Categories
series

รีวิวซีรีส์ My Name

My Name ซีรีส์แนวแอคชั่นล้างแค้น ที่มาพร้อมการเล่าเรื่องที่ให้อารมณ์แบบหนังมาเฟียฮ่องกง

ฉากแอคชั่นทำออกมาได้เท่ ดุดัน และสมจริง และการพลิกบทบาทอันยอดเยี่ยมของ ฮานโซอี

ผลงานซีรีส์เกาหลี Original Netflix เรื่องล่าสุด ที่พร้อมสานต่อความสำเร็จจาก Squid Game อีกครั้ง โดยครั้งนี้ทำมาเพื่อเอาใจคอหนังแอคชั่น อาชญากรรม กับเรื่องราวการล้างแค้นสุดเข้มข้นของ ยุนจีอู (ฮานโซอี) หญิงสาวที่พ่อของเธอถูกฆ่าตายโดยบุคคลปริศนา

ทำให้เธอตัดสินใจที่จะล้างแค้นให้พ่อของเธอ จีอูได้รับความช่วยเหลือจาก ชเวมูจิน (ปาร์คอีซุน) เจ้าพ่อแก๊งอาชญากรรมที่พ่อของเธอทำงานให้ โดย จีอู ได้รับการฝึกฝนให้กลายเป็นนักฆ่าเลือดเย็น และได้ใช้ตัวตนปลอมเพื่อเข้าไปทำงานในหน่วยปราบปรามยาเสพติด ซึ่งเธอต้องรับหน้าที่ตีสองหน้าในการเป็นสายให้แก๊งของ มูจิน และสืบหาตัวคนที่ฆ่าพ่อของเธอ

My name
My name

My Name เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์เกาหลีที่มีรสชาติต่างจากซีรีส์เกาหลีสูตรสำเร็จที่เราคุ้นเคย ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้ได้ใช้ประสิทธิภาพของความเป็นผลงานในเครือ Netflix ได้อย่างเต็มที่เหมือนที่ Kingdom และ Squid Game เคยทำไว้ ในการสร้างความเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งในเรื่องนี้ซีรีส์ก็ได้ถ่ายทอดความเป็นหนังอาชญากรรม หนังแอคชั่น ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ตั้งแต่งานภาพที่มาในโทนมืดหม่น บทหนัง การเล่าเรื่อง ที่เต็มไปด้วยฉากความรุนแรง ทั้งคำพูดและการกระทำ

My name
My name

ในด้านการเล่าเรื่องของ My Name เรียกได้ว่าเป็นงานที่ทำออกมาให้กลิ่นอายเหมือนหนังอาชญากรรมฮ่องกงยุค 80-90 ก็ว่าได้ โดยเนื้อหาซีรีส์จะเต็มไปด้วยการหักเหลี่ยมเฉือนคมระหว่างแก๊งอาชญากรรมด้วยกันเอง และองค์กรตำรวจ ซึ่งนำมาสู่การไล่ล่าสุดเข้มข้น ส่วนด้านตัวเจ้าพ่อก็จะมีความเทา ๆ ไม่ดาร์คสุด หรือดีสุด ซึ่งบริบทบางส่วนจะให้ความรู้สึกคล้ายกับงานชั้นครูอย่าง Infernal Affairs ในด้านการสับขาหลอกไปมา จนคนดูเดาทางไม่ถูกว่าตัวละครไหนคือคนดี หรือคนชั่วที่แท้จริงของเรื่อง

My name
My name

ส่วนของฉากแอคชั่น เรียกได้ว่าทำออกมาได้ดีเยี่ยม แม้ว่าตัวซีรีส์จะไม่ได้มาพร้อมฉากแอคชั่นระดับเวอร์วังอลังการ แต่จะเน้นความสมจริงของฉาก การนำเสนอ ซึ่งความพิเศษของฉากแอคชั่นในเรื่องนี้ คือการเล่นกับมุมกล้องที่มีความเท่ มีชั้นเชิง พร้อมทั้งยังเพิ่มความท้าทายด้วยการถ่ายแบบลองเทคในหลาย ๆ ฉาก จนทำให้ฉากแอคชั่นที่ดูเหมือนจะธรรมดาเหล่านี้ดูไม่ธรรมดาขึ้นมาไม่น้อย

