตลอด 7 ตอนของซีรีส์เรื่องนี้แทบไม่มีฉากน่าเบื่อให้ง่วงเหงาหาวนอน

ด้านงานโปรดักชั่นของซีรีส์ ก็เป็นอีกหนึ่งจุดขายของซีรีส์ เพราะใน Gannibal ตัวซีรีส์มีฉากน่ากลัว ฉากสยดสยอง ที่ทำได้อย่างสมจริง โดยเฉพาะการออกแบบฉากกลางคืน ฉากพิธีกรรมต่างๆ ที่เพิ่มอรรถรสความสยองขวัญได้อย่างดีเยี่ยม

ในส่วนของข้อด้อยของซีรีส์ คือการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างกระชับเกินไป ทั้งๆ ที่เนื้อหาของซีรีส์มีดีเทลล์ ที่สามารถเล่าได้มากกว่านี้ แต่ด้วยจำนวนตอนที่น้อยนิด ทำให้ซีรีส์ไม่สามารถโฟกัสทุกแง่มุม ทุกตัวละครได้อย่างเต็มที่ จนทำให้บางตัวละครขาดมิติ ขาดความน่าจดจำไปอย่างน่าเสียดาย

โดยรวม Gannibal เป็นอีกซีรีส์ม้ามืดจากญี่ปุ่น ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพทั้งความโหด ความสยองขวัญ เนื้อหาการสืบสวนที่ชวนติดตาม ตลอด 7 ตอนของซีรีส์เต็มไปด้วยเนื้อหาที่ตื่นเต้น คาดเดาไม่ได้ และไต่ระดับความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ แบบที่คอหนังระทึกขวัญไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

สามารถรับชมซีรีส์ Gannibal ได้แล้ววันนี้ที่ Disney+ Hotstar

Cr.ภาพ: IMDB

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

รีวิวซีรีส์ The Glory Part 1

The Glory เป็นผลงานซีรีส์แนวระทึกขวัญจากเกาหลี เรื่องล่าสุดจาก Netflix ที่ยังคงเป็นอีกหนึ่งงานที่หยิบประเด็นยอดนิยมอย่างการบูลลี่ในโรงเรียนมาถ่ายทอด ผ่านวิสัยทัศน์ของผู้กำกับอย่าง กิลโฮอัน (Stranger) และมือเขียนบทอย่าง คิมอึนซุก (Descendants of the Sun) พร้อมได้นักแสดงมากฝีมือของเกาหลีอย่าง ซงเฮเคียว (Descendants of the Sun) มารับบทนำ

เรื่องราวของ The Glory จะว่าด้วย มุนดงอึน (ซงเฮเคียว) หญิงสาวที่ถูกเพื่อนในชั้นเรื่องรุมรังแกอย่างโหดร้าย ทารุณ มาตลอดช่วงชีวิต ม.ปลาย จนเธอเกือบที่จะจัดสินใจคิดสั้น แต่ด้วยความคั่งแค้นที่สะสม ทำให้ ดงอึน เลือกที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป และใช้เวลากว่า 10 ปี ในการวางแผนล้างแค้นอดีตเพื่อนร่วมชั้นที่เคยทำร้ายเธอ ด้วยวิธีที่แยบยล และเลือดเย็น

แม้ว่าพลอต และโครงเรื่องของซีรีส์จะชวนให้นึกถึงหนัง หรือละครแนวล้างแค้นอย่าง “ล่า” ของไทย แต่ทว่า The Glory กลับแตกต่างจากเรื่องดังกล่าว ด้วยการที่เป็นซีรีส์แนวล้างแค้นที่มีมากกว่าการเข่นฆ่า หรือความโหดร้ายเลือดเย็น โดยในซีรีส์ใช้วิธีนำเสนอการล้างแค้นในรูปแบบของการเดินเกมหมากล้อม ที่ตัวละคร ดงอึน จะทำหน้าที่ค่อย ๆ ต้อนให้เหล่าเหยื่อการล้างแค้นของเธอจนมุม ด้วยการวางแผนที่แนบเนียน และเต็มไปด้วยชั้นเชิง

ใครที่หวังจะดูซีรีส์ล้างแค้นเอามันส์ เอาความสะใจแบบเน้น ๆ อาจผิดหวังเล็กน้อย เพราะในตลอด 8 ตอนของ Part 1 ซีรีส์เลือกที่จะดำเนินเรื่องผ่านทั้งเส้นเรื่องของดงอึน และเหล่าตัวละครวายร้ายของเรื่อง ทำให้ซีรีส์ไม่ได้โฟกัสที่การล้างแต้นเพียงอย่างเดียว แต่ยังพาคนดูไปสำรวจชีวิตของเหล่าตัวละครในเรื่อง ที่แต่ละตัวละครต่างเผชิญชะตากรรมที่แตกต่างกันไป

การเล่าเรื่องของซีรีส์ดำเนินเรื่องออกมาได้ชวนติดตาม ตัวซีรีส์ยังเป็นอีกเรื่องที่หยิบประเด็นยอดนิยมของเกาหลีอย่างการบูลลี่ในโรงเรียน ซึ่งในเรื่องนี้ถ่ายทอดความรุนแรงออกมาได้อย่างถึงอารมณ์ ซีรีส์เต็มไปด้วยฉากรุนแรงที่ชวนสะเทือนใจ ด้วยเหตุนี้ทำให้ซีรีส์สามารถสร้างอารมณ์ร่วมระหว่างคนดู กับตัวละคร ดงอึนได้อย่างดีเยี่ยม รวมถึงทำให้คนดูอยากติดตามต่อไปว่าการล้างแค้นของดงอึน จะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน

ด้านการแสดง ซงเฮเคียว สามารถถ่ายทอดบทบาทของหญิงสาวที่มีบาดแผลได้อย่างดีเยี่ยม เป็นบทที่เธอต้องสลัดลุ้คสาวหวาน สู่หญิงสาวผู้เย็นชาที่พูดน้อยแต่ว่าทุกบทสนทนา และแผนการของเธอกลับเต็มไปด้วยทีเด็ดที่สามารถตรึงคนดูได้อยู่หมัด

โดยรวม The Glory เป็นอีกหนึ่งซีรีส์เกาหลีแนวระทึกขวัญ ที่ทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม และมีความแปลกใหม่กว่าหนังหรือซีรีส์แนวล้างแค้นทั้วไป ด้วยแผนการ และบทสนทนาที่ถ่ายทอดได้อย่างมีชั้นเชิง เต็มไปด้วยการหักมุม และการสับขาหลอกที่เหนือชั้น พร้อมปูทางสู่บทสรุปใน Part 2 ได้อย่างน่าติดตาม

สามารถรับชมซีรีส์ The Glory Part 1 ได้แล้ววันนี้ที่ Netflix

Cr.ภาพ: Netflix

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

รีวิวซีรีส์ Connect ซีรีส์สืบสวน

ผลงานซีรีส์เกาหลีแนวสืบสวน ผสมแฟนตาซี ที่เป็นงาน Original ของ Disney+ ที่รับหน้าที่กำกับโดยมือสร้างหนังสายโหดสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง ทาเคชิ มิอิเกะ (Ichi the Killer) พร้อมได้ทีมนักแสดงเกาหลีมากฝีมือ นำทีมโดย จุงแฮอิน (ซีรีส์ Start-Up), โกคยุงเพียว (ซีรีส์ 1988) และ คิมแฮจุน (ซีรีส์ Kingdom)

Connect จะว่าด้วยเรื่องราวของ ฮาดองซู (จุงแฮอิน) ชายหนุ่มที่ต้องใช้ชีวิตแปลกแยกจากสังคม เนื่องจากเขานั้นคือ ‘คอนเนค’ หรือบุคคลที่มีความสามารถพิเศษที่ร่างกายจะเป็นอมตะ สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ ไม่ว่าจะบาดเจ็บรุนแรงแค่ไหน จนกระทั่งวันหนึ่ง ดองซู ได้ถูกกลุ่มนักค้าอวัยวะจับตัวไป แต่ด้วยความสามารถพิเศษของเขาทำให้ ดองซูรอดชีวิตมาได้ แต่ดวงตาข้างหนึ่งของเขาได้ถูกปลูกถ่ายไปให้กับฆาตกรต่อเนื่อง ทำให้ ดองซู มีความสามารถในการมองเห็นเชื่อมต่อดวงตากับฆาตกร ดองซูเลยต้องทำทุกวิถีทางเพื่อตามล่าฆาตกรผู้นี้ และทวงคืนดวงตาของเขากลับมาอีกครั้ง

นับว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์เกาหลี ที่ยังสามารถหยิบความเป็นแนวสืบสวนสอบสวน อาชญากรรม มานำเสนอได้อย่างน่าสนใจ พร้อมทั้งในเรื่องนี้ยังได้ใส่ความเป็นแฟนตาซีเข้าไปเป็นลูกเล่นของซีรีส์ ที่ทำให้เนื้อหาเต็มไปด้วยลูกเล่นที่ชวนติดตาม และมีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร ซีรีส์มีการเล่นกับฉากโหด ๆ อย่างการผ่าอวัยวะ ฉากการฆ่าที่สยดสยอง โดดเด่นกว่าเรื่องอื่น ๆ โดยเฉพาะ CGI ฉากการเชื่อมร่างกายของ Connect ที่มีความน่าขนลุกขนพอง รวมถึงศพในเรื่องที่มีการออกแบบมาให้ทั้งสวยงาม และน่าสยดสยองในเวลาเดียวกัน ชวนให้นึกถึงการดีไซน์ศพในซีรีส์ Hannibal ไม่น้อย

