Categories
series

รีวิวซีรีส์ What If…?

What If…? ซีรีส์สุดทะเยอทะยานเรื่องล่าสุดของ Marvel ที่จะพาทุกคนไปสำรวจอีกด้านของ MCU

ตัวงานภาพทำออกมาได้สวยงามตระการตา และเซอร์ไพรส์ที่จัดหนักจัดเต็มในทุกตอน

อีกหนึ่งผลงานซีรีส์จาก Marvel Studios ที่เป็น Original Series ของ Disney+ ที่เรียกได้ว่ามาพร้อมลีลาการนำเสนอที่แปลก แหวกแนวกว่าที่ผ่าน ๆ มา ด้วยการเป็นซีรีส์เรื่องแรกของจักรวาล MCU ที่นำเสนอในรูปแบบของอนิเมชั่น พร้อมทั้งมีเนื้อหาที่จบในตอน กับเรื่องราวที่ว่าด้วยมิติคู่ขนาน กับการตั้งคำถามว่า “จะเป็นอย่างไร? ถ้าหากเกิดการเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ของเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ จนนำมาสู่จุดจบที่แตกต่างจากเดิม”

What..if
What..if

ตัวซีรีส์จะใช้ตัวละคร เดอะ วอต์ชเชอร์ (พากย์เสียงโดย เจฟฟรี่ย์ ไรท์) เป็นผู้ทำหน้าที่เล่าเรื่อง ในฐานะเทพเจ้าผู้คอยเผ้ามองดูเหตุการณ์ของแต่ละมิติเวลา แต่จะไม่เข้าไปสอดแทรกเหตุการณ์ใด ๆ ซึ่งในแต่ละจักรวาล ก็จะเป็นการพูดถึงโลก MCU ในรูปแบบที่ต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น จักรวาลที่เหล่าอเวนเจอร์ ถูกลอบสังหารก่อนที่จะได้รวมทีม, จักรวาลที่ทีมอเวนเจอร์ กลายเป็นซอมบี้, จักรวาลที่ด็อกเตอร์สเตรนจ์ เข้าสู่ด้านมืด และจักรวาลที่อัลตรอน สามารถครอบงำวิชั่นได้สำเร็จจนกลายเป็นวายร้ายที่ทรงพลังที่สุด เป็นต้น ซึ่งในแต่ละเหตุการณ์จากซีรีส์นี้ ก็จะเป็นส่วนเชื่อมโยงไปสู่เรื่องราวของ MCU Phase 4 ด้วยเช่นกัน

What..if
What..if

ความโดดเด่นของ What If…? คือการพาคนดูไปสำรวจในโลกของ MCU ในมุมที่เวอร์ชั่นหนัง หรือซีรีส์คนแสดง ไม่เคยเล่า ด้วยความที่ซีรีส์ใช้วิธีนำเสนอผ่านภาพอนิเมชั่น ที่สามารถสร้างสรรค์จินตนาการ ความเวอร์วัง อลังการ ได้อย่างเต็มที่ ทำให้ตัวซีรีส์มีบางตอนที่มาพร้อมเนื้อหาที่ดาร์ค มืดหม่นแบบที่ไม่คาดคิดว่า Marvel จะกล้าเล่นกับเนื้อหาแบบนี้ รวมถึงการกล้าที่จะฆ่าตัวละครสำคัญจากจักรวาลหลักแบบไร้ปราณี

What..if
What..if

ในส่วนของการเล่นกับคำว่า What If…? ซีรีส์ก็มีการใช้จุดขายนี้ออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ในแต่ละตอนมีการนำเสนอเหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนของ MCU ในรูปแบบต่าง ๆ ออกมาได้อย่างชวนติดตาม โดยเฉพาะการเพิ่มมิติให้กับตัวละครรองจากหนังในจักรวาลหลัก ให้มีบทบาทที่โดดเด่น มีมิติมากขึ้น รวมถึงได้เห็นบริบบทของตัวละครบางตัวที่แตกต่างจากเวอร์ชั่นหนังที่เราจดจำโดยสิ้นเชิง

ในด้านงานภาพของ What If…? เรียกได้ว่าทำออกมาได้อย่างสวยงาม ตระการตามาก ตัวอนิเมชั่นมีการเคลื่อนที่ที่พลิ้วไหว เป็นธรรมชาติ พร้อมทั้งยังมีการออกแบบหน้าตาตัวละครที่อิงจากเวอร์ชั่นหนัง ทำให้การดูซีรีส์เรื่องนี้แม้จะเป็นอนิเมชั่น แต่ก็ยังให้อรรถรสว่าคนดูกำลังรับชมเรื่องราวจักรวาลเดียวกันกับหนัง MCU

What..if
What..if

และแน่นอนว่าเมื่อมันเป็นงานของ Marvel ตัวซีรีส์เรื่องนี้ก็เต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์ ความหวือหวา ที่แฟนหนังฮีโร่ Marvel จะต้องตื่นตาตื่นใจในแต่ละตอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสองตอนท้ายของซีรีส์ ที่เป็นการปูเรื่องราวไปสู่ซีซั่นต่อไป และเต็มไปด้วยความพีคซ้อนพีค ที่คาดเดาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

What..if
What..if

ในด้านข้อเสียของ What If…? คือความจำกัดของเวลาในแต่ละตอน ที่มีเพียง 30 นาที ซึ่งในบางตอนของซีรีส์ค่อนข้างมีดีเทลล์ มีเรื่องราวให้เล่ามากกว่านั้น ทำให้บางตอนมีเนื้อหาที่เบาบาง แทบไม่มีอะไรแปลกใหม่น่าสนใจ หรือบางตอนที่พยายามเล่นกับความหักมุม ซับซ้อนซ่อนเงื่อน แต่เมื่อต้องดำเนินเรื่องแบบกระชับ ทำให้บทชองบางตอนดูขาดมมิติไปอย่างน่าเสียดาย

What..if
What..if

What If…? นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความทะเยอทะยานของ Marvel ในด้านการเล่าเรื่องในรูปแบบที่ให้อารมณ์ต่างจากเวอร์ชั่นหนัง หรือซีรีส์คนแสดงโดยสิ้นเชิง ตัวซีรีส์มีการนำเสนอเรื่องพหุจักรวาลออกมาได้ชวนตื่นตาตื่นใจ และเต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์ ที่รับรองว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งผลงานจาก MCU ที่แฟน ๆ จะต้องหลงรักอย่างแน่นอน

สามารถรับชม What If…? ซีซั่น 1 ได้แล้ววันนี้ที่ Disney+ Hotstar

What If…?

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Cr.ภาพ: IMDB