การแสดงของเรื่องนี้ต้องขอชื่นชม ฮานโซอี ที่เรื่องนี้เธอได้สลัดภาพสาวหวาน เซ็กซี้ มาสู่บทที่ท้าทายที่สุดของเธอ ในเรื่องโซอี ได้ถ่ายทอดฉากบู๊หลาย ๆ ฉากด้วยตัวเอง ซึ่งเธอก็สามารถแสดงฉากแอคชั่นออกมาได้อย่างดุดัน ในขณะที่พาร์ทดราม่าในเรื่อง เธอก็สามารถนำเสนออารมณ์ของตัวละครได้อย่างเยี่ยม จนเรียกได้ว่าเป็นบทบาทที่มีททั้งความเท่ และความน่าสงสารอยู่ในตัว

My name
My name

สำหรับข้อเสียของ My Name คือการที่ซีรีส์พยายามเล่าตามสูตรของหนังอาชญากรรมฮ่องกงเกินไป จนตัวซีรีส์แทบไม่มีความเป็นตัวเอง หรือแปลกใหม่เหลืออยู่ โดยเฉพาะการสร้างความสัมพันธ์ของตัวละครที่หากใครดูหนังแนวมาเฟียฮ่องกงมาเยอะ จะพอสามารถเดาตอนจบของเรื่องได้ไม่ยาก และนั่นทำให้จุดหักมุมของซีรีส์เรื่องนี้ดูธรรมดาไปโดยปริยาย

My name
My name

อย่างไรก็ตาม My Name ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์เกาหลีของ Netflix ที่ทำออกมาได้สุดไม่แพ้กับ Kingdom หรือ Squid Game ตัวซีรีส์สามารถถ่ายทอดเรื่องราวของโลกอาชญากรรม การล้างแค้น ได้อย่างสนุก ชวนติดตาม ตั้งแต่ต้นจนจบ ใครที่ชอบหนังอาชญากรรม หนังแอคชั่น ที่มีเนื้อหาดิบ เถื่อน รุนแรง นี่เป็นอีกงานที่คุณไม่ควรพลาด

สามารถรับชม My Name ได้แล้ววันนี้ที่ Netflix

My name

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Cr.ภาพ: Hancinema

Categories
series

รีวิวซีรีส์ Squid Game

ซีรีส์แนว Battle Royal จากเกาหลี

พลอตสูตรสำเร็จ ที่สะท้อนด้านมืดของจิตใจของมนุษย์ ที่ยิ่งดูยิ่งดาร์ค ยิ่งเข้มข้น

หนังแนว Battle Royal หรือหนังแนวระทึกขวัญ เอาชีวิตรอด จากเกมที่เดิมพันด้วยชีวิต ยังคงเป็นหนึ่งใน Gerne หนังที่ได้รับความนิยมมาโดยตลอด ในยุคหลัง ๆ ที่หลายคนนึกถึงก็คือ Escape Room และซีรีส์ Alice In Borderland ล่าสุดเกาหลีก็ได้มีซีรีส์ Squid Game เกมที่นำคนที่ยากจน เป็นหนี้ และกำลังตกอับถึงขั้นขีดสุดในชีวีต มาแข่งขันกันในเกมทั้งหมด 6 เกม ที่หากใครสามารถผ่านครบทุกเกม จะได้เงินรางวัลสูงถึง 45,600 ล้านวอน แต่ทว่าหากใครที่แพ้จะต้องตาย

Squid Game
Squid Game

Squid Game ยังคงเป็นซีรีส์ที่มาพร้อมสูตรสำเร็จของหนังแนว Battle Royal ในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์เกม ที่เล่นกับการละเล่นของเด็ก ๆ ในเกาหลี แต่ดัดแปลงเงื่อนไขให้ยาก และบีบหัวใจมากกว่าเดิม ส่วนด้านตัวกรรมการ หรือผู้อยู่เบื้องหลังของเกม ก็จะมาพร้อมคาแรคเตอร์แบบมหาเศรษฐีผู้ลึกลับ และมีความจิต ๆ อยู่ในตัว นอกจากนี้หนังยังมาพร้อมความโหด ความรุนแรง ที่อยู่ในรูปแบบของเนื้อหา มากกว่าการนำเสนอฉากเลือดสาด สยดสยอง

Squid Game
Squid Game

ความโดดเด่นของ Squid Game คือการเล่นกับอารมณ์คนดูได้อย่างยอดเยี่ยมยิ่งกว่าซีรีส์ หรือหนังแนวนี้เรื่องอื่น ๆ โดยมีการใช้เวลาในช่วง 2 Ep. แรกของเรื่องในการปูเรื่องอย่างค่อยเป็นค่อยไป และชวนติดตาม โดยเฉพาะการปูมิติตัวละคร ที่แต่ละคนต่างมีสาเหตุในการที่ต้องมาร่วมเกมนี้อย่างไม่มีทางเลือก และเมื่อพอคนดูรู้สึกร่วมกับตัวละครหลัก มันก็ทำให้ในระหว่างเรื่องคนดูได้ลุ้นไปกับตัวละครนั้น ๆ

แต่ส่วนที่เหนือชั้นกว่านั้นของ Squid Game คือการเล่นกับความรู้สึกของตัวละคร และคนดูได้อย่างทรงพลัง โดยแต่ละเกมในซีรีส์เรื่องนี้ ไม่ได้แค่โหด แค่ชวนลุ้นเท่านั้น แต่ทว่าแต่ละเกมยังมีการเล่นกับความสัมพันธ์ เล่นกับจิตใจผู้เล่นอีกด้วย ในแต่ละเกมจะมีการเล่นกับเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ทำให้สะท้อนจิตใจด้านมืดของจิตใจคนออกมา รวมทั้งการสร้างสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกให้กับแต่ละตัวละคร ที่ต้องห้ำหั่นเอาชีวิตกันเอง มันทำให้นอกจากคนดูจะได้ลุ้นกับเกมแล้ว ยังสะเทือนอารมณ์กับแต่ละสถานการณ์ของซีรีส์เรื่องนี้อีกด้วย

Squid Game
Squid Game

ด้านการแสดงของทีมนักแสดงนำแต่ละคนก็สามารถนำเสนอบทบาทออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม อีจองแจ (Along With the Gods) สามารถเปลี่ยนลุ้คมาเป็นชายติดพนัน มาดเซอร์ จนแทบจำไม่ได้ ในเรื่องนี้เขาต้องถ่ายทอดฉากอารมณ์มากมาย ในแต่ละตอน จนสามารถสร้างอารมณ์ร่วมกับคนดูได้อย่างถึงอารมณ์ ในขณะที่ ปาร์คแฮซู ก็ได้ถ่ายทอดบทบาทที่เสมือนเป็นขั้วตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง ด้วยการเป็นตัวละครที่มีสีเทา ค่อนข้างไปทางดำ และน่าจะเป็นตัวละครที่สะท้อนจิตใจของคนในสมัยดีได้อย่างดี และนอกจากนี้ซีรีส์เรื่องนี้ก็ยังเอาใจติ่งเกาหลี ด้วยการใส่เซอร์ไพรส์ ด้วยนักแสดงรับเชิญที่คาดไม่ถึงไว้ในเรื่องอีกด้วยเช่นกัน

ในส่วนของข้อเสียของ Squid Game คือความสูตรสำเร็จของซีรีส์ ที่พอสามารถเดาทิศทางของเนื้อหาบางส่วน บริบทของตัวละครยังมาตามสูตรของหนังระทึกขวัญ รวมทั้งประเด็นของชนชั้น ที่แทบจะไม่ได้แตกต่างจากเรื่องอื่น ๆ นอกจากนี้ในช่วงท้ายซีรีส์ยังพยายามที่จะหักมุม แต่ก็ยังไม่สามารถสร้างเซอร์ไพรส์คนดูได้สุดเท่าที่ควร

Squid Game
Squid Game

อย่างไรก็ตาม Squid Game ก็ได้กลายเป็นอีกหนึ่งหนังแนว Battle Royal ที่สร้างมาตรฐานใหม่ของหนังแนวนี้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการเล่นกับอารมณ์คนดูแบบกระหน่ำ จัดเต็ม จนทำให้ทั้ง 9 Ep. ของซีรีส์เรื่องนี้ คุณจะรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของตัวละคร และของเกมนี้ ที่คุณจะได้ทั้งลุ้น ทั้งระทึก ทั้งตื่นเต้น และเสียน้ำตา สะเทือนใจ ในแต่ละสถานการณ์ที่ซีรีส์มอบให้

สามารถรับชมซีรีส์ Squid Game ได้แล้ววันนี้ที่ Netflix

Squid Game

อัพเดทซีรีส์น่าดู และมาแนะนำ รีวิว series ทั่วทุกมุมโลกผ่าน series-nime.com กันทุกสัปดาห์ และติดตามผ่าน Page Facebook ที่ รวมพลคนบันเทิง

Cr.ภาพ: www.hancinema/Netflix