โดยผู้ชมจะได้พบกับการตามล่า การประชันไหวพริบ ระหว่างชายที่เป็นอมตะ และฆาตกรต่อเนื่อง ที่นอกจากจะเต็มไปด้วยเหตุการณ์ชวนลุ้น ชวนให้เอาใจช่วยแล้ว ยังจะได้สนุกไปกับการสืบสวนสอบสวน  การตามล่าหาความจริงที่เข้มข้นตลอดทั้ง 6 ตอนของซีรีส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างคาแรคเตอร์ของฆาตกรต่อเนื่องในเรื่องนี้ ซึ่งมีคาแรคเตอร์ที่โดดเด่น ทั้งความโหดร้าย เลือดเย็น และมีความฉลาด ไหวพริบที่เหนือกว่าคนทั่วไป ที่ทำให้คนดูรู้สึกยำเกรง และหวาดกลัวตัวละครนี้ได้ไม่น้อย

นอกจากการสืบสวน ระทึกขวัญที่ทำออกมาได้สนุกแล้ว อีกหนึ่งจุดขายของ Connect คือการหยิบประเด็นเรื่องความแปลกแยกของคน มานำเสนอได้ค่อนข้างดี โดยซีรีส์เลือกหยิบตัวละคร ฮาดองซู เป็นเสมือนคนที่ถูกสังคมมองว่าเป็นตัวประหลาด จนถูกสังคมตัดสิน แบบไม่ยุติธรรม จนทำให้ต้องกลายเป็นคนที่โดดเดี่ยว ซึ่งประเด็นนี้ทำให้พาร์ทดราม่าของหนังทำออกมาได้ทรงพลัง และสร้างอารมณ์ร่วมกับคนดู และตัวฮาดองซูได้เป็นอย่างดี

ในส่วนของข้อเสียของซีรีส์ Connect คือการที่ซีรีส์เล่าเรื่องแบบกระชับจนเกินไป ทำให้เนื้อหาส่วนใหญ่ของซีรีส์เลือกโฟกัสไปที่การต่อสู้ของ ฮาดองซู และตัวฆาตกร จนลืมใส่ใจพาร์ทที่ควรจะเป็นการสืบสวนสอบสวน จนทำให้ความสมจริงในด้านนี้ของซีรีส์ดรอปลงอย่างเห็นได้ชัด และทำให้บทหนังบางส่วนดูไม่สมเหตุสมผลไปอย่างน่าเสียดาย

โดยรวมซีรีส์ Connect ก็นับว่าเป็นอีกซีรีส์สืบสวนจากเกาหลี ที่มีเนื้อหาเข้มข้น ที่น่าจะถูกใจคอหนัง หรือซีรีส์แนวนี้ไม่น้อย แม้การสืบสวนจะไม่ได้สมจริง หรือดีงามเหมือนเรื่องอื่น ๆ แต่ด้วยรูปแบบการเล่าเรื่องที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้สามารถมอบความบันเทิงแบบอัดแน่นตลอดทั้ง 6 ตอนได้อย่างดีเยี่ยม

สามารถรับชมซีรีส์ Connect ได้แล้ววันนี้ที่ Disney+ Hotstar

Cr.ภาพ: HanCinema

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

รีวิวซีรีส์ Kamen Rider Black Sun ผลงานฉลองครบรอบ 50 ปีคาเมน ไรเดอร์

Kamen Rider Black Sun เป็นซีรีส์ที่ทำมาเพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 50 ปี ของ Kamen Rider ที่เป็นการนำตัวละคร Kamen Rider Black กลับมาเล่าอีกครั้งในบริบทที่แตกต่างจากเดิมด้วยเนื้อหาที่มีเรท 18+ ที่มีเนื้อหา และฉากที่รุนแรง พร้อมได้นักแสดงนำอย่าง ฮิเดโตชิ นิชิจิม่า (Drive My Car) มารับบท แบล็คซัน

เรื่องราวของ Kamen Rider Black Sun จะว่าด้วยญี่ปุ่นที่ได้มีการอาศัยอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์ และไคจิน หรือผู้คนที่กลายเป็นสัตว์ประหลาดได้ ซึ่งความแปลกประหลาดของไคจินนี่เอง ก็ทำให้เกิดกลุ่มคนที่พยายามขับไล่ ไคจินให้ออกจากสังคม จนเกิดเป็นความขัดแย้งทางการเมือง เหตุการณ์ในเรื่องเริ่มขึ้นเมื่อ อาโออิ (โคโคโระ ฮิราซาวา) เด็กสาวที่ออกมาเรียกร้องความเท่าเทียมให้ไคจิน แต่เธอกลับถูกเหล่าพรรคโกลกอม กลุ่มไคจินที่หวังทำลายโลก พยายามลักพาตัวเธอเพื่อใช้หินวิเศษที่อยู่กับตัวเธอนั้น ในการปลุกพลังของผู้นำไคจิน ให้กลับมาทรงพลังอีกครั้ง คนเดียวที่จะปกป้องอาโออิ ได้นั้นคือ แบล็คซัน (ฮิเดโตชิ นิชิจิม่า) มาช่วยปกป้องเธอจากเหล่าไคจินวายร้าย

สื่งที่ทำให้ซีรีส์​​ Kamen Rider Black Sun มีความโดดเด่นกว่าซีรีส์แนวไอ้มดแดงเรื่องอื่น ๆ คือการเป็นซีรีส์ที่เปลี่ยนรูปการเล่าเรื่องให้ออกมาเป็นซีรีส์เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่อย่างเต็มตัวที่ โดยจะมีเนื้อหาที่พูดถึงการเมือง สิทธิมนุษยชน ความรุนแรง โหดร้าย ที่จะถูกเล่าเป็นเส้นเรื่องหลัก ดังนั้นแม้ว่าภาพรวมของซีรีส์จะยังเป็นการต่อสู้ของผู้ดี และผู้ร้าย แต่บริบทแวดล้อมกลับมีมิติที่น่าสนใจ และสามารถผูกโยงเรื่องราวได้อย่างยอดเยี่ยม

ในด้านฉากแอ็คชั่นของซีรีส์ ยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์ของหนังประเภท Kamen Rider ที่มีฉากแปลงร่าง ฉากต่อสู้ที่มีความเท่แบบไอ้มดแดง แต่เพิ่มเติมคือความรุนแรงที่ซีรีส์ทำออกมาได้ค่อนข้างสุดมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นฉากเลือด ๆ และวิธีการฆ่าที่โหดร้าย เลือดเย็น รวมถึงความไร้ปราณีของเนื้อเรื่องที่เต็มไปด้วยความตาย โศกนาฎกรรม ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ไม่เหมาะสำหรับเด็กอย่างยิ่ง

ด้านการเล่าเรื่องของ Kamen Rider Black Sun ตัวซีรีส์จะเล่าเรื่องโดยใส่อีสเตอร์เอ้กโยงไปยังซีรีส์ Kamen Rider Black อยู่บ้าง ทำให้ใครที่เป็นสาวกซีรีส์แนวนี้น่าจะชื่นชอบกับการเชื่อมโยงเนื้อหาของเรื่องนี้อย่างแน่นอน แต่กระนั้นหากใครที่ไม่ได้ตามซีรีส์ชุดนี้มาก่อนก็ยังสามารถดูซีรีส์ชุดนี้รู้เรื่องเช่นกัน เพราะเนื้อหาจะมีการอธิบายเหตุการณ์ทั้งหมดของเรื่องผ่านสองไทม์ไลน์

จุดด้อยของ Kamen Rider Black Sun คือการที่ซีรีส์พยายามรักษามาตรฐานความเป็นหนังไอ้มดแดงคลาสสิกจนเกินไป จนทำให้มาตรฐานงานโปรดักชันของซีรีส์ออกมาธรรมดา ชุดแปลงร่างของตัวละครที่ดูเป็นชุดยางที่ดูไม่เนียนตา และบางครั้งออกมาดูไม่น่าเกร็งขาม และดูตลกเกินไปอย่างน่าเสียดาย

โดยรวม Kamen Rider Black Sun เป็นงานที่คอซีรีส์ไอ้มดแดงน่าจะชื่นชอบ เพราะตลอด 10 ตอนของซีรีส์เรื่องนี้เต็มอิ่มด้วย กลิ่นอายของซีรีส์ไอ้มดแดงที่ทุกคนคุ้นเคย พร้อมเพิ่มเติมความเข้มข้นแบบซีรีส์ผู้ใหญ่ ที่มีความดุดัน ไร้ปราณี ใครที่ชอบซีรีส์สายโหด ๆ แอ็คชั่นดุเดือนแบบ The Boys นี่คืออีกหนึ่งซีรีส์ที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

สามารถรับชมซีรีส์ Kamen Rider Blac Sun ได้แล้ววันนี้ที่ Prime Video

Cr.ภาพ: Prime Video

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

รีวิวหนัง SLR กล้อง ติด ตาย

อีกหนึ่งหนังสยองขวัญไทยที่เข้าฉายเมื่อช่วงต้นปี 2022 ที่ผ่านมา โดยเป็นการหยิบเรื่องราวความสยองที่เกิดจากกล้องถ่ายรูปกลับมาเล่าอีกครั้ง โดยหนังจะว่าด้วย แดน (นนน กรภัทร) เด็กหนุ่มที่กำลังจะเรียนจบมหาวิทยาลัย และมีความฝันอยากเป็นช่างภาพชื่อดัง แต่ทว่าเขายังติดการทำธีสิสส่งอาจารย์

ทำให้แดน ไม่สามารถไปเรียนต่อที่อเมริกากับ น้ำ (เฌอปราง BNK48) และเกรท (นนท์-ศดานนท์) ได้ จนกระทั่งเขาก็ได้รับโอกาสที่จะสามารถทำธีสิส จบได้ดังหวัง เมื่ออาจารย์เอม (อ้น-นพพันธ์) ได้มอบกล้อง SLR ตัวหนึ่งให้กับเขา เพื่อนำไปถ่ายรูปผู้คน จนได้เป็นผลงานที่น่าพอใจ แต่ทว่าเบื้องหลังของกล้อง SLR ตัวนี้มีความลับอันน่าสะพรึงซ่อนอยู่

ตัวหนังพาพร้อมพลอต และการเล่าเรื่องที่ชวนนึกถึงหนังเรื่อง Polaroid เมื่อปี 2019 หนังอาจไม่ได้เน้นขายที่ความน่ากลัวของผี หรือวิญญาณในเรื่องมากนัก แต่จะหนักไปทางอาถรรพ์ คำสาป ที่เป็นลูกเล่นให้ตัวละครต้องหาทางแก้ไข และเอาชีวิตรอด ความพิเศษของหนังเรื่องนี้ คือการนำความเป็นหนังผีแบบไทย ๆ และปีศาจจากศาสนาคริสต์ ที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว จนสามารถสร้างรสชาติใหม่ ๆ ให้กับหนังแนวนี้ได้ไม่น้อย โดยเฉพาะช่วงท้ายเรื่อง ที่ให้อารมณ์ความหลอน ความระทึก ที่สนุกไปอีกแบบ ทั้งนี้ด้วยการเป็นหนังที่ได้มือสร้างหนังสยองขวัญรุ่นใหญ่อย่าง ก้องเกียรติ โขมศิริ (ลองของ) มารับหน้าที่อำนวยการสร้าง ที่ทำให้หนังคงไว้ซึ่งความน่ากลัวแบบหนังผียุค 90 เอาไว้

ด้านพาร์ทดราม่าเอง หนังก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดี มีการสร้างมิติของแต่ละตัวละครได้อย่างมีน้ำหนัก โดยเฉพาะตัวละครแดน ที่ผู้ชมจะได้เห็นปม และอุปสรรคในชีวิต ที่บีบบังคับตัวเขาจนกลายเป็นเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในเรื่อง ทั้งปัญหาด้านความฝัน แรงกดดันจากครอบครัว และเพื่อน ๆ รวมทั้งพาร์ทความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนทั้ง 3 ที่ออกมาในเชิง รักสามเศร้าจนเป็นอีกหนึ่งสีสันสำคัญที่ทำให้หนังเรื่องนี้ชวนติดตามไม่แพ้กัน

แต่กระนั้นส่วนที่น่าเสียดายมาก ๆ ของ SLR คือการที่หนังไม่สามารถหยิบนำประโยชน์ของความน่ากลัวของตัวเองมาใช้ได้อย่างเต็มที่เท่าที่ควร หนังค่อนข้างเน้นไปที่พาร์ทดราม่า เป็นส่วนใหญ่ จนบดบังความสยองขวัญที่ควรเกิดขึ้นในเรื่อง ทั้งนี้ในด้านของบทเอง ก็มีช่องโหว่เหมือนหนังไทยหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลของการกระทำตัวละครในบางช่วงที่ดูขาดน้ำหนัก และจังหวะการเล่าเรื่องบางช่วงที่ดูรวดเร็วจนเกินไปจนไม่เป็นธรรมชาติ ทำให้ความสยดสยอง น่ากลัวที่ควรจะมีของหนังหายไปโดยสิ้นเขิง

โดยรวม SLR กล้อง ติด ตาย เป็นอีกหนังสยองขวัญไทย ที่มาพร้อมความสยองขวัญที่ไม่ค่อยเห็นในไทย หนังผสมผสานความเชื่อเรื่องคำสาป วิญญาณ และปีศาจของศาสนาคริสต์ จนกลายเป็นความน่ากลัวแบบใหม่ที่ไม่เหมือนใคร แต่กระนั้นหนังกลับตกม้าตายในการเล่าเรื่อง ทั้งพาร์ท ดราม่าที่เยอะเกินไป และความน่ากลัวที่ถูกนำมาใช้งานได้ไม่สุดเท่าที่ควร ทำให้ท้ายที่สุดหนังเรื่องนี้ก็เป็นงานที่พอดูได้เพลิน ๆ ที่ไม่ได้มีอะไรให้น่าจดจำมากนัก

สามารถรับชม SLR กล้อง ติด ตาย ได้แล้ววันนี้ที่ Netflix

Cr.ภาพ: Netflix

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
anime

Review The Way of the Househusband

ชื่อเรื่อง : The Way of the Househusband

หาก คุณ เป็นหนึ่งคนที่ชื่นชอบการชม อนิเมะ สายฮา ต้องมาลองติดกับอนิเมะ เรื่อง The Way of the Househusband ที่จะพาทุกคนไปพบกับความสนุกสนาน บันเทิง บอกเลยว่าครบรสของความสนุก จบ ได้ในเรื่องเดียว เวลาการฉายแต่ละตอนอยู่ที่ ตอนละ 18 นาที มีทั้งหมด 29 ตอนจบ รวม ๆ แล้ว เป็นเวลาที่พอดี ไม่น่าเบื่อจนเกินไป

เนื้อเรื่องย่อ The Way of the Househusband

ในเรื่องเป็นการเล่าถึงเรื่องราวของ ยากูซะ สุดโหดคนหนึ่ง นามว่า ทัตสึคนอมตะ ในอดีตเขาเป็นชายหนุ่มที่น่าเกรงขามมาก ไปที่ไหนมีแต่ผู้คนเกรงกลัว ทว่าปัจจุบันตั้งแต่เขาได้พบรักกับสาวสุดน่ารัก ทำให้เขากลายมาเป็น พ่อบ้าน ที่บอกเลยว่าทั้งตลก และสนุก ไปพร้อม ๆ กัน เพราะเรื่องหลังจากนี้ จาก ยากูซะ สุดโหด กลายมาเป็นพ่อบ้านสายอ่อนโยน มันฮาขนาดไหน ต้องมาติดตามกันได้เลย

เนื้อเรื่องที่ประทับใจ แบบห้ามพลาดของ The Way of the Househusband

ความประทับใจในเรื่องบอกเลยว่าเป็นการนำเสนอมุมมองของผู้ชายที่ดิบเถื่อน จากคนที่ไม่เคยอ่อนโยน มาพบความรัก ตัวละคร ทัตสึคนอมตะ  สามารถถ่ายทอดอารมณ์ของพ่อบ้านที่ต้องเอาใจคุณภรรยาสุดที่รัก ทั้งทำอาหาร ทำงานบ้าน เรียกได้ว่า พ่อบ้านตัวอย่างกันเลยทีเดียว ซึ่งหลาย ๆ ฉาก สามารถนำมาสอนการใช้ชีวิตประจำวันได้เลย และสำหรับผู้ชมที่ชื่นชอบอนิเมะไม่เครียด สบาย ๆ ชมได้แบบความสนุกทุกตอน บอกเลยเรื่องนี้ คือ ตอบโจทย์ 100% ปัจจุบันก็ลงครบทุกตอน สามารถชมกันได้ยาว ๆ 1 ชั่วโมงกว่าก็จบแล้ว

Production ของเรื่อง The Way of the Househusband

จากการรับชมส่วนตัวให้เลย 9.5 / 10 คะแนน ด้วยความที่เริ่มต้นของการดำเนินเรื่องราว เป็นอนิเมะที่ใช้รูปแบบการนำเสนอง่าย ๆ สั้น ๆ มีการทำมุก ตลกขับขัน โดยที่เนื้อหามีความต่อเนื่อง ไม่ใช่แบบวกไปวนมาแต่อย่างใด ให้ความรู้สึกที่ชมแล้วไม่ได้เครียด ออกแนวผ่อนคลาย เบาสมอง ชมได้

เพลิน ๆ ในส่วนของ ภาพ สี แสง ต่าง ๆ ทุกอย่างลงตัวของความสมบูรณ์ และบางคนกลัวจะฟังไม่ออก หรือ อ่านซับไทยไม่ทัน บอกเลยว่ามีเสียงพากย์ไทย ที่รับฟังแล้วรู้สึกว่าลงตัว ไม่ได้เสียงดูหลอกจนเกินไป สมตัวละครทุกตัว และฟังลื่นหู ไม่มีสะดุด แต่แอบหักคะแนน 0.5 เพราะว่าบางมุกก็จำเจเกินไป และเป็นการนำเสนอแบบภาพนิ่ง ๆ ต่อเนื่องกันไปนั้นเอง แต่โดยรวมถือว่าอนิเมะน้ำดีเรื่องหนึ่งเลย ในการรับชม สามารถชมได้ทาง Netflix ได้แล้ววันนี้ ความสนุก รอ คุณ อยู่แน่นอน

