ผลงาน Mini Series จาก Apple TV+ สร้างสรรค์โดย อกิวะ โกลด์แมน (A beautiful Mind) และ ท้อดด์ กราฟฟ์ (The Vanishing) โดยเป็นงานที่แรงบันดาลใจมาจากหนังสือ “The Minds of Billy Milligan” ของ แดเนียล เคเยส พร้อมทั้งได้นักแสดงดังอย่าง ทอม ฮอลแลนด์ (Spider-Man: No Way Home) และ อแมนดา ไซเฟรด (ซีรีส์ The Dropout) มารับบทนำ

เรื่องราวของ The Crowded จะว่าด้วย แดนนี่ (ทอม ฮอลแลนด์) เด็กหนุ่มที่เติบโตมาอย่างโดดเดี่ยว และเขายังไม่ถูกกับพ่อเลี้ยง ทำให้เขาเลือกที่จะย้ายไปอยู่อาศัยกับเพื่อนบ้าน จนกระทั่งวันหนึ่ง แดนนี่ ได้ก่อเหตุยิงปืนในที่สาธารณะ เพื่อสังหารพ่อเลี้ยงของตนเอง จนทำให้แดนนี่ต้องถูกจำคุกในระหว่างนั้นเอง รายา (อแมนดา ไซเฟรด) ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาได้รับมอบหมายให้มาสัมภาษณ์แดนนี่ เพื่อหาแรงจูงใจ และคนที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ จนทำให้เธอได้พบความจริงสุดช็อคบางอย่างของแดนนี่

The Crowded Room คือซีรีส์ดราม่า อาชญากรรม ที่มาพร้อมความยาว 10 ตอน โดยซีรีส์จะแบ่งเหตุการณ์เป็นสองเส้นเรื่อง คือเส้นเรื่องปัจจุบันที่เป็นการสัมภาษณ์ และเส้นเรื่องในอดีต ที่เป็นการไขความจริงทั้งหมดของตัวแดนนี่ นอกจากนี้ยังมาพร้อมลูกเล่นแบบซีรีส์ Dahmer ของ Netflix ที่เลือกจะเล่าเหตุการณ์โดยไม่เรียงลำดับเวลา แต่ในระหว่างทางซีรีส์จะให้คนดูค่อยๆ ปะติดปะต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดด้วยตนเอง
ปัญหาของซีรีส์ The Crowded Room คือการที่ซีรีส์พยายามกั้กไฮไลท์ของเรื่องไว้เยอะเกินไป โดยตลอด 5 ตอนแรกของซีรีส์ เลือกที่จะไม่เผยความลับใดๆ ก่อนที่จะมาเผยในช่วง 5 ตอนสุดท้าย ทำให้ครึ่งแรกของซีรีส์เต็มไปด้วยพาร์ทดราม่าที่ยาวเกินจำเป็น บางช่วงค่อนข้างน่าเบื่อ และดูไม่จำเป็นต่อเนื้อเรื่อง

ในขณะที่ครึ่งท้ายของซีรีส์ กลับทำได้อย่างดีเยี่ยม ซีรีส์เต็มไปด้วยประเด็นที่ชวนติดตาม ทั้งพาร์ทดราม่าที่ดูหนักหน่วง จังหวะการเฉลยความจริงที่เหนือความคาดหมาย เต็มไปด้วยเหตุการณ์ที่ชวนกดดัน หดหู่ และสะเทือนอารมณ์ ด้วยความที่ซีรีส์พยายามพูดถึงเรื่องอาการซึมเศร้า โดดเดี่ยว ที่มาจากการใช้ความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ค่อนข้างหนักต่อคนที่มีความเครียด หรือคนที่เป็นโรคซึมเศร้าอยู่ไม่น้อย

ด้านการแสดงของขอชื่นชม ทอม ฮอลแลนด์ ที่มอบหนึ่งในบทบาทที่ยอดเยี่ยมที่สุดในซีรีส์ชุดนี้ เขาสามารถถ่ายทอดความโดดเดี่ยว ความสับสน อ้างว้าง ของตัวละครแดนนี่ ได้อย่างยอดเยี่ยม จนไม่แปลกใจที่บทๆ นี้จะทำให้ ทอม ไม่สามารถถอดบทบาทนี้จากหัวได้ จนต้องพักงานแสดง ในขณะที่ อแมนดา ไซเฟรด ก็ยังช่วยส่งอารมณ์ได้ดีไม่แพ้กัน ซึ่งช่วยยกระดับพาร์ทดราม่าของซีรีส์ให้ทรงพลังมากขึ้น
โดยรวม The Crowded Room คืออีกหนึ่งซีรีส์อาชญากรรม ที่ดูสนุกไม่แพ้ Dahmer แม้เรื่องราวในซีรีส์ครึ่งแรกจะน่าเบื่อไปบ้าง แต่หากดูจนจบ คุณจะพบกับเรื่องราวดราม่าที่ทรงพลัง ชวนติดตาม และเปี่ยมด้วยแง่คิดดีๆ ไม่แพ้ซีรีส์คุณภาพหลายๆ เรื่องง
สามารถรับชมซีรีส์ The Crowded Room ได้แล้ววันนี้ที่ Apple TV+
Cr.ภาพ: IMDB
อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง