Move to Heaven: ซีรีส์เกาหลี เรียกน้ำตาแห่งปี ที่สอนให้คุณรู้จักคุณค่าของชีวิต และความสวยงามของความตาย
ผลงานซีรีส์ Original Netflix เรื่องล่าสุดของเกาหลี ที่ทำมาเพื่อเรียกน้ำตาคนดูตั้งแต่ชื่อเรื่อง พร้อมประเด็นของซีรีส์ที่หยิบเรื่องสัจธรรมอย่างความตายมานำเสนอ ซึ่งแน่นอนว่างานดราม่า ที่พูดถึงความหมายของชีวิตแบบนี้เมื่อเป็นการเล่าเรื่องแบบเกาหลี มันยิ่งทำให้ซีรีส์เรื่องนี้มีความน่าดึงดูดเป็นพิเศษกว่าเรื่องอื่น ๆ

ซีรีส์จะเล่าเรื่องราวของบริษัทเก็บกวาดที่เกิดเหตุที่มีชื่อว่า Move to Heaven โดยหน้าที่ของบริษัทนี้คือการเก็บกวาดสถานที่ที่พึ่งมีคนตาย เพื่อทำการขนย้ายข้าวของ และให้ความเคารพคนตายครั้งสุดท้าย ก่อนจะนำสิ่งของเหล่านั้นไปมอบให้คนที่สมควร

เหตุการณ์ในเรื่องเริ่มขึ้นเมื่อ ฮันกือรู (ทังจุนซัง) ชายหนุ่มวัย 20 ที่เป็นเด็กออทิสติก ผู้มีความสามารถพิเศษในการจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ ต้องสูญเสียพ่อ ผู้เป็นเจ้าของบริษัทไปจากโรคหัวใจ ทำให้ กือรู ต้องรับหน้าที่สืบทอดงานต่อจากพ่อ พร้อมทั้งจู่ ๆ เขาก็ได้กับ โชซังกู (อีจีฮุน) ชายผู้เป็นอาของเขา ที่ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน
ด้วยความที่ ซังกูเคยติดคุกมา และมีบุคลิกที่ต่างกับพ่อของ กือรู โดยสิ้นเชิง ทั้งสองเลยต้องปรับตัวเข้าหากัน และทำหน้าที่ในการช่วยเหลือการย้ายข้าวของคนตายต่อไป ซึ่งงานนี้ก็ได้ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงชีวิตของ ซังกู โดยที่เขาไม่ทันรู้ตัว

Move to Heaven เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์ที่มีความเป็นโฆษณาประกันชีวิตสูงมาก ด้วยประเด็นที่พูดเรื่องความตาย ความไม่แน่นอนของชีวิต แต่ละตอนของซีรีส์จะเต็มไปด้วยแง่คิดที่พยายามบอกทุกคนที่ดูว่า ให้ดูแลคนรอบข้างให้ดีที่สุดก่อนที่จะไม่มีโอกาสนั้น ทั้งนี้ก็ต้องขอชื่นชมทีมผู้สร้าง ที่สามารถทำให้คนดูได้เสียน้ำตา หรือได้ฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
โดยซีรีส์จะใช้วิธีการเล่าเรื่องที่แบ่งเป็นสองเส้นเรื่องที่ดำเนินไปแบบควบคู่กัน เส้นเรื่องหลักจะพูดถึงความสัมพันธ์ของ กือรู และซังกู รวมถึงคนรอบข้าง ซึ่งเนื้อหาจะโฟกัสไปที่เรื่องราวของอาหลานต่างขั้ว ที่มีทั้งโมเมนต์ดราม่า และคอเมดี้ผสมกันไป
ส่วนเส้นเรื่องลองคือเหล่าลูกค้า ที่มาขอความช่วยเหลือให้ทาง กือรู และซังกูไปเก็บกวาดของให้ ซึ่งแต่ละตอนของซีรีส์ก็จะเล่าชีวิตของคนที่ตายที่แตกต่างกันไป อย่างไรก็ตามทั้งสองเส้นเรื่องนี้ก็ยังอยู่ภายใต้หัวข้อของคุณค่าของชีวิต และการยอมรับความตายที่นอกจากจะเป็นการสูญเสีย มันก็ยังเป็นการส่งต่อความทรงจำ ความรู้สึกดี ๆ ให้คนรอบข้าง

อีกหนึ่งเสน่ห์ และสีสันของซีรีส์เรื่องนี้คือการเล่นกับตัวละครกือรู ได้อย่างคุ้มค่า โดยตัวกือรูคือเด็กที่มีความสามารถพิเศษ ในการจดจำสิ่งต่าง ๆ และเชื่อมโยงกันได้ ทำให้เวลาที่เราดูการย้อนอดีตชีวิตของคนตายจากการรวบรวมสมบัติข้าวของ ทำให้เหมือนเรากำลังดูซีรีส์สืบสวนสนุก ๆ อยู่ก็ว่าได้
ด้านนักแสดงเรียกได้ว่าทุกคนตั้งแต่นักแสดงหลัก จนถึงนักแสดงสมทบ ต่างถ่ายทอดบทบาทออกมาได้อย่างน่าชื่นชม ทังจุนซัง สามารถแสดงเป็น กือรู ออกมาได้น่าจดจำตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้เห็นตัวละครนี้ แถมยังเป็นตัวที่ช่วยแบกซีรีส์เรื่องนี้ไว้ ควบคู่ไปกับ อีจีฮุน ที่เป็นทั้งตัวฮา ตัวช่วยเสริมดราม่า ให้เส้นเรื่องหลักของซีรีส์มีหัวจิตหัวใจมากขึ้น
แต่หากให้ว่าถึงข้อเสียของ Move to Heaven ก็คือความเป็นสูตรสำเร็จของซีรีส์เกาหลีที่ยังพยายามขยี้ดราม่าแบบเดิม ๆ ให้คนดูได้เสียน้ำตาในบางช่วง ใครที่ดูซีรีส์เกาหลีมาโชกโชนน่าจะพอเดาเนื้อเรื่องได้บ้าง แต่อย่างไรก็ตามหากมองโดยภาพรวมจุดด้อยตรงนี้ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ หรือบาดแผลที่เลวร้ายมาก

โดยรวม Move to Heaven ถือว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์เกาหลีน้ำดีบน Netflix ที่ลงตัวทั้งด้านประเด็นของเนื้อหา บท รูปแบบการนำเสนอ และการแสดง เป็นซีรีส์ที่ดูแล้วคุณจะได้รับแง่คิดดี ๆ ในการใช้ชีวิต และเห็นความสำคัญของสิ่งของ และคนรอบข้าง พร้อมทั้งยังสอนให้เรามองเห็นว่า แท้ยังแล้วยังความสวยงามของความตาย ที่มีมากกว่าความเศร้า และการสูญเสีย
ติดตามอัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์
Cr.ภาพ: Netflix Thai