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

Fight Song (2022) ซีรีส์วัยรุ่นอบอุ่นใจตามฉบับคาวาอิ

                มาถึงซีรีส์อบอุ่นฝั่งญี่ปุ่นที่ชวนจิกหมอน จะต้องมี Fight Song ที่เริ่มฉายวันที่ 15 มกราคมในปีนี้ ซึ่งเนื้อเรื่องยังคงเนื้อหาเกี่ยวกับความรักวัยรุ่น และเนื้อหาที่สื่อด้านกีฬา เพราะในเรื่องนางเอกเป็นนักกีฬาคาราเต้ ที่สื่อให้เห็นการพลิกผันชีวิตอย่างมากมาย และมีคนที่เข้ามาในชีวิตเธอทั้งสองคน ซึ่งเธอจะต้องหาคำตอบด้วยหัวใจของเธอเองว่าใจเธอจะเลือกใคร และเพลงรักจะเป็นกำลังใจในการต่อสู้ชีวิตต่อไปหรือไม่ จึงเป็นอีกซีรีส์ที่อยากให้ทุกคนติดตามอย่างมากเลยทีเดียว โดยจะขออธิบายในบทความได้ดังนี้

                เนื้อเรื่องของ Fight Song จะถ่ายทอดเรื่องราวของนางเอกที่มีชื่อว่า “คิซาระ ฮานาเอะ” เด็กผู้หญิงที่เกษียณตัวเองจากการเป็นนักกีฬาคาราเต้เนื่องจากอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจากการเล่น และอยู่ในจุดต่ำสุดในชีวิตของเธอ เธอได้พบกับ “อาชิดะ ฮารุกิ” ผู้มีความสามารถในการเป็นนักร้อง เป็นนักแต่งเพลงที่เธอเคยฟังก่อนการแข่งขันทุกนัดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ แต่ตอนนี้เขากลายเป็นนักดนตรีที่ล้มเหลวในชีวิตการเป็นนักร้อง

เป็นนักร้องที่ตีกลองได้ครั้งเดียว และเป็นคนประหลาดที่มีปัญหามากมาย! นอกจากนี้ยังได้เจอเพื่อนสมัยเด็กของฮานาเอะ “นัตสึคาวะ ชินโงะ” ที่คอยดูแลเธออยู่เสมอเข้ามาพัวพันกับรักสามเส้า ฮานาเอะมี “ความลับ” ที่เธอไม่สามารถบอกใครได้ และตัดสินใจว่าใครที่เธอจะตัดสินใจได้ว่า “นี่คือรักสุดท้ายในชีวิตของเธอ” จะว่าไปก็มีโหมดอมยิ้ม โหมดเรียกน้ำตา และโหมดอบอุ่นที่ครบรสอย่างมาก จริงๆ ไม่สามารถสปอยได้นักเพราะรอวันออกอากาศ เอาง่ายๆ หลังวันหวยออกไม่กี่วันก็ได้ดูแล้ว แต่ที่แน่ๆ

พระเอกที่รับบทเป็นนักดนตรีหล่อเอาเรื่องอย่างมาก นางเอกน่ารัก มีความมานะซึ่งฉีกความเป็นนางเอกญี่ปุ่นแบบพิมพ์นิยมที่ต้องออกหวานละมุน สดใส แต่ในเรื่องนางเอกมีความเป็นสายหวานและสปอร์ตในคนเดียวกัน ส่วนเพื่อนผู้ชายที่เข้ามาในชีวิตนางเอก ก็มีความแบดนิดๆ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นกร่างกับชาวบ้าน เพียงแต่มาดกวนๆ แต่ปั่นป่วนหัวใจ

                เรียกได้ว่าแม้จะเกี่ยวกับรักสามเส้า แต่ก็ไม่ออกไปทางน้ำเน่าจนเกินไป หากใครได้ดูอยากให้ไปดูอย่างมาก เพราะ Fight Song ยังรอออกอากาศ และไม่นานเกินรออย่างแน่นอนหากใครเป็นคอซีรีส์ญี่ปุ่น มาเอาใจช่วยนางเอกของเรื่องไปพร้อมๆ กันว่าเพลงรักเพื่อเยียวยาให้สู้ต่ออีกครั้งจะดำเนินยังไงต่อไป หรือเรื่องหัวใจของเธอว่าจะเลือกเพื่อนสนิทตอนเด็กของเธอ หรือนักดนตรีที่เธอได้ตามผลงานแล้วมีความสุข เธอจะลงเอยกับใคร ไปลุ้นพร้อมกันใน Fight Song

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

“Love All Play (2022)”

เรื่องราวระหว่างลูกขนไก่กับชีวิตนักกีฬา

                ซีรีส์เกี่ยวกับกีฬาที่น่าสนใจ และกำลังจะเปิดตัวในปี 2022 มีชื่อว่า “Love All Play” เป็นซีรีส์ที่ได้แรงบันดาลใจจากการนำความชอบและกีฬา โดยใช้ “แบดมินตัน” เป็นตัวเชื่อมความรัก ความหลงใหล และนำไปสู่การแข่งขันในฐานะการแข่งขันประเภทคู่ผสม

รวมถึงสะท้อนให้เห็นถึงการกีฬา ความเปลี่ยนแปลง และการมองกีฬาที่เป็นทั้งความฝัน ทั้งธุรกิจอยู่ในตัวของเกาหลีใต้ได้อย่างลงตัว โดยเริ่มออกอากาศตอนแรกวันที่ 27 เมษายน  ผ่านช่อง KBS ของเกาหลีใต้ และยังเล่าเรื่องในช่วงที่เกษียณตัวเองจากการเป็นนักกีฬาด้วย

พล็อตเรื่องนับว่าน่าสนใจ แต่ก็มีการออกอากาศด้วยบรรยายภาษาไทยผ่าน Disney Plus Hotstar สามารถดูเรื่องนี้ได้ถูกลิขสิทธิ์ เนื่อเรื่องที่น่าสนใจกำลังเล่าเรื่องราวของความโรแมนติก ผ่านการเล่นกีฬาที่แสดงถึงความหลงใหล และความรักในกีฬาแบดมินตันของตัวเอกชายและหญิง ซึ่งเป็นกลุ่มผสมที่มีผู้เล่นจากทีมธุรกิจแบดมินตัน โดยพระเอกของเรื่อง “ปาร์คแทจุน”

ผู้ซึ่งหลุดพ้นจากโลกของแบดมินตัน จากการเกษียณตัวเองออกจากการเป็นนักกีฬาอย่างเป็นทางการ เพราะธุรกิจอุปกรณ์แบดมินตันของพ่อแม่ แม้ว่าเขาจะเริ่มมองว่ากีฬาชนิดนี้เป็นผลงาน แต่ความหลงใหลในกีฬาแบดมินตันของเขากลับจุดประกายขึ้นอีกครั้งเนื่องจากความปรารถนาที่จะสร้างความประทับใจให้ผู้หญิงคนหนึ่ง

“ปาร์คแทยัง” เป็นอดีตนักกีฬาที่มีฝีมือระดับโอลิมปิก ซึ่งเธอมีทักษะที่สูงมากพอสมควร แต่มีเหตุต้องออกจากวงการแบดมินตันด้วยเหตุผลที่รุนแรง เนื่องจากเรื่องอื้อฉาวการติดสินบน จนถูกตัดสิทธิ์การแข่งขันเป็นเวลา 3 ปี ทำให้เธอกลับมาร่วมทีมของพระเอกอีกครั้งในรอบ 3 ปี เพื่อทำความฝันและสานโอกาสการเป็นนักกีฬาของตนเองอีกครั้ง

แต่การมาในทีมของพระเอกยังเผยให้เห็นนักกีฬาบางคนเกษียณตัวเองทั้งเกิดจากอุบัติเหตุบ้าง เหตุจำเป็นบางอย่างบ้าง แต่ก็ทำให้ทั้งปาร์คแทยัง ได้เจอกับปาร์คแทจุนเพื่อที่จะแข่งขันในฐานะนักกีฬาประเภทคู่ผสม

ซีรีส์เหล่านี้มีอีกชื่อหนึ่งชื่อว่า “Going to You at a Speed of 493 km” สนุกมากและมีความท้าทายต่อการแสดงมากพอสมควร แต่ถ่ายทอดออกมาได้มีความเป็นมืออาชีพเหมือนนักกีฬาจริงๆ

                หากใครชอบความโรแมนติกแต่มีความสมจริง เรื่อง “Love All Play” หรือ “Going to You at a Speed of 493 km” นักแสดงทำการบ้านดีมาก รวมถึงทีมงานจัดว่าจัดหนักกับความหวาน ความโรแมนติกมากเลยทีเดียว โดยผู้กำกับโดย “จูอุง” ซึ่งเป็นผู้กำกับเคยมีผลงานก่อนหน้าจากการกำกับซีรีส์เรื่อง Justice โดยถ่ายทอดออกมา ไม่สมจริงไม่ใช่จูอุงจริงๆ หากใครสนใจอย่าลืมกลับไปดูเรื่องนี้กันนะคะ

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

รีวิวซีรีส์ Pachinko

รีวิวซีรีส์ Pachinko: ซีรีส์เกาหลีสะท้อนประวัติศาสตร์ที่มาพร้อมโปรดักชั่นระดับฮอลีวูด สามารถสะท้อนความลำบากของคนเกาหลีในช่วงภายใต้ญี่ปุ่นออกมาได้อย่างถึงอารมณ์ เป็น 8 Ep. ที่มีความสนุกครบทุกรสชาติ

ผลงานซีรีส์เกาหลีเรื่องล่าสุดจาก Apple TV+ ที่ครั้งนี้เป็นการร่วมทุนสร้างของ เกาหลี, ญี่ปุ่น และอเมริกา ตัวซีรีส์เป็นงานดัดแปลงมาจากนิยายของ อีมินจิน โดยได้ ซู ฮิวจ์(ซีรีส์ The Killing) มารับหน้าที่สร้างสรรค์ และได้ จัสติน ชอน (Blue Bayou) และ โคโกนาดะ (After Yang) มารับหน้าที่กำกับ

Pachinko จะเล่าเรื่องราวสองช่วงเวลา ของคนสองรุ่น โดยเส้นเรื่องแรกจะพูดถึงเหตุการณ์ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ที่เป็นช่วงที่เกาหลีตกอยู่ในอำนาจของญี่ปุ่น ทำให้คนเกาหลีต้องเผชิญกับความลำบาก และโดนดูถูกศักดิ์ศรี ซุนจา (คิมมินฮา) สาวน้อยครอบครัวชาวประมงที่ได้ไปแอบมีสัมพันธ์กับ ฮันซู (ลีมินโฮ) มหาเศรษฐีชาวเกาหลี ที่ไปประสบความสำเร็จในญี่ปุ่น จนกระทั่งเธอตั้งท้อง และทำให้เธอต้องมาหาชีวิตที่มั่นคงในญี่ปุ่น

เส้นเรื่องที่สองจะพูดถึงช่วงปี 1989 ว่าด้วย โซโลมอน (จินฮา) หลานชายของ ซุนจาในวัยชรา (ยอนยูจุน) ที่กำลังประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และอาศัยในญี่ปุ่น แต่ทว่าหนึ่งในโปรเจกต์สำคัญของเขาคือการติดต่อซื้อที่จากบ้านคนเกาหลีให้นายทุน โซโลมิน เลยต้องเลือกที่จะเคารพคนสัญชาติเดียวกัน หรือทำตามคำสั่งนายทุนที่เป็นคนอเมริกา

แม้ว่าด้านพลอตของซีรีส์จะมีความคล้ายกับละครไปบ้าง ที่มักจะพูดเรื่องประเด็นชายเป็นใหญ่ ชนชั้นทางสังคม และมีพื้นหลังคือเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ แต่กระนั้น Pachinko กลับสามารถนำเสนอพลอตเรื่องแนวเดิม ๆ นี้ให้ออกมาแตกต่าง และยิ่งใหญ่กว่าที่ผ่านมา ด้วยความที่ซีรีส์เลือกจะเล่าแบบซีรีส์ฮอลีวูด ทั้งการออกแบบการสร้าง การตัดต่อ และบท

ตัวซีรีส์เลือกใช้วิธีตัดเหตุการณ์อดีต และปัจจุบันไปมาสลับกัน โดยทุกฉากที่สลับล้วนแต่มีความเกี่ยวเนื่องกันในด้านนัยยะ ส่วนด้านเนื้อหาด้วยความที่เป็นงานสร้างโดยฮอลีวูด นี่จึงไม่ใช่ซีรีส์โรแมนติกจ๋า เหมือนอย่างที่แฟนซีรีส์เกาหลีหวัง แต่ซีรีส์จะมาในโทนดราม่าหนัก ๆ มีการพูดถึงการดิ้นรนต่อสู้ของคนเกาหลีชั้นล่าง ที่ต้องถูกกดทับโดยอำนาจของญี่ปุ่น และพูดถึงประเด็นของครอบครัว

ในแง่ของด้านประวัติศาสตร์ ผู้สร้างสามารถสะท้อนความเจ็บปวด ของชาวเกาหลีในช่วงดังกล่าวออกมาได้อย่างสมจริง แม้ว่าซีรีส์จะไม่ได้เน้นถ่ายทอดความโหดร้ายทารุณ แต่ซีรีส์ได้สะท้อนภาพการเหยียดเชื้อชาติ การปกครองที่ไม่ยุติธรรม ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการเลือกนำเสนอเหตุการณ์ทุกอย่างผ่านสายตาของ ซุนจา ที่ได้เป็นเสมือนตัวแทนของคนเกาหลีที่จากบ้านมาเพื่อหาความมั่นคงในชีวิต

การแสดงของทีมนักแสดงนำเรียกได้ว่าโดดเด่นน่าจดจำแทบทุกคน โดยเฉพาะ คิมมินฮา ที่ประเดิมงานแสดงซีรีส์เป็นเรื่องแรก แต่ทว่าบทบาทของเธอกลับสามารถแบกเกินครึ่งของซีรีส์ไว้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ เธอสามารถแสดงความน่ารักสดใสของสาววัยรุ่น และถ่ายทอดบทดราม่าออกมาได้ทรงพลัง จนทำให้ตลอด 8 Ep. ของซีรีส์คนดูจะอินไปกับตัวละครนี้ไม่มากก็น้อย ในขณะที่นักแสดงคนอื่น ๆ ต่างก็มอบการแสดงที่เติมเต็มความสมบูรณ์ให้ซีรีส์เรื่องนี้ไม่แพ้กัน

โดยรวม Pachinko นับว่าเป็นอีกซีรีส์เกาหลีรสชาติแปลกใหม่ ที่ทั้งงานโปรดักชั่น และการเล่าเรื่องทำออกมาได้ยอดเยี่ยม ซีรีส์สามารถสะท้อนประวัติศาสตร์ผ่านมุมมอง และความรู้สึกของตัวละครได้อย่างชวนติดตาม และครบรสที่สุดเรื่องหนึ่ง

สามารถรับชมซีรีส์ Pachinko ได้แล้ววันนี้ที่ Apple TV+

Cr.ภาพ: Rotten Tomatoes, IMDB

ลิงก์ตัวอย่าง: https://youtu.be/O1r5XXJOYNA

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

17 Sai no Teikoku เมื่อปัญญาประดิษฐ์จะกลายเป็นโลกทั้งใบ

                จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าหุ่นยนต์ AI จะทำให้โลกทั้งใบเปลี่ยนแปลง ซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่องนี้จัดว่าถ่ายทอดออกมาได้ตรงยุคตรงสมัยอย่างแท้จริง โดยมีชื่อว่า “17 Sai no Teikoku” หรือมีชื่ออังกฤษ “17-Year-Old Empire” เป็นซีรีส์แกะกล่องใหม่รับปี 2022 แต่ในตอนแรกพร้อมฉายในวันที่ 7 พฤษภาคม ทางช่อง NHK แน่นอนว่าตอบโจทย์คนชอบซีรีส์ญี่ปุ่นอย่างมาก ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว และจะออกเป็นยูโทเปียมากกว่า ทำให้ยังพอมีจุดที่เบิกบานใจต่อคนดูได้บ้าง โดยเนื้อเรื่องของซีรีส์ 17 Sai no Teikoku มีความน่าสนใจและเนื้อหาของมันจะอธิบายได้ดังนี้

ในปี 202X ที่ประเทศญี่ปุ่นรู้สึกถึงความซบเซาอย่างรุนแรงและถูกตราหน้าโดยสังคมโลกว่าเป็นประเทศที่ตกต่ำ และมีเป้าหมายต้องการหลุดพ้นจากสถานการณ์ที่ไม่สิ้นสุดนี้ นายกรัฐมนตรี Washida ได้จัดตั้งโครงการทดลอง Utopi-AI ที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นแนวคิดของ UA ผู้นำได้รับการคัดเลือกจากทั่วประเทศโดย AI และสร้างขึ้นเพื่อปกครองเมืองที่เสื่อมโทรม

ว่ากันว่าสาเหตุที่คนหนุ่มสาวไม่สามารถควบคุมการเมืองได้เป็นเพราะขาดประสบการณ์ AI มีข้อมูลจำนวนมหาศาลที่คนๆ หนึ่งไม่สามารถ “สัมผัส” ได้ กล่าวอีกนัยหนึ่ง AI สามารถเสริม “ประสบการณ์” จำนวนเท่าใดก็ได้ เสมือนเป็นการพิสูจน์ว่า AI เลือกมากิ อารัน (รับบทโดย คามิโอะ ฟุจุ) วัย 17 ปีที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะและต้องการสังคมในอุดมคติเป็นนายกรัฐมนตรี สมาชิกคนอื่นๆ เป็นคนหนุ่มสาวทั้งหมดอายุประมาณ 20 ปี ที่เป็นตัวดำเนินเรื่องมากมาย

เนื้อเรื่องค่อนข้างแหวกแนวฉีกขนบธรรมเนียมญี่ปุ่นชัดเจน เพื่อเป็นการตั้งคำถามว่า ถ้าญี่ปุ่นอยู่ในสภาวะที่มี AI ในโลกนี้ทั้งใบ และเต็มไปด้วยคนที่มีหนุ่มสาวแทบจะทั้งหมด จะเกิดอะไรขึ้น แน่นอนว่ามันเสียดสีสังคมและบางอย่างทำให้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แน่นอนว่าเป็นเนื้อเรื่องที่อิงการเมืองเข้ามามากมาย ถ้าขาดประสบการณ์และความเข้าใจใน AI มันก็ส่งผลต่อภาพรวมและองค์ความรู้ในอนาคตอีกด้วย

                17 Sai no Teikoku ยังเป็นซีรีส์ที่ฉีกความเป็นไซไฟ และฉีกความเป็นแนวใสๆ ว่าวัยรุ่นจะต้องเป็นอะไรที่ใสตลอดเวลา แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องใสๆ อีกเลย ถ้าวัยรุ่นคือตัวขับเคลื่อนประเทศให้หลุดพ้นจากสภาพตกต่ำของประเทศเพื่อก้าวสู่ไปในทิศทางที่ดีขึ้นในอนาคต ผู้เขียนบทของซีรีส์เรื่องนี้ ต้องยกนิ้วให้เลยก็คือ “โยชิดะ เรโกะ” เป็นทั้งนักเขียนบทและเป็นผู้ทำอนิเมะชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น K-ON!,Girls und Panzer และ Violet Evergarden ล้วนเป็นเรื่องที่ดังๆ มากและขายดีในญี่ปุ่นทั้งสิ้น

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

รักยิ้มของเธอ ซีรี่ย์รักสดใสในโลกกีฬาออนไลน์จาก WeTV

“ลู่ซือเฉิน พี่เผด็จการจริงๆ” คำที่สาวน้อยถงเหยาพูดด้วยความอัดอั้นตันใจแทบตลอดเรื่อง ในขณะที่อีกฝ่ายมักจะเรียกเธอว่า ยายเตี้ย และมักจะถามถงเหยาว่า “สมองมีรอยหยักหรือเปล่า” เรียกรอยยิ้มจากผู้ชมได้ทุกตอนเพราะว่าภายใต้ท่าทางเย็นชาของลู่ซือเฉินทุกคนสามารถรับรู้ได้ถึงความห่วงใยที่ปกปิดเอาไว้

ซีรี่ส์ รักยิ้มของเธอ (Falling into your smile) เปิดตัวด้วยเรื่องราวของสาวน้อยถงเหยา เกมเมอร์สตรีมมิ่งมีแฟนคลับพอสมควร เธอเริ่มเล่นเกมเพราะแฟนเก่าชื่อ เจี่ยนหยาง ที่ได้กลายเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตระดับประเทศ จนสุดท้ายก็เลิกราเพราะเจี่ยนหยางขาดการติตต่อหายไปจากชีวิต

รักยิ้มของเธอ ซีรี่ย์รักสดใสในโลกกีฬาออนไลน์

วันหนึ่งถงเหยาถูกทดสอบในระหว่างการเล่นเกมออนไลน์โดยไม่รู้ตัว หลังจากนั้น ZGDX หนึ่งในทีมอีสปอร์ตชั้นนำส่งเทียบเชิญให้ถงเหยาไปเป็นหนึ่งในทีมแข่ง ถงเหยาลังเลและตัดสินใจเดินทางไปดูการแข่งของ ZGDX กับ CK ที่มีเจี่ยนหยางนำทีม ถงเหยาตัดสินใจได้ว่าจะร่วมทีมกับ ZGDX หลังจบการแข่ง

เจี่ยนหยางพยายามจะรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับเธอ แต่ในตอนนั้นถงเหยาได้จดจ่อที่จะเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตหญิงคนแรกของประเทศ แถม ZGDX ยังมี ลู่ซือเฉิน หัวหน้าทีมตัวสูงสุดหล่อขวัญใจสาวๆทั้งประเทศขวางทางอยู่

รักยิ้มของเธอ ซีรี่ย์รักสดใสในโลกกีฬาออนไลน์

ลู่ซือเฉินเป็นคนเข้มงวดเย็นชาโดยเฉพาะกับถงเหยา  การติดต่อกับโลกภายนอกนั้นดูจะต้องผ่านการอนุมัติของเขาทุกอย่าง แถมยังเข้ามายุ่งแทบทุกเรื่อง กว่าจะมีใครทันรู้ตัวรวมทั้งถงเหยาด้วย ลู่ซือเฉิน เทพบุตรอีสปอร์ตแผนสูงก็ซึมลึกเข้ามาในหัวใจของถงเหยาเสียแล้วพล็อตเรื่องหนุ่มเย็นชาปากร้ายที่เพียบพร้อมทั้งสติปัญญา หน้าตาและฐานะ มาหลงรักผู้หญิงน่ารักแต่เตี้ย-หุ่นไม่ดี-กินเก่ง-ใสซื่อ-ท่าทางเปิ่นๆ พูดจาตรงไปตรงมา เป็นพล็อตฟินเนอเร่สูตรสำเร็จที่ใช้ได้ผลดีแทบทุกครั้ง และครั้งนี้ก็เช่นกัน

รักยิ้มของเธอ ซีรี่ย์รักสดใสในโลกกีฬาออนไลน์

แม้ว่าเฉิงเซียวที่รับบท ถงเหยา นอกจากจะสวย ไม่เตี้ย ไม่อ้วน แต่ด้วยวิธีการแสดงของเธอดูแล้วน่าเชื่อมากกับการเป็นผู้หญิงไม่โดดเด่นแต่ดูไปดูมาก็น่ารักจนทำให้คนหล่อๆมากมายมาขายขนมจีบ ในขณะที่การมีสวีข่ายผู้รับบทเป็นลู่ซือเฉินเป็นคนตัวสูงมากและยังหน้าตาดีแบบไม่ต้องตั้งคำถาม ทำให้เฉิงเซียวเหมาะกับการเป็นยายเตี้ยของลู่ซือเฉินจริงๆ

แม้ว่าพล็อตรองของเหล่านางรองพระรองไม่ค่อยโดดเด่นมากนักแต่ก็ไม่สำคัญอะไร เพราะพล็อตหลักดึงดูดคนดูอยู่หมัด

ในด้านงานโปรดักชั่นไม่มีอะไรต้องติเลย การแข่งขันเกมออนไลน์จะดูน่าสนุกสมจริงดีมาก แต่ที่น่าสนใจคือสาระที่สอดแทรกระหว่างบรรทัดเกี่ยวกับอีสปอร์ตที่เรื่องนี้ได้เปิดเผยเรื่องราวของนักกีฬาชนิดนี้ในมุมมองที่คนทั่วไปอาจจะไม่รู้จัก

รักยิ้มของเธอ ซีรี่ย์รักสดใสในโลกกีฬาออนไลน์

แต่แน่นอนว่าคนที่ไม่รู้จักหรือไม่ได้เข้าใจอะไรเลยกับกีฬาอีสปอร์ตอาจจะกลัวๆว่าจะดูไม่รู้เรื่อง แต่ว่าการไม่รู้อะไรเลยก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไรในการดู แนะนำว่าทำใจร่มๆดูฉากการต่อสู้ไปแบบผ่านๆ ค่อยๆเรียนรู้ไปกับเรื่องราวก็ได้ ไม่ต้องซีเรียส เพราะว่าอันที่จริงทุกคนก็รอลุ้นเด็กใหม่เปิ่นๆกับบอสสุดโหดว่าจะลงเอยกันอย่างไรได้มากกว่า..จริงมั้ย

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

Rookie Cops (2022)

Rookie Cops (2022) ซีรีส์เกาหลีกับหลักสูตรการเรียนตำรวจ

Rookie Cops เป็นอีกซีรีส์ที่ออกอากาศผ่านการสตรีมใน Disney Hotstar ซึ่งเนื้อหามีความแปลกใหม่ให้มีความทันสมัย บนความหัวโบราณในระบบเรียนตำรวจมากขึ้น และทำให้เข้าใจถึงการได้รับแรงบันดาลใจในการต่อยอดจากบุคคลต้นแบบในชีวิต แต่ก็ต้องเจอบททดสอบจากการทำตามความฝันเข้ามา และยังเหลือความ Coming Of Age ได้เป็นอย่างดี และเป็นการกลับคืนหน้าจออีกครั้งของ “คังแดเนียล” เป็นอีกซีรีส์ที่น่าติดตามมากเลยทีเดียว

                เรื่องราวของ Rookie Cops มีความน่าสนใจอย่างมาก โดยโครงเรื่องจะเกี่ยวกับน้องใหม่กิตติมศักดิ์ “วีซึงฮยอน” เริ่มต้นจากการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยตำรวจแห่งชาติเกาหลี เขาชื่นชมพ่อของเขาซึ่งเป็นผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจคยองกีดงบู หรือสำนักงานตำรวจภาคตะวันออก ซึ่งอยู่จังหวัดคยองกี เขาเริ่มเดินตามรอยเท้าพ่อของเขา แต่เจออุปสรรคเมื่อเขาเข้าไปพัวพันกับผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ “โกอึนกัง”

Rookie Cops (2022) ซีรีส์เกาหลีกับหลักสูตรการเรียนตำรวจ

เรื่องราวจะหมุนรอบคนหนุ่มสาวที่เกิดในยุค 2000 ที่เดินผ่านชีวิตในวิทยาลัยด้วยวิธีที่ติดความเป็นอนุรักษ์นิยม กับการเรียนหลักสูตรตำรวจในมหาวิทยาลัยที่อนุรักษ์นิยม เคร่งครัดที่สุดแห่งหนึ่งในเกาหลี เยาวชนของเกาหลีและวิธีที่พวกเขาเติบโตควบคู่ไปกับความฝัน ความรัก และความยากลำบากในมหาวิทยาลัยตำรวจ การต่อสู้ดิ้นรนเพื่อให้โดดเด่นภายในวิทยาเขตนักศึกษา 2,000 แห่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในวิทยาเขตที่อนุรักษ์นิยมและมีความพิเศษเฉพาะตัวที่สุดในประเทศจะได้รับการบอกเล่าผ่านซีรีส์เรื่องนี้

Rookie Cops (2022) ซีรีส์เกาหลีกับหลักสูตรการเรียนตำรวจ

   บางครั้งมันก็เจอเรื่องอลหม่านในรั้วมหาวิทยาลัยได้อย่างขบขันพอสมควร ทั้งตัวพระเอกที่ต้องแบกความหวังของตนเองที่จะให้เป็นนักศึกษาวิชาตำรวจหัวกะทิ ทั้งที่เขาเองก็เรียนเก่งที่สุดของรุ่น ส่วนนางเอกก็เป็นคนใจสู้ ไม่เจ้าน้ำตาหรือบอบบางเลย แต่เธอมีความฉลาด รู้จักรับโอกาสและไขว่คว้าจนได้มาเป็นนักศึกษาวิชาตำรวจ แต่เราก็ยังได้เห็นเรื่องราวของการใช้ชีวิตของนักศึกษาวิชาตำรวจ ซึ่งอาจจะไม่ต่างจากนายร้อยตำรวจในบ้านเรามากนัก เพียงแต่ทุกคนมีเสรีในการเป็นอาชีพตำรวจ ไม่ว่าจะเพศอะไรก็ตาม ซึ่งซีรีส์นี้ทำออกมาได้ดีเยี่ยม

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Rookie Cops (2022) ซีรีส์เกาหลีกับหลักสูตรการเรียนตำรวจ
Categories
series

Ghost Doctor (2022)

Ghost Doctor (2022) เมื่อสามีแห่งชาติอย่าง “เรน” ต้องรับบทผีคุณหมอ

คุณแน่ใจหรือเปล่าว่าหมอที่ผ่าตัดให้คุณ จะเป็นหมอคนนั้นจริงๆ ดีไม่ดีหมอคนนั้นจะกลายเป็นผีที่มาสิงเพื่อช่วยชีวิตคุณได้อย่างไม่น่าเชื่อ กับซีรีส์ที่รับชมทาง Viv กับ Ghost Doctor ซึ่งคนที่เป็นผีคุณหมอที่คอยเข้าสิงใครอย่าง “เรน” ที่รับบทเป็น “ชายองมิน”

พร้อมกับทำทุกอย่างเพื่อหาสาเหตุว่าทำไมเขาต้องกลายเป็นผี พร้อมกับสอดแทรกเรื่องราวทางการแพทย์อีกมากมาย ทำให้เนื้อหามีความสนุกสนาน เข้มข้นบนความฮามากขึ้น ซึ่งใครชอบดูซีรีส์เกาหลีจะต้องไม่พลาดที่จะดู Ghost Doctor ซึ่งเป็นซีรีส์ฉีกกฎทางการแพทย์ไปไม่เหมือนเดิมอีกเลย

Ghost Doctor ซึ่งคนที่เป็นผีคุณหมอที่คอยเข้าสิง

                พอรู้ว่า Ghost Doctor เปิดตัว การได้ “เรน” เป็นนักแสดงหลักของเรื่อง ทำให้ใครๆ ต่างจับตามองอย่างมากด้วยดีกรีสามีแห่งชาติ แม้ว่าจะเป็นคุณพ่อแล้วก็ตาม แต่ออร่าสามียังคงเด่นชัดจริงๆ แถมรับบทนี้ เล่นได้กวนบาทาอย่างมาก หากใครได้ดูจะรู้สึกว่า Ghost Doctor สนุกอย่างมากเลยทีเดียว เรื่องมีอยู่ว่า “ชายองมิน” เป็นหมออัจฉริยะที่มีทักษะการผ่าตัดที่ยอดเยี่ยม แต่เขากลับหยิ่งผยองและเห็นแก่ตัว อยู่มาวันหนึ่ง เขาประสบอุบัติเหตุและด้วยเหตุนี้ วิญญาณของเขาจึงเข้าสิงร่างของแพทย์อีกคน “โกซองทัก” ที่รับบทโดย “คิมบอม”

Ghost Doctor ซึ่งคนที่เป็นผีคุณหมอที่คอยเข้าสิง

แพทย์คนนี้กลับนิสัยตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง มีบุคลิกที่ตรงกันข้ามและมีความสามารถทางการแพทย์ ในขณะที่ยองมินเป็นคนจองหองและเลือดเย็น ซึ่งสนใจแต่อาชีพของเขาเท่านั้น และไม่สนใจเรื่องส่วนตัวของผู้ป่วยเลย ซองทักเป็นแพทย์ประจำบ้านที่โชคดี เพียบพร้อมและรวยชนิดที่เติบโตมาบนกองเงินกองทอง สมความเป็นลูกหล่อพ่อรวยที่สุดที่มีปู่เป็นผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลมยองชิน และแม่เป็นประธานของโรงพยาบาล เขาเองก็ไม่อยากเป็นหมอเก่งๆ โดนผีเข้าสิง โดยเฉพาะผีอย่างยองมิน แต่การรักษาทางการแพทย์ก็อลหม่านไปพร้อมกับคนและผีอีกด้วย บางคนโดนเข้าสิงแล้วไปผ่าตัดคนไข้โดยไม่รู้ตัวว่าโดนผีหมอชาเข้าก็มี

Ghost Doctor ซึ่งคนที่เป็นผีคุณหมอที่คอยเข้าสิง

                อาจจะไม่สามารถรีวิวได้มากเพราะ Ghost Doctor เป็นซีรีส์มาใหม่แซงทางโค้งมากอีกเรื่อง ถ้ามีหมอชาในเรื่องจริงจะเป็นอะไรที่อึ้งมาก เพราะเรื่องราวของ Ghost Doctor มีความใหม่และมีความแปลก ทำให้มีมิติในการแสดงมาก พร้อมกับซีจีสวยๆ เพิ่มความโดดเด่น ดูได้ไม่มีเบื่อ และมีความสนุกสนานของเนื้อหา ครบเครื่องทั้งขบขัน ดราม่า ระทึกขวัญ และโรแมนติกไปในตัว Ghost Doctor เป็นซีรีส์ที่ควรดูรับศักราชใหม่มากๆ เลยทีเดียวของปี 2022 ด้วย

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

Our Beloved Summer (2021)

Our Beloved Summer (2021) คุณเชื่อรักในวัยเรียนไหม

หลายคนคงประทับใจซีรีส์เรื่อง  Our Beloved Summer ใน Netflix มาบ้างแล้ว มันทำให้กลับมาตั้งคำถามว่า  คุณเชื่อรักในวัยเรียนไหม เพราะเนื้อหาของมันมีความอมยิ้ม ครบรสชาติ และเสียน้ำตาไปพร้อมๆ กัน ซึ่งเรื่องราวนั้นเป็นเรื่องราวที่พระเอกมีนิสัยเด็ก หน้าตาดี แต่นางเอกมีความเป็นคนที่โตกว่าวัย ทำให้ความสัมพันธ์ในฐานะคนรักเก่าในวัยเรียน ซึ่งไม่สามารถกลับมาเจอกันได้ แต่รักในวัยเรียนที่อยู่ในใจมาตลอดทำให้กลับมาเจอกันอีก 10 ปี แล้วจะเป็นยังไงกับพวกเขา แน่นอนว่าเรื่อง  Our Beloved Summer ตอนจบก็อิ่มเอมใจลึกๆ มากเลยทีเดียว

Our-Beloved-Summer-(2021)

                เรื่อง  Our Beloved Summer เป็นซีรีส์ที่ให้ภาพสวยมาก การถ่ายทอดเนื้อหามีความสนุก มีความพ่อแง่แม่งอนอยู่บ้าง แต่ก็เรียกน้ำตาไม่น้อยเหมือนกัน ซึ่งเนื้อเรื่องของซีรีส์เรื่องนี้มันเล่าถึงในช่วงหลายปีหลังจากถ่ายทำสารคดีไวรัลในโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย อดีตคู่รักที่ทะเลาะกันสองคนถูกดึงกลับมาที่หน้ากล้อง และเข้ามาในชีวิตของกันและกัน “ชเวอุง” พระเอกของเรื่อง ดูไร้เดียงสาและร่าเริง

แต่เขาต้องการมีบางอย่างเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขา สำหรับสิ่งนั้น เขาแสดงสิ่งที่เขาถืออยู่ในใจของเขา “กุ๊กยอนซู” เป็นนางเอกของเรื่องที่เป็น PR โดยช่วงวัยเรียนตั้งเป้าที่จะเป็นนักเรียนอันดับต้นๆ ในโรงเรียนของเธอ แต่ตอนนี้เธอเป็นผู้ใหญ่ที่ใช้ชีวิตอย่างดุเดือดและปรับตัวให้เข้ากับความเป็นจริงของเธอ

Our-Beloved-Summer-(2021)

                บางครั้งอยากลืมกลับจำ บางครั้งอยากจำกลับลืม ในชีวิตจริงของคนเราก็เช่นกัน ทุกความสัมพันธ์แม้ว่าจะมีความสวยงาม แต่มันไม่ได้สวยงามถ้าความสัมพันธ์นั้นมีบาดแผลในใจ มีหลายคนที่จบกันด้วยไม่ดีชนิดที่ไม่อยากพูดถึงมันอีก แต่มันก็เล่าเรื่องเพื่อสื่อถึงความเป็นอิสระในการใช้ชีวิต มีความชัดเจนในหัวใจของตนเองมากขึ้น ซึ่งมันจะถ่ายทำให้รู้สึกว่า มันดูเรื่อยๆ แต่ว่ามันทำให้คนดูรู้สึกดีไปกับตัวละครชนิดที่ Move On ไม่ได้เลย

Our-Beloved-Summer-(2021)

                เรื่อง  Our Beloved Summer เป็นอีกเรื่องที่แนะนำอย่างมาก ทำให้เราอิ่มเอมใจ ประทับใจทุกครั้งที่ได้เห็นความสัมพันธ์กลับมาอีกครั้งในวัยหนุ่มสาว โดยถ่ายทอดออกมาให้สอดแทรกเชิงสารคดีเข้ามา ทำให้ไม่น่าเบื่อ ไม่ผิดหวังที่จะกลับมาดูย้อนหลังอีกครั้ง แม้จะจบไปไม่กี่เดือนแล้วก็ตาม แต่มันก็มีทั้งความตลก ความคลั่งรักไปในตัวของคู่พระเอก นางเอก แม้นางเอกจะไม่ค่อยชอบก็ตาม แต่นั่นมันสร้างสีสันได้ไม่น่าเชื่อ

Our Beloved Summer (2021)

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Categories
series

Kissable Lips (2022) ซีรีส์วายเนื้อหาดี

Kissable Lips (2022) ซีรีส์วายเนื้อหาดี แถมได้มิติมากกว่าความจิ้นจิกหมอน

Kissable-Lips
Kissable-Lips

โดยปกติแล้วซีรีส์วาย ตัวละครมักจะเป็นกลุ่มเดียวกัน แทบจะทุกเรื่องที่เป็นซีรีส์ที่ตอบโจทย์กลุ่มวัยรุ่น และเน้นความจิ้นจิกหมอน และอยากให้ลงเอยกันและกันมากกว่า ในขณะเดียวกันซีรีส์เรื่อง Kissable Lips ก็เป็นอีกเรื่องที่ปฏัวัติซีรีส์วายไปโดยสิ้นเชิง เพราะมันเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับแวมไพร์กับมนุษย์ ซึ่งเนื้อเรื่องก็น่าติดตามแล้ว และละมุนพอๆ กับภาพยนตร์เรื่อง Twilight มากๆ เลยทีเดียว จะเป็นยังไงบ้างไปดูกันเถอะ

Kissable-Lips2
Kissable-Lips2

ซีรีส์เรื่อง Kissable Lips ฉายทาง bilibili โดยหลายคนต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่าน่าดูมาก มีความละมุนเหมือนซีรีส์ชายหญิงมากกว่าที่คิด แถมมีปมบางอย่างน่าติดตาม ระทึกไปในตัว การดำเนินเรื่องราวเป็นไปด้วยความกระชับ เข้าใจง่าย สื่อสารออกมาได้ชัดเจน ซึ่งเรื่องมันเกี่ยวข้องในวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเกาหลีใต้

เป็นจุดเริ่มต้นความรักอันแสนหวานในวิทยาเขตที่พวกเขาเรียนระหว่างจุนโฮ แวมไพร์ผู้เดินไปตามเส้นทางแห่งการสูญพันธุ์ เอาง่ายๆ เลยคือจะสลายตัวเองภายใน 10 ปี และมินฮยอน มนุษย์ที่มีเลือดบริสุทธิ์ ที่บรรดานักพายทั้งหลายต่างเรียกว่า “ไอ้ต้าวมินฮยอน” อีกด้วย แต่ความน่าสงสารไม่ได้มีแค่นั้น จุนโฮเป็นแวมไพร์ที่กำลังจะตาย จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อความอยู่รอด และไม่ยอมเป็นไปเหมือนเผ่าพันธุ์ของตนเอง โดยเขาจะต้องดื่มเลือดบริสุทธิ์และกลายเป็นมนุษย์ก่อนที่ตนจะไม่มีโอกาส

Kissable-Lips4
Kissable-Lips4

วันหนึ่ง…ในขณะที่จุนโฮ หรือ “คุณแวมไพร์” ค้นหา ตามหาใครสักคนที่มีเลือดบริสุทธิ์นี้ เขาได้พบกับมินฮยอน มนุษย์ที่มีเลือดบริสุทธิ์ แต่แวมไพร์อีกคนหนึ่งชื่อแฮซู ผู้รู้เกี่ยวกับความบอบช้ำในอดีตของจุนโฮ ทำให้มินฮยอนและจุนโฮหลุดออกจากปากถึงความในใจออกมาและการเดินทางของหัวใจเริ่มต้นขึ้นบนความแตกต่าง และ “คุณแวมไพร์” ดั๊นแพ้ทางคนซื่อๆ อย่างมินฮยอนไปได้ การใช้ชีวิตอย่างมนุษย์ธรรมดาของจุนโฮและปกป้องมินฮยอน จุนโฮจะต้องเผชิญกับอะไร? แถมทำคนดูฟินจิกหมอน และระทึกตามๆ กัน จนเป็นอีกเรื่องที่น่าดูมากในปี 2022

Kissable-Lips3
Kissable-Lips3

ต้องบอกก่อนว่าแค่แคสติ้งนักแสดงก็ผ่านแล้ว โดยเฉพาะมินฮยอน ซึ่งถ่ายทอดออกมาเป็นคนซื่อๆ ไม่มีพิษมีภัย แถมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนกำลังถูกแวมไพร์เล็งเพื่อเอาเลือดบริสุทธิ์จากตนอยู่ แต่จุนโฮหรือคุณแวมไพร์นี่เหมือนจะรุกแรงยิ่งกว่าใคร จ้องหน้าราวกับหมาป่าจะกินลูกแกะก็ไม่ปาน แถมการวางตัวให้กลมกลืนก็ทำเอาหัวเราะมากกว่าที่จะน่ากลัวเสียอีก ถ้าใครสนใจสามารถติดตามเรื่องนี้ได้เลย เพราะฉายมาได้ไม่กี่ตอนนี้เอง

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Kissable Lips (2022) ซีรีส์วายเนื้อหาดี

Categories
series

Lost Romance ซีรีส์ไต้หวันสุดโรแมนติกพาไปสู่โลกนิยาย

ถ้าพูดถึงซีรีส์ส่วนมากมักจะสร้างเพื่อให้เรา “มโน” เอาเองไม่ว่าจะในจอหรือนอกจอ แต่ก็มีหลายคนที่จิ้นจากนวนิยายเรื่องโปรด เรื่องที่ตนเองชอบอ่านหรือเรื่องที่ตนเองแต่งขึ้นมา ก็ทำให้กระชุ่มกระชวยได้มากเลยทีเดียว ในขณะเดียวกัน…

ใครจะเชื่อว่าในนวนิยายของตนเอง จะทำให้เราทะลุเข้าไปอีกโลกหนึ่งแล้วเป็นคนที่เราชื่นชอบด้วย ซึ่งผู้เขียนขอแนะนำซีรีส์ไต้หวันเรื่องนี้เลย แน่นอนว่าต้องถูกจริตของคนชอบ “มโน” ได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีชื่อว่า Lost Romance โดยใช้ชื่อภาษาไทยว่า…หลงรักคุณ ได้ออกอากาศเมื่อปี 2020

Lost Romance
Lost Romance

เนื้อเรื่องของซีรีส์ค่อนข้างน่าสนใจมากเลยทีเดียว เพราะเจิ้งเสี่ยวเอิน (วิเวียน ซุง) นางเอกในเรื่องเป็นบรรณาธิการสำนักพิมพ์นิยาย ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์รับแนวโรแมนติก แถมแอบฝันที่จะตกหลุมรักกับเหอเทียนสิง (มาร์คัส ชาง) ผู้บริหารระดับสูงที่หล่อเหลาของบริษัท

ซึ่งอยู่ในอาคารตรงข้ามกับสำนักงานของบริษัทของเธอ เธอแอบชอบถึงขั้นเอาโดรนมาส่องอยู่ อยู่มาวันหนึ่ง เจิ้งเสี่ยวเอินพบว่าตัวเองถูกส่งเข้าสู่หน้านิยายรักที่เธอแต่งมากับมืออย่างน่าอัศจรรย์ เหมือนเธอวาร์ปไปอีกโลก และได้เผชิญหน้ากันกับเหอเทียนสิง ผู้ชายที่แอบชอบของเธอในโลกมโน อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าเธอก็พบว่าในจักรวาลสมมตินี้

Lost Romance
Lost Romance

ชื่อของเขาคือซื่อตาวหรานตามในนิยายเล่มนั้น และบุคลิกของเขาแตกต่างกันมาก เธอหวังว่าจะใช้เคล็ดลับและกลเม็ดทั้งหมดที่เธอได้เรียนรู้จากนิยายรักโรแมนติกที่เธอได้แก้ไขเพื่อช่วยบ่วงหัวใจของเขา แต่ในไม่ช้าเธอก็พบว่าในโลกสมมตินี้ เธอไม่ใช่นางเอกที่กล้าหาญ แต่เป็นตัวละครด้านร้ายแทน (อ้าว…งานเข้าซะแล้วสิ 555555)

แม้ว่าซีรีส์เรื่องนี้จะไม่ได้ขายความดังแบบเอากระแสมากนัก แต่เนื้อเรื่องเรียกว่าน่าสนใจเลยทีเดียว เพราะมันตอบโจทย์สายเมียมโนได้เป็นอย่างดี ทำให้เรื่องราวดูน่าติดตาม มีความเป็นเอกลักษณ์ไปในตัว นอกจากนี้เป็นซีรีส์ปลุกความเป็นสายจิ้นในตัวคุณโดยปริยาย และเป็นซีรีส์ที่นิยมดูในไทยอีกด้วยนะ สามารถเข้าไปดูได้แล้ว

Lost Romance
Lost Romance

ตอนจบขอไม่อธิบายนะ เพราะมันอิ่มเอมใจมากๆ อิ่มเอมใจจนฟินไปหลายตลบ เอาเป็นว่าถ้าหากใครไม่เคยดูเรื่องนี้ก็ไปลุ้นตอนจบแทนว่านางเอกของเรื่องจะได้ครองรักกับพระเอกที่เป็นชายในฝันดังที่เธอตั้งใจหรือไม่ อันนี้ต้องไปดูกัน แต่ผู้เขียนชอบนางเอกมาก เพราะยังติดตาภาพจากภาพยนตร์เรื่อง Our Times เลยทำให้สลัดภาพสาวสายจิ้นออกไม่ได้สักที ความน้ำเน่าแทบจะไม่ค่อยมี และเหมาะกับเยาวชนมากเลยทีเดียว

Lost Romance

ติดตามอัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์